ร่ายรักเชลยใจ

122.0K · จบแล้ว
ไอริส
56
บท
46.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"พี่รามไปฉุดสาวมาให้หน่อย”“อะ...อะไรน่ะไอ้ลักษณ์ พูดใหม่อีกทีสิ ตะกี้พี่ฟังไม่ค่อยชัดเท่าไร” พ่อเลี้ยงรามาเอ่ยย้ำด้วยความไม่แน่ใจคิดว่าตนเองหูฝาดไป“พี่รามฟังไม่ผิดหรอกครับ ลักษณ์อยากให้พี่รามไปฉุดเนตรอัปสรมาอยู่ที่ฟาร์มของเรา”“หาคุกให้พี่แล้วน่ะไอ้ลักษณ์”ใช่! ลักษณ์กำลังหาเรื่องให้ตัวเองและพี่ชายต้องติดคุกหัวโต แต่ทำไงได้ ก็ในเมื่อรับปากน้องชายไปแล้ว พ่อเลี้ยงรามา แห่งสตาเลียน ฟาร์ม จำต้อง 'ฉุด' สาวเจ้ามาให้น้องชายแต่ดันซวย 'ฉุด' ผิดตัว เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดขึ้นในฟาร์มเพาะม้าพันธุ์ดีแห่งนี้ เมื่อพ่อเลี้ยงรามาดันไปตกหลุมรักหญิงสาวที่ฉุดมากับมือ!!!

นิยายรักโรแมนติกรักแรกพบโรแมนติก

บทที่ 1

ใบพัดกังหันลมนับร้อยตัวที่โบกพัดหวีดวิวนำมาซึ่งพลังงานธรรมชาติผลิตทั้งกระแสไฟและพลังงานน้ำต่อเติมแต่งแต้มแหล่งชีวิตให้ผู้คนทั่วทั้ง ‘สตาเลียน ฟาร์ม’ ท้องฟ้าสีครามกลุ่มปุยเมฆสีขาวสะอาดดูกลมกลืนเข้ากันได้ดีกับยอดหญ้าสีเขียวขจีที่กำลังโบกพัดพลิ้วไหวล้อเล่นเริงระบำหยอกเอินกับสายลมที่พัดผ่านบางเบา

ฝูงม้าสายพันธุ์อาหรับ สายพันธุ์ที่ได้รับฉายาว่า ‘ผู้ดื่มด่ำสายลม (Drinkers of the Wind)’ หรือสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกอย่าง ‘ยิปซีแวนเนอร์’ ที่มีอยู่ไม่กี่ตัวในเมืองไทย ม้าขี่สายพันธุ์มอร์แกนด์ อเมริกันแซคเคิลและอีกหลายๆ สายพันธุ์ต่างก็เดินเล่น วิ่งเหยาะๆ อยู่ทั่วบริเวณอาณาเขตนับร้อยๆ ไร่ของสตาเลียนฟาร์ม (Stallion Farm)

รามา กษิดิส หรือพ่อเลี้ยงรามตามคำเรียกสั้นๆ ของคนงานในฟาร์ม พ่อเลี้ยงผู้ห้าวหาญแข็งแกร่งดุจหินผาเจ้าของ ‘สตาเลียน ฟาร์ม’ ซึ่งเป็นฟาร์มเพาะม้าส่งม้าจำหน่ายให้สโมสรต่างๆ เกือบทั่วภูมิภาคเอเชียรวมถึงทวีปอเมริกา กำลังยืนดูคนงานกอดปล้ำคลุกฝุ่นกับปฏิบัติการฝึกม้าให้เชื่อง

‘ร็อคกี้’ พ่อพันธุ์ม้าสายพันธุ์อาหรับสีดำขลับที่เพิ่งมาถึงที่ฟาร์มเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมากำลังพยศได้ที่ คนงานกี่คนๆ ก็ยังปราบเจ้าร็อคกี้ไม่ลงสักที

“พอเถอะว่ะไอ้กรณ์ กว่าไอ้ร็อคกี้จะเชื่องกูกลัวว่าพวกมึงกระดูกจะหักกันเสียก่อน”

พ่อเลี้ยงรามเอ่ยห้ามน้ำเสียงติดจะรำคาญ ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว ‘กรณ์’ ลูกน้องคนสนิทก็ปราบเจ้าร็อคกี้ไม่ลงสักที แค่กรณ์แตะบังเหียนไม่ทันจะได้ขึ้นไปบนหลังม้า เจ้าร็อคกี้ก็สะบัดไอ้กรณ์จนลอยละลิ่ว

กรณ์ลุกขึ้นตบฝุ่นตามต้นแขนต้นขาออกแล้วยิ้มแห้งๆ ให้พ่อเลี้ยง

“พ่อเลี้ยงจะลองหน่อยมั้ยครับ เจ้าร็อคกี้มันพยศน่าดู ผมว่าเจ้าร็อคกี้มันคงจะไม่ชอบผมสักเท่าไร”

“เออ...เดี๋ยวข้าจะจัดการมันเอง ลองดูสักตั้งว่าคนหรือม้าจะแน่กว่ากัน”

พ่อเลี้ยงก้าวลอดรั้วไม้สีขาวเข้าไปใกล้เจ้าร็อคกี้ มือหนาอบอุ่นเต็มไปด้วยความเมตตาปราณียกขึ้นไปลูบเบาๆ ตรงแผงลำคอสวยสง่าของอาชาไนย พ่อเลี้ยงพึมพำในลำคอเบาๆ เป็นการปลอบเมื่อเจ้าร็อคกี้สะบัดคอหนี มือหนาวางนิ่งนานครู่หนึ่งก่อนจะลูบปลอบเบาๆ จนกระทั้งเจ้าร็อคกี้สงบนิ่งไปชั่วขณะ เท้าแข็งแกร่งในรองเท้าบู๊ทสำหรับขี่ม้ากำลังจะก้าวเท้าเหยียบโกลนเตรียมขึ้นบนหลังม้าก็ต้องหยุดชะงักไว้ก่อนเมื่อได้ยินเสียงตะโกนแว่วมาแต่ไกล

“พ่อเลี้ยงครับ แย่แล้วครับ พ่อเลี้ยงอยู่ไหน”

‘หล้า’ ลูกน้องคนสนิทของนายลักษณ์วิ่งหน้าตาตื่นกระหืดกระหอบตะโกนลั่นทุ่งตามหาพ่อเลี้ยงหนุ่ม

พ่อเลี้ยงเท้าสะเอวหันไปจ้องเขม็งมองคนที่กำลังวิ่งมายังบวิเวณฝึกม้าพร้อมกับเอ่ยต่อว่าเสียงดัง

“มีอะไรไอ้หล้า ตะโกนลั่นไร่ยังกับใครจะเป็นจะตาย”

“ตายครับพ่อเลี้ยง...งานนี้ตายลูกเดียว...นายลักษณ์กำลังคลั่งจะฆ่าตัวตาย พ่อเลี้ยงรีบไปห้ามเดี๋ยวนี้เลยครับ”

หล้าเอามือเท้าหัวเข่าหอบหายใจเสียงดังเอ่ยตอบเสียงละล่ำละลักใบหน้าซีดเผือดสายตาหวาดหวั่นด้วยกลัวพ่อเลี้ยงจะไปไม่ทันการณ์

“มันเป็นบ้าอะไรของมันอีกว่ะ”

พ่อเลี้ยงสบถด่าเสียงดัง เหยียบโกลนม้าแล้วดันตัวขึ้นไปนั่งสง่างามบนตัวอาชาไนยอีกตัวที่อยู่ในบริเวณฝึกม้าก่อนจะกระแทกเท้าตรงสีข้างเบาๆ เพื่อบังคับให้ม้าออกวิ่งมุ่งหน้าไปยังเรือนพักหลังงาม

เมื่อพ่อเลี้ยงควบม้าไปพ้นรัศมีแล้วหล้าก็เดินโซซัดโซเซไปพิงรั้วสีขาวอย่างหมดแรง ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อเลี้ยงไปห้ามนายลักษณ์ไม่ทัน แต่เพราะกลัวพ่อเลี้ยงจะจับได้ว่าสิ่งที่ตนเองบอกไปเมื่อสักครู่เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ไอ้ครั้นจะไม่ทำตามคำสั่งของนายลักษณ์ก็โดนเตะ ครั้นทำตามคำสั่งของนายลักษณ์แล้วถูกพ่อเลี้ยงจับได้ก็โดนเหมือนกัน

“ตายแน่กู งานนี้ตายแน่” หล้าบ่นงึมงำกับเพื่อนรักที่เดินมาเมียงมองด้วยความสงสัย

“ใครตายว่ะไอ้หล้า นายลักษณ์หรือว่ามึง” กรณ์เอ่ยถามเสียงกลั้วหัวเราะ

“ข้าสิตาย ถามได้” หล้าถลึงตามองเพื่อนรักนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบเสียงห้วน

“กลัวตายแล้วเสือกมาโกหกพ่อเลี้ยงทำไมว่ะ” กรณ์เอ่ยถามอย่างรู้ทัน

“ถ้าไม่โกหก ข้าก็โดนนายลักษณ์เล่นงานเหมือนกัน”

“เฮ้อ!...น่าสงสารว่ะ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง”

กรณ์แกล้งทำเสียงเศร้าราวกับสงสารเพื่อนรักเต็มประดา เขาเดินไปตบบ่าคนที่นั่งคอตกไหล่ห่อเข้าหากันอย่างหนักมือก่อนจะเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี

“ข้าแนะนำน่ะไอ้หล้า ถ้าไม่อยากเจอตีนพ่อเลี้ยง ข้าว่าเอ็งรีบไปหมกตัวอยู่ท้ายไร่หรือไม่ก็ไปอยู่ที่คอกนังดาวนิล ไม่งั้น...พ่อเลี้ยงกลับมาเอ็งได้ตายสมใจนึกแน่”

กรณ์เอ่ยเตือนเรียบร้อยก็กระโดดขึ้นบนหลังม้าแล้วควบหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอฟังเสียงตะโกนด่าไล่หลังของเพื่อนรักที่ได้ยินแว่วๆ มาตามสายลม

“ไอ้กรณ์!...ตกลงมึงเตือนหรือว่าสมน้ำหน้าข้าว่ะ”

หล้าตะโกนถามไล่หลังเพื่อนรักที่ควบม้าไปไกลแล้ว นึกๆ ไปแล้วทำตามที่กรณ์แนะนำก็เห็นท่าว่าจะดีที่สุด อย่างน้อยไปดูแลม้าที่คอกก็ยังดีกว่าต้องไปเผชิญหน้ากับไฟพิโรธของพ่อเลี้ยงรามา