บทที่ 12
วันต่อมา.. เมื่อคืนนี้เพื่อนก็ไปเที่ยวที่โรงเหล้านั้นเหมือนเดิม แต่กลับไม่ดึกเท่าไหร่ เพราะตอนเช้าต้องได้ไปช่วยงาน
อย่างที่รู้ว่าบ้านเพื่อนอยู่แถวชนบท
หมู่บ้านที่เพื่อนอยู่ยังยึดถือประเพณีโบราณ ที่ผู้เฒ่าผู้แก่เคยมีมาก่อน
พอถึงงานประเพณี ผู้ใหญ่บ้านกำนันต่างก็จัดเตรียมทำบุญประเพณีกันที่วัด คนในหมู่บ้านต่างก็ช่วยงานกันแบบขยันขันแข็ง ตอนเย็นอาจจะมีวงดนตรี หรือไม่ก็รำวงหมู่บ้าน ซึ่งส่วนมากจะใช้สาวๆ ในหมู่บ้านนั่นแหละเป็นสาวรำวง
"ปีนี้มึงจะเป็นสาวรำวงไหมวะเพื่อน"
"จะเหลือเหรอ ป่านนี้แม่คงใส่รายชื่อกูไว้แล้วล่ะ"
"กูก็คงไม่รอดเหมือนกันแหละ"
ทั้งสองมาเจอกันที่วัด เพราะวันนี้ถูกแม่บังคับให้มาช่วยงานวัด เพื่อจัดเตรียมทำโรงทาน ให้กับหมู่บ้านอื่นที่จะมาเที่ยวงานในเย็นวันพรุ่งนี้
"เพื่อนๆ มาหั่นผักหน่อยเร็ว" เสียงรุ่นพี่ที่มาช่วยงานเหมือนกัน เรียกให้เพื่อนเข้าไปช่วยในครัว
"ให้เพื่อนเนี่ยนะช่วยหั่นผัก.. ให้เพื่อนช่วยยกเก้าอี้ยังจะดีกว่านะพี่"
"จริงด้วยค่ะ เดี๋ยวมันก็หั่นมือตัวเองด้วยหรอก" จันทร์จ้าแอบนึกขำ เพราะเพื่อนอาจจะเก่งหลายอย่าง แต่ยกเว้นงานครัว
"เป็นผู้หญิงยิงเรือต้องหัดทำครัวไว้สิ ถ้าออกเรือนไปจะทำอะไรให้ผัวกินวะ"
"ก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยเลยพี่"
"มึงก็ไปเถียงพี่เค้า กูเป็นคนหั่นผักก็ได้ มึงล้างผักแล้วกัน" จันทร์จ้าคว้ามือเพื่อนให้เดินตามเข้าไปในครัวเพื่อช่วยงาน
เย็นวันเดียวกันนั้น..
"เหนื่อยยย" กลับมาถึงบ้านเพื่อนก็นอนแอ้งแม้งอยู่ที่หน้าบ้านนั่นแหละ ไม่มีแม้แรงจะเข้าไปนอนในบ้าน
บรึ๊นนน~ ถึงแม้ไม่มีแรงจะเข้าไปในบ้าน แต่พอได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์ข้างบ้านสตาร์ทเครื่องเท่านั้นแหละ ถึงกับรีบลุกขึ้นแล้วเดินมาส่องดู
"พี่สง" เธอเรียกสงกรานต์เบาๆ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่า "วันนี้เพื่อนไม่ไปที่โรงเหล้านะ ไปช่วยงานวัดมาเหนื่อยมากเลย พรุ่งนี้ก็ต้องได้ไปเป็นสาวรำวงให้ที่วัดอีก เพื่อนคงไม่ได้ไปสักสองคืน"
จบคำพูดของเพื่อนรถบิ๊กไบค์คันนั้นก็ออกตัวไป
"คงไม่ได้ฟังเราอีกสิท่า..เฮ้ย..เหนื่อยจังเลย" หญิงสาวถอนหายใจแล้วเดินโซซัดโซเซเข้าบ้านไป
ดึกๆ ที่โรงเหล้า
"ทำไมพรุ่งนี้ถึงจะไม่มา" แนนได้ยินว่าสงกรานต์ ขอหยุดงานคืนพรุ่งนี้ ก็รีบมาถาม
"มีธุระ"
"ธุระอะไร"
"ธุระที่บ้าน" นักร้องผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวที และตอนนี้สงกรานต์ก็ลงมาพักผ่อนด้านล่าง
"ถ้าสงกรานต์ไม่มา ถ้างั้นแนนไปขอหยุดบ้างดีกว่า"
"แนนจะขอหยุดทำไม วงยิ่งขาดคนอยู่" เพราะไนท์ก็ยังมาร้องเพลงไม่ได้
"ก็สงกรานต์ไม่มา..แล้วแนนจะมาทำไม" เพราะสิ่งที่เธอสนใจในวงนี้ไม่ใช่งานร้องเพลง..แต่เป็นสงกรานต์
พอแนนไปขอหยุดงานอีกคนก็ถูกหัวหน้าตำหนิ และไม่อนุญาตให้หยุด เพราะถ้านักร้องขาดไปอีกคน ทางวงคงจะบางตามาก
ช่วงบ่ายของวันต่อมา..
"แล้วกูจะกล้าใส่ชุดนี้ไหมวะเนี่ย" จันทร์จ้ายกชุดสาวรำวงขึ้นมาดู เพราะมันโป๊มาก เขาทำแบบสาวฮาวาย ที่นำฟางมาทำเป็นแบบสายๆ
"มึงก็หุ่นดีนี่หว่า ใส่เข้าไปคงจะสวยน่าดู" เพื่อนแอบนึกขำ เพราะว่าจันทร์จ้าไม่เคยใส่อะไรที่เซ็กซี่แบบนี้ ไม่เหมือนกับเธอ
"กูลาออกทันไหมวะ"
"ไม่ทันแล้ว"
จันทร์จ้ามาแต่งตัวที่บ้านของเพื่อน เพราะที่นี่อุปกรณ์การแต่งตัวครบ สาวรำวงทุกคน ต้องแต่งตัวเองและก็นัดเจอกันที่วัดเลย
เย็นวันนั้น..
"น้องเพื่อน?" พอเพื่อนเดินออกมา ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูทักทายมาจากข้างบ้าน
"พี่ไนท์" เพื่อนส่งยิ้มหวานให้ไนท์ "พี่หายดีแล้วเหรอคะ"
"ก็ดีขึ้นมากแล้ว"
"พี่มาเที่ยวงานวัดด้วยเหรอคะ"
"ได้ยินว่าที่นี่มีสาวรำวง พี่ก็เลยอยากจะมาดูให้เป็นบุญตา" ที่จริงเรื่องนี้ไนท์ไม่ได้ยินมาจากสงกรานต์หรอก ได้ยินจากเพื่อนที่หมู่บ้านเดียวกัน เขาก็เลยคิดว่าสาวรำวงหนึ่งในนั้นต้องเป็นเพื่อนแน่
"เพื่อนสวยไหมคะ" เพื่อนหมุนตัวให้ไนท์ดู "อุ๊ย" พอหมุนแล้วกระโปรงฟางเกิดสะบัดแรงไปหน่อยก็เลยโป๊
"รำวงที่วัดทำไมต้องใส่อะไรที่มันโป๊ขนาดนี้ด้วย" จากที่กำลังพูดคุยกันสนุก ๆ อยู่ พอได้ยินเสียงอีกคนหนึ่งที่เดินมาใหม่ ทุกคนถึงกับเงียบ .. เพราะมันคือเสียงของสงกรานต์
"ถ้าใส่ชุดแม่ชี จะมีใครกล้าไปคล้องมาลัย" เพื่อนพูดเบาๆ แต่ก็คงได้ยินทุกคนนั่นแหละ
ตัดไปที่วัด... ตอนนี้ใกล้เวลาเริ่มงาน และคนก็เริ่มทยอยกันเข้ามาหนาตามากแล้ว
"ทำไมลูกพี่ถึงมาเร็วจังเลย"
"ถ้ามาช้ากูจะทันคล้องมาลัยว่าที่เมียของกูหรือไง สวยขนาดนั้นเดี๋ยวหนุ่มๆ ก็คล้องเอาไปก่อน" และหนึ่งในนั้นที่มางานวัดก็คือชาติลูกชายกำนัน