บท
ตั้งค่า

บทที่ 17 ทำให้ผู้หญิงคนนี้ขุ่นเคืองใจอีกแล้ว

เสิ่นชิวสุ่ยไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ เธอกำผ้าปูที่นอนที่อยู่ใต้ผ้าห่มไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

เสียงฝีเท้าที่อยู่ข้างนอกประตูเหมือนจะดังเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณเสิ่นชิวสุ่ย

แต่ว่า หลังจากที่เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ไม่ได้ตามด้วยเสียงเคาะประตู แต่เสียงฝีเท้ายิ่งอยู่ยิ่งไกลออกไป จนกระทั่งหายไป

รอหนึ่งนาทีกว่า เห็นไม่มีใครเปิดประตูห้องนอนเข้ามา เสิ่นชิวสุ่ยจึงโล่งใจ เธอเพิ่งจะเห็นว่า ร่างกายของตัวเองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ภายในห้องรองรับแขก ฉีเทียนอาบน้ำล้างตัวเสร็จ ก็นอนลงบนเตียง

ชีวิตที่อยู่ในคุกสามปี ทำให้ฉีเทียนรู้สึกไม่ค่อยชินกับความรู้สึกที่เป็นอิสระนี้

แม้ว่าสภาพแวดล้อมพิเศษที่อยู่ภายในคุกเทียนหยินนั้นฉีเทียนจะไม่ถูกจำกัดอะไรมากนัก แต่ผู้เฒ่าเจียงกำหนดแผนการฝึกวิชาน่ากลัวกว่าการฝึกโหดอย่างปีศาจเป็นหลายเท่า

นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ที่นุ่มและสบาย ตอนแรกฉีเทียนยังไม่ค่อยชิน หลับตาทั้งสอง ภายในสมองของฉีเทียนก็จะมีแต่เนื้อหาฝึกวิชาทั้งหมดปรากฏออกมา ทำให้เขารวบรวม ทบทวน พัฒนาสิ่งที่เรียนมาตลอดเวลา

ฉีเทียนยังคำพูดของผู้เฒ่าเจียงได้ดี วิหารราชามังกรเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก อยากจะควบคุมวิหารราชามังกร อันดับแรกต้องมีแหวนอันดับสอง ทุกคนต้องยอมรับในตัวคุณ!

การบริการที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่บางแขนงเท่านั้น แต่เป็นแต่ละแขนง!

วิหารราชามังกรรับสมัครอัจฉริยะทั่วโลก ในนั้นมีปรมาจารย์ต่อสู้ที่มีความสามารถมากและแข็งแกร่ง และยังมีปรมาจารย์แพทย์ที่ฟื้นคืนชีพได้ มีปรมาจารย์จิตรกรรมที่ได้รับความชื่นชอบของชนชั้นสูงทั่วโลก รวมทั้งหมากรุก การประดิษฐ์ตัวอักษรและการวาดภาพ ปรมาจารย์ที่มีฝีมือทำอาหารมีหลากหลายระดับ

และเจ้าแห่งวิหารราชามังกร ต้องให้คนเหล่านี้ที่มีความชำนาญในสาขาปราบปรามพวกเขา ถึงจะได้รับการยอมรับจากพวกเขา

อยากจะเป็นเจ้าแห่งวิหารราชามังกร อาศัยแค่ความพยายามไม่ได้ พรสวรรค์ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!

สาเหตุที่ฉีเทียนถูกเลือก ก็เพราะผู้เฒ่าเจียงเห็นพรสวรรค์ของเขา

แต่แม้ว่า​ฉีเทียนจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ภายในเวลาสั้น ๆ เพียงสามปี มีเวลาเพียงแค่วินาทีเดียวก็ห้ามยอมแพ้!

ต่อให้สิ่งที่ฝันขณะนอนหลับอยู่ เป็นสิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

ท่ามกลางความรู้หลากหลายที่ไหลเข้ามาในหัว ฉีเทียนค่อย ๆ หลับไป

กลางดึกเวลาตีสอง ภายในห้องนอนหลักของวิลล่า เสิ่นชิวสุ่ยนอนอยู่ที่นี่ พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ

แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนระเบียงหน้าต่าง เสิ่นชิวสุ่ยลุกขึ้นมาจากเตียง เปิดประตูอย่างเงียบ ๆ เบามือ เสียงกรนดังเข้ามาในหูของเสิ่นชิวสุ่ย ดังมาจากห้องรองรับแขก

เสิ่นชิวสุ่ยเดินไปดูที่ห้องรองรับแขก เห็นประตูห้องเปิดอยู่ ฉีเทียนนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง หลับลึกมาก ๆ มองไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้าง ๆ ฉีเทียนจัดเสื้อผ้าของเขาเข้าไปเรียงตู้เสื้อผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว

เสิ่นชิวสุ่ยหน้าแดงขึ้นมาทันที นี่หมายความว่าอะไร? หมายความว่าฉีเทียนตั้งใจจะนอนห้องรองรับแขกตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีความคิดที่อยากจะเข้าไปในห้องนอนหลักเลย! กลับเป็นตนเองที่คิดไปในทางนั้น!

ความรู้สึกที่แปลกผระหลาดแพร่ไปทั่วหัวใจของเสิ่นชิวสุ่ย เสิ่นชิวสุ่ยหันหลังกลับทันที เดินกลับไปที่ห้องนอนหลักเหมือนวิ่งหนี ปิดประตูห้อง อยู่ในห้องนี้เพียงลำพัง ความรู้สึกแปลก ๆ ที่อยู่ในใจของเสิ่นชิวสุ่ยจึงค่อย ๆ ลดลงไปอย่างมาก

หลังจากอาบน้ำล้างตัวเสร็จ เสิ่นชิวสุ่ยก็นอนลงบนเตียง ในที่สุดก็นอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว

หลังจากที่นอนลงไปได้สิบนาที เสิ่นชิวสุ่ยก็ลุกขึ้นมาอย่างฉับพลัน ยกผ้านวมผืนบาง ๆ ที่อยู่บนตัวออก ลงจากเตียงแล้วเดินไปข้างหน้ากระจกสูงจากเพดานจรดพื้นที่อยู่ในห้องแต่งตัว มองดูรูปร่างอันไร้ที่ติในกระจก ต่อให้ลบเครื่องสำอางออก หน้าตาที่สวยงามนี้ก็ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ เลย

รูปร่างที่รักษาไซส์ s ตลอดทั้งปีนี้ก็สวยงามสมบูรร์แบบที่สุด เหมือนเป็นประติมากรรมที่สร้างโดยฝีมือพระเจ้า

เสิ่นชิวสุ่ยหมุนอยู่กับที่หนึ่งรอบ ทำแก้มพอง ๆ กัดฟันอย่างรุนแรง กำหมัดไว้แน่น

“ฉีเทียน คุณรังแกคนอื่นมากเกินไปแล้ว!”

ฉีเทียนที่กำลังหลับลึกอยู่ในห้องรองรับแขกไม่รู้ว่า ตนเองทำให้ผู้หญิงคนนี้ขุ่นเคืองใจอีกแล้ว

เช้าวันต่อมา เวลาแปดโมงเช้าฉีเทียนลุกขึ้นมาจากเตียง มองแวบหนึ่ง ประตูห้องนอนหลักเปิดออกแล้ว ภายในห้องไม่มีใครสักคน รถของเสิ่นชิวสุ่ยที่จอดอยู่ในลานบ้านก็ไม่อยู่แล้ว

ฉีเทียนมาที่ลานบ้าน อากาศในยามเช้าเย็นสบาย ฝึกต่อยมวยไปหนึ่งเซ็ต แล้วค่อยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู

บนเว็บรายงานข่าวของวิหารราชามังกรตระกูลเสิ่นถูกจับหมดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ฉีเทียนก็จะได้ข่าวทันที

ข้อมูลที่หนึ่ง เสิ่นเผิงปินที่หนีออกจากบ้านเมื่อสองปีก่อนวันนี้เจ็ดโมงครึ่งตอนเช้าปรากฏตัวอยู่ที่เสิ่นซื่อ กรุ๊ป!

ข้อมูลที่สอง เสิ่นเผิงปินประกาศว่าเช้าวันนี้มาถึงเทียนหยิน ความจริงแล้วมาถึงเทียนหยินตั้งแต่เช้ามืดของเมื่อคืน และแอบพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของเสิ่นซื่อ กรุ๊ป ทั้งคืน

รวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหวังหรงและจ้าวเฉิง ก็ส่งมาเช่นกัน

ฉีเทียนกวาดสายตามองไปแวบหนึ่ง แล้วลบข้อความเหล่านี้ไป มุ่งหน้าไปที่บริษัทเฉียวหลิง

เมื่อวานนัดกับเฉียวหลิงไว้แล้ว

เวลาแปดโมงครึ่งตอนเช้า เฉียวหลิงจอดรถไว้ข้างหน้าบริษัท ถือโทรศัพท์ไว้ในมือ

“พ่อคะ ฝ่ายตรงข้ามบอกว่ามาเจอที่ห้องทำงานของหนูเช้านี้ รายละเอียดลูกค่อยบอกพ่ออีกที”

มีเสียงของผู้ชายวัยกลางคนดังออกมาจากโทรศัพท์ของเฉียวหลิง : “หลิงเอ๋อร์ จี้หยกนี้คุณปู่ของลูกเก็บไว้ให้ก่อนเสียชีวิต ปู่ของลูกไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก แต่ลูกต้องระวัง แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามรับปากคำร้องขอของพวกเราแล้ว แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับองค์กรแบบนี้ อะไรที่พวกเขาไม่อยากทำ ลูกก็ห้ามบังคับให้พวกเขาทำ! เมื่ออยู่ต่อหน้าองค์กรแบบนี้ ตระกูลเฉียวอย่างพวกเราก็เหมือนมดตัวหนึ่ง เข้าใจไหม?”

เฉียวหลิงพยักหน้า : “พ่อไม่ต้องห่วงค่ะ หนูเข้าใจแล้ว”

ผู้ชายที่อยู่ในโทรศัพท์พูดกับเฉียวหลิงอีกสองสามประโยค เฉียวหลิงค่อยวางโทรศัพท์

เฉียวหลิงกำลังจะเข้าไปในบริษัท จู่ ๆ ก็เห็นคน ๆ หนึ่งดักอยู่ข้างหน้าตนเอง คนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านี้ทำให้เฉียวหลิงขมวดคิ้วขึ้นมา

ฉีเทียนถือโรตีไข่แล้วกัดหนึ่งคำ ยิ้มให้เฉียวหลิงแล้วพูดว่า : “คุณเฉียว”

“คุณเองเหรอ?” เฉียวหลิงขมวดคิ้วขึ้นมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้เฉียวหลิงรู้สึกดีต่อฉีเทียนขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ก็แค่ดีขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับตัวของฉีเทียนแล้ว เฉียวหลิงยังคงรู้สึกรังเกียจ

ฉีเทียนกินโรตีไข่คำสุดท้ายเข้าไป ขยำถุงพลาสติกแล้วทิ้งเข้าไปในถังขยะที่อยู่ข้าง ๆ : “คุณเฉียว พวกเราไปคุยกันในห้องทำงานของคุณไหม?”

เฉียวหลิงปฏิเสธฉีเทียนโดยไม่ลังเลเลยสักนิด : “ขอโทษนะ ฉันไม่มีเวลา”

เฉียวหลิงพูดพลาง เดินเลยฉีเทียนไป มุ่งหน้าไปที่ประตูของบริษัท

ฉีเทียนพูดทันทีว่า : “เกี่ยวกับเรื่องของชิวสุ่ย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ผมว่าคุณเฉียวเองก็รู้ดีว่ามีความเสี่ยงมากแค่ไหน”

สิ่งที่ฉีเทียนพูด คือเหตุการณ์ที่เสิ่นชิวสุ่ยโดนคุกคามที่ประตูวิลล่าในช่วงบ่ายของเมื่อวาน

แต่เฉียวหลิงคิดว่าสิ่งที่ฉีเทียนพูดคือ เหตุการณ์ในKTV ของเมื่อคืน

เฉียวหลิงที่เดินไปถึงหน้าประตูบริษัทก็หยุดเดินฉับพลัน หันกลับมา มองไปที่ฉีเทียน หึขึ้นมาด้วยความเย็นชาพูดว่า : “ฉีเทียน คุณออกตัวต่อสู้ในเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นสิ่งที่ฉันคาดคิดไม่ถึง ก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่คุณออกตัวต่อสู้ในเหตุการณ์เมื่อคืน แล้วตอนนี้จะมีสิทธิ์มาต่อล้อต่อเถียงกับฉันในฐานะที่เป็นผู้มีพระคุณ ถ้าพูดในอีกมุมหนึ่ง ด้วยสถานะของตระกูลเสิ่น ต่อให้เมื่อคืนไม่มีคุณ ชิวสุ่ยก็ไม่มีอันตรายใด ๆ เช่นกัน เข้าใจไหม?”

ฉีเทียนได้ยินเฉียวหลิงพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็เข้าใจว่ามีความเข้าใจผิด จึงรีบพูดขึ้น : “ไม่ใช่เรื่องนี้ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมหมาย...”

เฉียวหลิงพูดขัดจังหวะฉีเทียนว่า : “คุณไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติมทั้งนั้น ฉีเทียน ฉันไม่รู้ว่าทำไมกู้เหวินถึงเลือกคนอย่างคุณ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณคือ ในเมื่อคุณโชคดีที่ได้หมั้นกับเสิ่นชิวสุ่ยแล้ว เช่นนั้นก็เพลิดเพลินกับเกียรติยศที่ความเป็นคู่หมั้นของคุณนำมาให้คุณ ฉันขอเตือนคุณอย่ามีความคิดที่ล่วงเกินไป ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดผลลัพธ์อะไรที่ไม่ดีออกมา คนอย่างคุณรับผิดชอบไม่ไหวหรอก! มาหาฉันเป็นการส่วนตัวเพื่อพูดเรื่องชิวสุ่ย คุณคู่ควรแล้วเหรอ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel