ตอนที่ 10
ภายในห้องสวีทโทนสีครีมเงียบสนิทมีเพียงเสียงลมหายใจของสองคน ผิวกายเปลือยเปล่าเย็นเฉียบจนทำให้เจ้าของร่างลุกนั่งสะบัดไล่ความมึนงง กันตธรอ้าปากหาวด้วยความเคยชินเพราะคิดว่านี่คือห้องนอนและเป็นเช้าของวันทำงาน ดวงตาเรียวคมลืมเต็มตามองทัศนียภาพภายในห้องด้วยความสงสัย เขานิ่งงันชะงักค้างคิดว่าตนอยู่ในความฝัน
สะบัดไล่ศรีษะหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ตื่น กันตธรเม้มริมฝีปากแน่น เขาอยู่ที่ไหนกันแน่แล้วมาที่นี่ได้อย่างไร ลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างที่ตนพบเจอ
“เช้าแล้วเหรอ?”เสียงหวานดังแว่ว
คนตัวใหญ่หลับตาแน่นภาวนาให้สิ่งที่คิดไม่เป็นความจริง ค่อยๆ หันคอเอียงมอง และแล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้
เจ้าของเสียงหวานลุกนั่งอ้าปากหาว บิดกายขับไล่ความเมื่อยโดยไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนนั้นอยู่ในสภาพเช่นใด ยกมือกุมขมับเพราะอาการปวดร้าว ครู่หนึ่งเมื่อปรับสภาพตนเองดีแล้วจึงใช้สายตามองรอบตัว เมริยานั่งแข็งเหมือนร่างกายตนไม่มีเรี่ยวแรง ไม่ใช่บ้านได้ยังไง
ยกมือขึ้นกุมขมับหาเหตุผลให้ตัวเองเหตุใดถึงไม่จบที่ห้องนอนตนเองเหมือนทุกที ที่นี่ที่ไหนมาอยู่ได้ยังไงกัน หรือเธอพลาดเสียแล้ว หันมองด้านข้างมีใครหรือเปล่าที่อยู่เคียงยามค่ำคืนที่ผ่านมา สองสายตาผสานกันเมริยาชะงักดวงตาเบิกกว้างริมฝีปากสั่นระริก
“กรี๊ด!!”
“เฮ้ย!”
สองคนกรีดร้องพร้อมกัน เมริยาจ้องมองตนเองผ้าห่มเลื่อนลงมาจนเกือบถึงเอว ร่างไร้ซึ่งอาภรณ์ใดปกปิดรีบดึงผ้ากลับมากระชับไว้ กันตธรเมินหนีใบหน้าเรียวคมแดงก่ำเปิดผ้าก้มมองตนเองยังเบื้องล่าง ไม่อยากเชื่อเลยทำไมเขาถึงทำอะไรไร้สติแบบนี้ หาเรื่องให้ตนเองแท้ๆ คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวหย่อนขาลงข้างเตียง อยากจะบ้าตายจำไม่ได้เลยสักอย่าง ถ้าทำมันต้องรู้สึกสิเขาคิดเช่นนั้น
“เป็นไปได้ยังไง ไม่เข้าใจเลย!”เขารำพึงกับตนเอง
“แกทำอะไรฉัน ทำไมทำกับฉันแบบนี้!”เมริยาต่อว่าน้ำตาคลอ ดึงผ้าห่มแล้วขยับห่างจากเขา
“บ้าหรือไง ผมยังไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป ถ้าผมมีสติดีผมบอกเลยไม่มีทางที่ผมจะยุ่งกับผู้หญิงแบบคุณเด็ดขาด!”
เมริยากัดฟันจ้องมองดวงตาเขียวขุ่น หมายความว่ายังไงไอ้คำพูดแสนน่าเกลียดแบบนี้
“ผู้หญิงแบบฉันเป็นยังไงฮะ พูดให้มันดีๆ นะ!”หญิงสาวตวาดแว๊ด
“ก็อย่างที่เห็นไงล่ะ เมาแล้วไม่รู้จักระวังตัว ปล่อยตัวไปเรื่อย!”
“นี่คุณ ปากหรือไงที่พูดน่ะ!”
“แล้วคุณเห็นว่าเป็นอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ปาก!”กันตธรย้อน ตอนนี้มันน่าหงุดหงิดเขาไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยหรอก
ตกลงเธอเป็นคนผิดหรือไง ทั้งที่เสียใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาควรเอ่ยคำขอโทษเธอหรือไม่ก็ปลอบโยนแสดงท่าทีรับผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นี่อะไรนอกจากไม่มีคำขอโทษแล้ว ยังมีแต่ถ้อยคำถากถางเยาะเย้ย ไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด
“คุณทำกับฉันแบบนี้ แล้วยังมีหน้ามาว่าฉันอีกเหรอ!”หญิงสาวน้ำตาคลอ
“จะมาเรียกร้องเอาอะไร ปกติเรื่องพวกนี้คุณก็ทำอยู่แล้วเป็นประจำไม่ใช่หรือไง!”
คนฟังสะท้อนในอก คนภายนอกปกติมองเธอในแง่นี้อยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่เขาไม่แปลกที่มันควรเป็นเช่นนี้ แต่กันตธรไม่มีสิทธิ์มาพูดจาแสนทุเรศ เหมือนต้องการย้ำกันให้จมดิน กันฟันข่มกลั้นมากกว่านี้ไม่ไหวเสียแล้ว จับหมอนข้างตัวฟาดลงบนลำตัวคนนิสัยเสีย
“หยุดเดี๋ยวนี้ คุณทำบ้าอะไร!”เขาตวาด แล้วปัดหมอนออก
“ปากดีนักใช่ไหม ผู้ชายเฮงซวย ไอ้คนไม่มีจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบ!”