ตอนที่ 2 แอบมอง 2
กระทั่งถึงวันสงกรานต์ บ้านเธอและบ้านของปิ่นปักพากันขับรถกระบะออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กัน เธอจึงรู้แก่ใจแน่ชัดแล้วว่า เขามองเธอแน่นอน แต่คงไม่มีใครเชื่อเธอ หรืออาจจะบอกว่าเธอคิดมากไป หญิงสาวจึงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันถึงเวลาที่เพียงรักจะกลับบ้าน เพราะใกล้เวลาเปิดเทอม ทั้งเพียงรักและปิ่นปักแลกเบอร์โทรศัพท์กันเอาไว้ เพื่อเอาไว้ติดต่อกัน หญิงสาวไม่ได้เข้าไปเล่นในบ้านของปิ่นปัก เพราะเธอต้องทยอยเก็บข้าวของใส่กระเป๋า รอบิดามารดามารับ
วิ้วววว
เสียงผิวปากดังขึ้น เมื่อเพียงรักมาเก็บล้างจานที่หลังครัว หญิงสาวมองซ้ายมองขวาตามหาเสียง ก่อนจะมีเสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นมาจากริมกำแพง หญิงสาวสะดุ้งโหยง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเป็นเสียงของ กิตติธร หรือ ป่าน พี่ชายอีกคนของปิ่นปัก ที่อายุมากกว่าเธอหลายปีกำลังเรียกเธออยู่
“หนูรัก”
เพียงรักเดินมาที่ริมกำแพง ที่มีช่องจากลายก้อนอิฐ ทำให้สามารถมองผ่านได้ เหมือนตอนที่เธอทำความรู้จักกับปิ่นปัก ก็คุยกันผ่านกำแพง
เมื่อเดินมาถึง เพียงรักเห็นกิตติธรยืนอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ ด้วยความตื่นเต้นกึ่งตกใจ อันที่จริงเธอแอบมองกิตติธรมาตั้งแต่ก่อนจะได้เข้าไปเล่นในบ้านของปิ่นปักเสียด้วยซ้ำ
“เรียกหนูเหรอ มีอะไรคะ”
“เบอร์พี่ โทรมาด้วยนะ”
กิตติธรยื่นกระดาษแผ่นเล็ก ลอดช่องกำแพงส่งให้เพียงรัก หญิงสาวรับมาถืองงๆ ยังไม่ทันได้เปิดดู กิตติธรก็เดินจากไป
เมื่อชายหนุ่มหายลับตาไปแล้ว เพียงรักเปิดกระดาษแผ่นเล็กที่รับมาถือในมือดู ก่อนจะพับเก็บใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้น และเดินจากไปเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เพียงรักก็เดินทางกลับบ้านของเธอ เพื่อกลับไปเรียนตามปกติ โดยที่ตัวเธอเองก็ยังไม่ได้ติดต่อหากิตติธรตามเบอร์ที่เขาให้มา เพราะยังยุ่งๆ อยู่กับช่วงเวลาเปิดเทอม จนผ่านไปกว่าอาทิตย์ เธอถึงมีเวลาว่าง และนึกถึงเขาขึ้นมา จึงหยิบกระดาษที่เขาจดเบอร์โทรศัพท์มาให้เธอ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนจะกดแป้นพิมพ์ตามตัวเลขบนกระดาษ แล้วกดโทรออกในที่สุด
“ฮัลโหล”
“…..พี่ป่าน”
“หนูรักเหรอ”
“ค่ะ”
“พี่นึกว่าจะไม่โทรมาหาพี่แล้วนะเนี่ย เห็นหายไปเลย”
“ก็หนูรักไม่ว่างนี่คะ”
“จ้ะ แล้วทำอะไรอยู่”
“กำลังจะนอนค่ะ”
“อื้ม งั้นพี่จะโทรหาหนูรักได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
“จ้ะ งั้นพี่ทำงานก่อนนะ”
“ค่ะ”
หลังจากกิตติธรวางสายไป เพียงรักได้เกิดคำถามขึ้นในใจตัวเองว่าเขากำลังจีบเธอหรือไม่ แต่เธอคงคิดมากไปเอง ในเมื่อเขากำลังคบกับญาติของเธออยู่ เขาคงคุยเล่นกับเธอมากกว่า
คิดเพียงแค่นั้น หญิงสาวก็ล้มตัวลงนอน และปิดโคมไฟบนหัวเตียง เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป
หลังจากนั้น กิตติธรก็โทรมาคุยกับเพียงรักทุกวัน จนวันปิดเทอมได้เวียนกลับมาอีกครั้ง เพียงรักเก็บเสื้อผ้าเพื่อไปอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัดของเธอตามปกติ และบิดามารดาของเธอส่งเธอเอาไว้ แล้วก็เดินทางกลับเลย ไม่ได้อยู่ค้างกับเธอเหมือนทุกครั้ง
หลังจากมาที่นี่ เธอและกิตติธรแอบคุยกันตามปกติ แม้แต่เวลาเข้าไปเล่นกับปิ่นปักในบ้าน เธอกับกิตติธรก็ยังแอบสบตากันเวลาที่เจอกัน จนวันที่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มาถึง
“ออกมาหาพี่หน่อยสิ”
“หาที่ไหน”
“ข้างหลัง เดินเข้ามาด้านใน เดี๋ยวพี่ออกไปทางประตูหลัง”
“โอเค”
หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อย เพียงรักก็เดินออกจากบ้านไปอย่างเงียบเชียบ เดินเข้าไปทางหลังบ้าน ซึ่งยังมีบางส่วนที่เป็นป่าอยู่ เพราะยังไม่ได้ทำอะไร จึงปล่อยทิ้งเอาไว้แบบนั้น
เมื่อมาถึงเธอก็ตัวเกร็งเล็กน้อย เมื่อกิตติธรได้รวบเอวเธอไปกอดเอาไว้ก่อนจะหอมแก้มเธอ หญิงสาวเองก็คุยกับเขาจนหลงรักเขา จึงปล่อยให้เขาซุกไซร้จนเกือบจะเลยเถิด แต่ด้วยความตื่นกลัว ทำให้เธอผลักเขาออกพร้อมกับกรีดร้องออกมา
กิตติธรรับรู้ว่าหญิงสาวในอ้อมกอดเกิดอาการกลัว จึงสัมผัสได้ว่าเธอไม่เคยผ่านมือใคร เขาจึงยอมปล่อยเธอ ลูบศีรษะเพียงรักเบาๆ และบอกให้เธอกลับบ้าน
เพียงรักสีหน้าตื่นกลัว รวบรวมสติเดินกลับบ้าน พร้อมกับสำนึกได้ว่า เธอเกือบจะตกเป็นของเขา และเขาก็เป็นจูบแรกของเธอ
หลังจากวันนั้นมา เพียงรักก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่นี่ มีกลับมาบ้าง แต่เมื่อเจอหน้ากิตติธร ทั้งเขาและเธอก็ไม่มีใครพูดอะไร ต่างฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ปล่อยให้มันจางลง และอยู่ในความทรงจำของทั้งสองคนเพียงแค่นั้น