บทที่ 4
“มันเป็นอุบัติเหตุ ใครใช้ให้เธอมายืนตรงประตูตอนที่ผมจะลงจากรถพอดีแบบนี้ละครับ อีกอย่างผมไม่ได้พิศวาสจนต้องจูบผู้หญิงบ้านๆ อย่างเธอหรอก” ขณะพูดอีธานก็ก้าวเท้าลงจากรถก่อนจะยืนเต็มความสูง ชายหนุ่มสูงมาก สูงจนมธุรดาต้องเงยหน้าขึ้นมองยามพูดคุยด้วย
“นายว่าใครเป็นผู้หญิงบ้านๆ” สาวสวยประจำตลาดร้อยปีเริ่มเดือด เพราะต่อให้เธอไม่ได้สวยระดับนางงาม เธอก็มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ว่าสวยในระดับที่ไม่อายใครก็แล้วกัน แต่เมื่อถามแล้วชายหนุ่มกลับนิ่งไม่ตอบ มธุรดาจึงสรุปเองว่าเขาหมายถึงเธอ
“หน๋อย!! จะมากไปแล้วนะ จอดรถขวางทางเข้าบ้านคนอื่นยังไม่พอ ยังจะทำตัวทุเรศๆ ใส่เขาอีก” มธุรดาเท้าสะเอว เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ท่าทางของเธอยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้สึกสนุกกับการได้ต่อล้อต่อเถียงด้วย
“นี่ทางเข้าบ้านเธอเหรอ”
“ก็ใช่นะสิ”
“แสดงว่าเธอเป็นคนแถวนี้ งั้นพอรู้ไหม ว่าตลาดร้อยปีไปทางไหน”
“รู้” ได้ยินแบบนี้ก็เข้าทางเจ้าถิ่น มธุรดานั้นคิดวิธีเอาคืนผู้ชายตรงหน้า แต่การพูดคุยระหว่างอีธานเจ้านายกับหญิงสาวปริศนาก็ทำให้คนขับรถของชายหนุ่มที่นานๆ จะขับรถให้อีธานก็ออกแนวงุนงงไม่น้อย เพราะปรกติอีธานไม่ใช่คนชอบต่อปากต่อคำกับใครโดยเฉพาะกับผู้หญิง เจ้านายคนนี้วางตัวดี มีมาดสุดเนี๊ยบ พูดน้อย จนใครต่อใครพากันเกร็งไปหมด แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับอีธานถึงได้ดูแตกต่างไปจากเดิม
“งั้นช่วยบอกทางผมที ชดเชยที่เมื่อกี้ผมเกือบเสียจูบให้เธอไปเหมือนกัน” อีธานเอ่ยล้อ การต่อปากต่อคำกับผู้หญิงใช่ว่าจะเลวร้าย เพียงแค่ชายหนุ่มไม่ทำกับคนใกล้ตัวให้เสียการปกครองก็เท่านั้นเอง ชีวิตคนเรามักมีหลายมุมเสมอ
“แหวะ...ทำยังกับฉันอยากได้จูบนายนักหนา” ทั้งสองคนยืนสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร คนขับรถของอีธานได้แต่ยืนดู ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน
“ดา...มีอะไรหรือเปล่าลูก” เสียงของจิตตาดังขึ้น หลังจากยืนมองบุตรสาวพูดคุยกับคนที่เธอไม่คุ้นหน้ามานานจึงตัดสินใจเดินเข้ามาถามใกล้ๆ
“อ้อ...คนหลงทางแวะถามทางนะจ้ะแม่ ไม่มีอะไร” มธุรดาหันไปตอบมารดาที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะหันมามองหน้าอีธาน
“สรุปนายจะไปตลาดร้อยปี”
“ครับ” อีธานเอ่ยรับ แต่ระหว่างพูดคุย ด้วยอาชีพชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะแอบใช้สายตามองสำรวจรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวคนตรงหน้าไปด้วย อดไม่ได้จริงๆ แม้จะไม่อยากมองผู้หญิงหน้าสวยแต่วาจาออกจะกวนโมโหคนนี้ก็ตามที มองไปมองมาสิ่งที่อีธานสะดุดคือแววตาของมธุรดา แววตาคู่นี้ช่างน่ามองอย่างประหลาด ถ้าจับไปถ่ายแบบแล้วโฟกัสแค่ดวงตา รับรองต้องสวยสะกดทุกคนที่ได้เห็นอย่างแน่นอน แต่อีกใจกลับค้านว่าเธอคงไม่เหมาะกับชีวิตในวงการมายา
“ขับรถตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายสองครั้ง เลี้ยวขวาครั้งหนึ่งก็ถึงแล้ว”
“ขอบคุณ ครับ” คำว่าครับดูจะห่างจากคำว่าขอบคุณนิดหน่อย แต่มธุรดาที่มีแผนเอาคืนอยู่ในใจก็ส่งยิ้มให้
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ” พูดจบหญิงสาวก็หมุนตัวกลับเข้าบ้านทันที อีธานกลับขึ้นรถก่อนจะบอกเส้นทางให้คนขับรถตามที่หญิงสาวบอก
จิตตาแปลกใจที่เห็นบุตรสาวกลับมาบ้านเวลานี้ พอถามไปถามมาถึงรู้ว่ามีคนเหมาผลไม้เสียหมดแผง ส่วนที่กลับมาเพราะอยากได้จานสวนๆ สักใบไปใส่ผลไม้ที่เธอปอกไว้ เมื่อได้จานใบสวยมธุรดาก็ขับมอเตอร์ไซด์กลับมายังตลาด ผิดกับอีธานที่ตอนนี้รถของเขาขับวนหลงทางวนไปวนมาอยู่ในถนนเส้นเล็กๆ ซึ่งรอบข้างคือสวนผลไม้แทบมองหาทางออกไปพบ กระทั่งมาถึงถนนตันที่ไร้ทางออก นั่นทำให้เขาต้องจอดรถถามทางกันอีกครั้ง เพราะคนบอกเส้นทางคนแรกจงใจบอกทางผิดให้นั่นเอง ซึ่งดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ตัวเอาตอนที่เขาเสียเวลาไปมากแล้ว
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าเจอกันอีกรับรองฉันเอาคืนเธอแน่ แม่สาวชาวสวนตัวแสบ!!”
เพียงอรชะเง้อมองหารถของผู้เป็นเจ้านาย เพราะเลยเวลานัดหมายมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วแต่อีธานกลับยังเดินทางมาไม่ถึง แต่เมื่อครู่เธอโทรศัพท์ไปสอบถามแล้ว จึงรู้ว่าเจ้านายหลงทางอีกไม่น่าจะเกินห้านาทีคงมาถึง ผิดกับนักแสดงและทีมงานที่มารอรับซึ่งยังไม่รู้ ต่างพากันหงุดหงิดเล็กๆ โดยเฉพาะนักแสดงคนสำคัญอย่างแพทตี้ แต่พอเห็นรถอีธานแล่นเข้ามาเธอก็ยิ้มออก
“อุ๊ย! นั่นรถคุณอีธานนี่นา” แพทตี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับรีบกุลีกุจอออกหน้าเพื่อไปรอรับอีธานเป็นคนแรก หญิงสาวยืนยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังก้าวเท้าลงจากรถ
“คุณอีธาน ทำไมถึงมาช้าจังเลยคะ แพทตี้มายืนรอคุณตั้งนาน ดูสิร้อนก็ร้อน ผิวแพทตี้แดงไปหมดแล้ว” ขณะพูดก็ยื่นแขนที่มีรอยแดงๆ เพราะเมื่อครู่แพทตี้บิดแขนตัวเองจนเป็นรอยให้ชายหนุ่มได้เห็น ว่าเธอนั้นพูดจริงทุกคำ
“รถมีปัญหานิดหน่อย” น้ำเสียงทุ้มๆ เอ่ยตอบ แต่ไม่ได้ให้ความสนใจรอยแดงหลอกๆ ของแพทตี้แต่อย่างใด สายตาอันคมกริบมองไปรอบๆ เพียงครั้งเดียว ก่อนที่ชายหนุ่มจะมองไปยังเพียงอร
“มีปัญหาอะไรไหมคุณอร ทำไมถึงมีคนมายืนออ มองผมกันแบบนี้”
“อ้อ...ไม่มีปัญหาอะไรคะ นักแสดงกับทีมงานในกองตั้งใจมารอรับคุณอีธานนะคะ” คำตอบของเพียงอรทำให้คนฟังไม่พอใจเล็กๆ เพราะไม่ต้องการให้การมาเยี่ยมกองถ่ายภาพยนตร์ของเขานั้น ส่งผลต่อการทำงาน
“ขอบคุณมากที่มารอรับผม แต่พวกคุณควรกลับไปทำงานของตัวเองกันได้แล้ว” คำพูดของอีธานทำให้เหล่านักแสดงและทีมงานพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที แม้คำพูดนี้จะทำให้สุภาพสตรีบางคนที่หวังให้อีธานสนอกสนใจว่าเธอนั้นมารอรับชายหนุ่มจะอารมณ์เสียเล็กๆ ก็ตามที
“คุณอีธานทานอะไรมาหรือยังคะ”
