บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ทาสทรยศไปตายให้หมด

หญิงสาวในกระจกสวมชุดสีแดง ถึงจะฉีกขาดยับเยิน แต่ผิวที่เผยออกมานั้นผ่องใส เนียนนุ่มละเอียดดูบอบบาง เห็นร่องรอยสีเขียวม่วงจากการถูกทารุณนั้นแล้วก็ยิ่งตกตะลึง

รูปร่างได้รูปของหญิงสาวนั้นงดงามมาก เดิมเป็นลักษณะที่ดีน่าหลงใหล แต่ว่าใบหน้าใบนั้น ปานแดงม่วงอันนั้น ไล่จากหัวคิ้วซ้ายลงมาถึงมุมปาก มันดูน่าเกลียดและน่าขยะแขยงอย่างมาก

แก้วหน้าม้าอย่างถูกต้อง?

หยุนหรั่นเฟิงกระตุกมุมปาก อัปลักษณ์จริงๆ

หน้าตาเจ้าของร่างเดิมนี้ เอาความกล้ามาจากไหน ไปตามตื๊อเซียวจิ่นหมิง? เซียวจิ่นหมิงถึงจะสารเลว แต่ใบหน้านั้นสุดจะบรรยาย บวกกับนิสัยแย่ๆของเจ้าของร่างเดิม ไม่แปลกเลยที่เซียวจิ่นหมิงไม่ชอบนาง

แต่เจ้าของร่างเดิมเต็มใจที่จะเสื่อมสลาย ตนเองตายไปแล้วก็จบเรื่อง กลับทิ้งเรื่องย่ำแย่มากมายก่ายกองไว้ให้นาง ซวยจริงๆ

นางขยับเข้าไปใกล้กระจกตรงหน้า แล้วคิดวิเคราะห์ ภายในความทรงจำ ปานแดงนี้เป็นปานของเจ้าของร่างเดิมที่มีมาตั้งแต่เกิด วิเคราะห์จากการที่นางเป็นนักไวรัสวิทยาปริญญาเอกการแพทย์ น่าจะเป็นปานจากการแข็งตัวของหลอดเลือดผิดปกติ ในยุคปัจจุบันสามารถรักษาได้ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์

เสียดายที่นี่เป็นยุคโบราณ อย่าว่าแต่ทำเลเซอร์เลย แค่ป่วยเป็นไข้หวัดยังสามารถตายได้ ใครยังจะไปสนใจเรื่องมีปานหรือไม่มีปาน

แต่หยุนหรั่นเฟิงมองดูเครื่องมือแพทย์รอบๆที่คุ้นเคย โชคดีที่ห้องทดลองก็ตามมาด้วย แค่ปานเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกหรือ

หยุนหรั่นเฟิงกำลังคิดที่จะตรวจดูปานนี้ ข้างนอกกลับมีเสียงดังเอะอ่ะโวยวาย สายตาหยุนหรั่นเฟิงเย็นชา หรือว่าผู้ชายสารเลวเมื่อวานคนนั้นกลับมา? นางลูบกำไลหยก กลับมายังเตียงห้องหอที่ยุ่งเหยิงอีกครั้ง

แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ประตูใหญ่ถูกกระแทกเปิดจากข้างนอก ยายเฒ่าตัวเตี๊ยอ้วนท้วนเล็กน้อยเดินเข้ามาจากประตู อีกฝ่ายทำหน้าบูดบึ้ง เมื่อเห็นหยุนหรั่นเฟิงก็ร้องโวยวายขึ้นมาว่า “โอ้พระเจ้า สายป่านนี้แล้วเจ้าสาวยังไม่ตื่น กฎของจวนแม่ทัพใหญ่ ทำให้ต้องยกยอจริงๆ”

หยุนหรั่นเฟิงถูกรบกวนให้เสียเรื่องพอ ได้ยินคำพูดเหน็บแนม ก็อดไม่ได้ที่โกรธจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นใคร? เช้าขนาดนี้มาร้องเห่าหอนทำไม”

ยายเฒ่าอมยิ้มอย่างแปลกประหลาด ถอยหลังไปสองก้าว กวาดสายตามองดูรอบๆ รอยยิ้มยิ่งลึก พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเป็นแม่นมที่เป็นผู้ดูแลในจวนองค์ชายแปด เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องหอเมื่อคืน ทุกคนในจวนต่างรู้กันหมด ข้าหวังดี จึงมาสั่งสอนพระชายา เกี่ยวกับกฎปฏิบัติภายในจวน”

ผู้ดูแล?

หยุนหรั่นเฟิงขมวดคิ้ว สายตาเฉียบคมแฝงไปด้วยความดูถูก มองพิจารณาดูแม่นมคนนั้น ท่าทีน่าเกรงขาม พร้อมตำหนิพูดขึ้นว่า “ก็แค่คนใช้ ใครให้ท้ายเจ้า ไม่ขออนุญาตก่อนบุกเข้ามาในห้องนอนพระชายา นี่ก็คือกฎปฏิบัติในจวนองค์ชายของพวกเจ้าหรือ?”

ยายเฒ่าส่งเสียงเมิน เงยคางขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เป็นคำสั่งขององค์ชายแปด”

“ถึงแม้พระชายาจะมีชาติกำเนิดสูงศักดิ์ แต่พฤติการณ์กำเริบเสิบสานนั้นเป็นที่รู้กัน องค์ชายเราภูมิฐานสง่างาม องอาจไม่ธรรมดา อย่างเจ้าที่หน้าอัปลักษณ์ขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะบีบบังคับยัดเยียดตัว ไม่คู่ควรที่จะเป็นพระชายา”

“เป็นเพราะองค์ชายเราใจดี จำใจยอมรับเจ้า ดังนั้นพระชายาต้องจำไว้ว่า นับตั้งแต่นี้ต่อไปหากไม่มีธุระอะไรห้ามออกไปจากประตูนี้ จะได้ไม่เป็นการรบกวนองค์ชาย”

หยุนหรั่นเฟิงมองดูยายเฒ่าอย่างสูงศักดิ์ อ้าปากพูดพล่ามไม่รู้จบ ฝีปากอ้าหุบจนน้ำลายกระเซ็นออกมา น่าขยะแขยงอย่างมาก

ฟังคำพูดพวกนี้เสร็จแล้ว นางโกรธจนขำ นางเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ไปเอาเรื่องเซียวจิ่นหมิงก็ช่างเถอะ เขากลับให้ท้ายบ่าวใช้เฒ่าคนหนึ่งมาเหยียดหยามนาง?

หยุนหรั่นเฟิงหรี่ตาลง โบกมือพร้อมหัวเราะเย้ย ฟาดตบหน้ายายเฒ่าหนึ่งที ใบหน้าที่อ้วนท้วนถูกตบจนสั่นไหว จนฝ่ามือนางชา

แต่ในใจนางนั้นสะใจอย่างมาก

ความอัดอั้นตันใจที่เมื่อคืนถูกเซียวจิ่นหมิงรังแก ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วไม่น้อย

ยายเฒ่าถูกตบหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร้องเจ็บปวดขึ้นมา เอามือกุมหน้าอยู่สักพัก แล้วค่อยพูดขึ้นอย่างทั้งโกรธทั้งตกใจว่า “เจ้ากล้าตบข้า?”

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ย สายตามองดูอยู่อย่างดูถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “ตบเจ้าแล้วยังไง? ข้าเป็นพระชายาที่ฮ่องเต้ไทเฮาประทานพระราชโองการให้แต่งงานกับองค์ชายแปด จะสั่งสอนเจ้าที่เป็นเพียงบ่าวใช้ไม่ได้หรือ?”

สีหน้ายายเฒ่าเปลี่ยนไป นางเป็นแม่นมที่ดูแลปรนนิบัติฉีซินจื่อมาตลอด คิดว่าแม่นางตนเองจะต้องได้เป็นพระชายาแปดอย่างแน่นอน ปกติกระทำเรื่องวางอำนาจรังแกคนอื่นไม่น้อย

ตอนนี้ตำแหน่งพระชายาของแม่นางตนถูกผู้หญิงคนนี้แย่งชิงไปแล้ว อย่างแรกนางสงสารแม่นาง อย่างที่สองกลัวว่าต่อไปตนเองจะไม่ได้มีชีวิตที่ดี จึงมาแก้แค้นแทนแม่นาง

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ย ในใจนึกสงสัย ทำไมในห้องนี้ถึงไม่มีคนอื่น?

สายตากวาดมองภายในห้อง แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่า เจ้าของร่างเดิมยังมีสาวใช้ที่ติดตามมาคนหนึ่งชื่อหลินหลัง

ทั่วทั้งจวนองค์ชาย มีเพียงหลินหลังที่จริงใจต่อเจ้าของร่างเดิม ตนเองเพิ่งมาอยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องมีคนที่ไว้ใจได้อยู่ข้างกายจะดีกว่า

คิดได้แบบนี้ สีหน้าหยุนหรั่นเฟิงเยือกเย็น ชี้หน้ายายเฒ่าพร้อมพูดสั่งว่า “สาวใช้ของข้าถูกเจ้าจับขังไว้ใช่ไหม? รีบปล่อยตัวคืนมาให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะลงโทษเจ้าโทษฐานทำร้ายข้า”

ยายเฒ่ากลับหัวเราะเย้ยขึ้นมา ร่างกายก็ไม่สั่นเทาแล้ว ตรงกันข้าม กลับจงใจยืดหน้าอกพร้อมพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “พระชายาอย่าเพิ่งรีบโกรธโมโห บ่าวใช้ของท่านกระทำความผิด ยังไงก็ต้องได้รับโทษ รอหลังจากสั่งสอนเรียบร้อยแล้ว ก็จะส่งกลับคืนมาให้ท่านเอง ในเมื่อท่านยึดมั่นในสถานะของตนเอง ก็ควรบังคับใช้กฎปฏิบัติอย่างเป็นกลางถึงจะถูก”

บังคับใช้กฎปฏิบัติอย่างเป็นกลางอะไร? เห็นได้ชัดว่าเป็นการฉวยโอกาสรังแกคนของนาง

สายตาเยือกเย็นของหยุนหรั่นเฟิงจับจ้องมองยายเฒ่าอยู่นาน แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “หลินหลังเป็นสาวใช้ติดตามข้ามา ต่อให้มีความผิด ก็ควรให้ข้าลงโทษเอง พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาชี้มือชี้เท้า?”

ยายเฒ่ากระตุกมุมปากเมินอย่างต่อเนื่อง พร้อมพูดขึ้นว่า “กระทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษ นี่เป็นกฎของจวน ในเมื่อเป็นสาวใช้ของท่าน ก็ไม่ยกเว้น สาวใช้ชั่วคนนั้นรบกวนท่านอ๋อง ต่อให้ถูกเฆี่ยนจนตายโยนศพทิ้งไปก็ไม่เกินเหตุ หากท่านอยากได้คน งั้นก็ไปคุยกับองค์ชายเอง”

พูดเสร็จ ยายเฒ่าก็หันเดินจากไปอย่างได้ใจ

หยุนหรั่นเฟิงหนักใจ เซียวจิ่นหมิงยอมช่วยนางสิแปลก

นางต้องคิดหาวิธีจัดการยายเฒ่าปลิ้นปล้อนคนนี้ ไม่อย่างนั้นเป็นถึงพระชายาแปด ไม่เพียงไม่สามารถปกป้องสาวใช้ตนเอง ยังให้บ่าวใช้มาทำกำเริบเสิบสาน ต่อไปก็ยากที่จะเป็นที่น่าเกรงขาม

คิดได้แบบนี้ สายตาหยุนหรั่นเฟิงเยือกเย็น ในชั่วพริบตา ก็มียาเม็ดพิเศษอยู่ในมือแล้ว ก้าวเท้าไล่ตามยายเฒ่า ฉวยโอกาสก่อนที่นางจะเดินออกจากประตู คว้าดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายไว้ แล้วลากดึงกลับมา

ยายเฒ่าถูกลากจนเซ ยังไม่ทันได้ตอบโต้ หยุนหรั่นเฟิงก็โยนยาเม็ดใส่ลงไปในปากกว้างของยายเฒ่า ยาเม็ดนั่นเล็กเท่าเมล็ดข้าว เข้าปากแล้วก็ละลาย ยังแฝงไปด้วยรสขมเล็กน้อย

ยายเฒ่ากลืนลงไปอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นค่อยรู้สึกตัว พูดขึ้นมาอย่างตกตะลึงว่า “เจ้า เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน”

หยุนหรั่นเฟิงเลิกคิ้ว หัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของดีไง”

เพิ่งพูดเสร็จ ยายเฒ่าสั่นกระตุกเล็กน้อย แล้วทั้งร่างกายก็เกิดอาการคันขึ้นมา เดิมนางอยากอดกลั้นไว้ แต่ทนไม่ได้กับอาการคันเหมือนมดหลายสิบตัวมาแทะตามตัว

มือทั้งคู่ของยายเฒ่าเกาตามตัวอย่างควบคุมไม่ได้ อาการคันทั่วร่างกายทำให้นางอยู่ไม่สุข แม้แต่การแสดงออกทางสีหน้าก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ตะคอกก่นด่าขึ้นว่า “เจ้าคนสารเลว....เจ้าทำอะไรข้า?”

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะขึ้นมาอย่างชั่วร้าย พร้อมพูดขึ้นว่า “อันนี้หรอ เรียกว่าผงพันแมลง เป็นของดีที่ข้าตั้งใจคิดค้นขึ้นมาเพื่อบ่าวใช้กำเริบเสิบสานในสายตาไม่เห็นหัวใครอย่างเจ้า ทานลงไปแล้วออกฤทธิ์ทันที มีอาการคันอย่างยากที่จะทนไหว หากไม่มียาถอนพิษของข้า เจ้าก็จะคันไปตลอด เกาจนร่างกายของเจ้าถลอกเนื้อปริ้น เลือดไหลจนหมด....”

ยายเฒ่าขนลุกขึ้นมาทันที ต่อให้ในใจไม่อยากเชื่อ แต่ก็ไม่สามารถทนอาการคันได้ คุกเข่าลงกับพื้น พร้อมร้องไห้คร่ำครวญว่า “โปรด โปรดไว้ชีวิต....พระชายาโปรดไว้ชีวิต บ่าวมีตาแต่ไม่มีแวว ท่านอภัยให้ข้าด้วยเถอะ......”

แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้ว?

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “อภัยให้เจ้าก็ได้ เอาสาวใช้ของข้ากลับคืนมา”

ยายเฒ่าก้มหน้าตอบรับ หันวิ่งออกไป สักพักก็พาสาวใช้อายุสิบสองสิบสามคนหนึ่งมา

หยุนหรั่นเฟิงดูสภาพของสาวใช้คนนี้ชัดเจนแล้ว ก็โกรธจัดขึ้นมา....สาวใช้เพิ่งอายุสิบสองสิบสามเอง ใบหน้าเท่าฝ่ามือ กลับถูกตบทำร้ายจนแทบไม่มีเค้าเดิม แก้มบวมเป่ง เต็มไปด้วยรอยเลือด.....

หัวใจหยุนหรั่นเฟิงเต้นแรง นางจ้องมองถลึงตาใส่ยายเฒ่า แววตาแฝงไปด้วยเลือด พร้อมถามขึ้นอย่างดุดันว่า “อยากได้ยาถอนพิษ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel