บทที่ 14 ไปตรวจสอบประวัติความเป็นมาของพวกมันมา
“เก็บเงินกู้ดอกเบี้ยราคาสูงมาถึงตัวของภรรยาของฉันแล้ว ช่างมีความกล้าหาญชาญชัยเสียจริงๆ” เซียวจื่อหนิง จัดการลงมือ ปังปังปัง ได้ส่งเสียงที่อึดอัดดังออกมา คนที่อยู่ด้านหน้าสองสามคน ถูกเขายิงถล่มใส่บินกลับกันไปทั้งหมด
และในมือของเขานั้น ก็ได้แย่งท่อเหล็กออกมาอันหนึ่ง และขยับเข้าไปใกล้ทีละก้าวๆ
“ชู่!ชู่!ชู่!”
ท่อเหล็กได้ส่งเสียงชู่ผ่าน เซียวจื่อหนิงราวกับว่าได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีคน และเสียงกรีดร้องก็ได้ดังออกมาทีละคน อันธพาลพวกนั้นก็ได้ล้มไปกองอยู่ที่พื้นกันทั้งหมด
มีบางคนก็ถูกตีจนแขนหัก บางคนถูกตีจนขาข้างหนึ่งหักโดยตรง และที่แย่กว่านั้นก็คือ บางคนจมูก และฟันถูกตีจนแหลกละเอียด
ภาพเหตุการณ์ดูอนาถมาก
“เก็บเงินกู้ดอกเบี้ยราคาสูง? พวกแกนี่มันกำเริบเสิบสานจริงๆ มีปัญญาเพียงแค่นี้เองหรือ?”
“เจ้าหนู แกอย่าได้หยิ่งพยองมากนัก ไม่ช้าก็เร็วพวกกูจะต้องจัดการฆ่ามึงให้ตายอยู่ดี” สีหน้าของต้าขุยรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง “แกรู้ไหมคนที่อยู่เบื้อหลังของพวกกูคือ......”
“แขวะ---” เซียวจื่อหนิงได้หักขาเขาหักไปโดยตรง เจ็บปวดทรมารสะแทบทำให้เขาเป็นลมล้มไป สายตาเย็นชาคู่ นั้นจ้องมองอันธพาลคนอื่น “คนที่อยู่เบื้องหลังพวกแกเป็นใคร?”
“หลง คุณท่านหลง”พวกเขาเปิดปากพูดขึ้นมาอย่างตะกุตะกะ
“คุณท่านหลง? เป็นเขาอีกแล้วหรือ?” น้ำเสียงของเซียวจื่อหนิงเย็นยะเยือกอย่างยิ่ง “ให้เวลามันภายในสามวันนี้ให้มันไสหัวมาขอโทษต่อหน้าภรรยาของฉัน”
“ไม่เช่นนั้นฉันจะทำให้มันหายไปจากโลกใบนี้! อย่าลืมไปส่งข่าวละ จำได้หรือยัง?”
“ครับๆๆ” อันธพาลพวกนั้นไม่กล้าเปิดปากพูด แต่ภายในใจนั้นกลับเต็มไปด้วยคำดูถูก
คุณท่านหลงของพวกเขานั้นเป็นใครกัน? กับไอ่หมอนี้ มันคู่ควรที่จะให้คุณท่านหลงมาคุกเขาให้มันหรือ?
กล้าที่จะลงมือกับพวกเขา หากคุณท่านหลงโกรธขึ้นมา คนทั้งครอบครัวนี้จบแห่แน่!
“ไสหัวไปสะ” เซียวจื่อหนิงตะโกนออกไปอย่างรุนแรง พวกเขาทั้งกลิ้งและคลานออกไปจากที่นี่กันอย่างรวดเร็ว
“ตายแน่ตายแน่......”
หลินเยว่เหมยอ่อนระทวยและทรุดตัวล้มลงไปบนพื้นในทันที “เซียวจื่อหนิง ครั้งนี้แกได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับพวกเราแล้วจริงๆ!”
“แกรู้ไหมว่าคุณท่านหลงนั่นเป็นใครกัน? ในมือของเขานั้นมีพวกอันธพาลอยู่นับร้อยคน เขาเป็นพวกเผด็จการอันดับต้นๆในเขตพื้นที่ตงเฉิงของพวกเรา! ในมือของเขานั้นได้ฆ่าคนไปนับไม่ถ้วน!” ไป๋ซานเองก็ได้พูดขึ้นมาโดยความโมโหโกรธ“การทำให้เขาขุ่นเคือง ครอบครัวเราทั้งตระกูลอยู่อย่างไม่เป็นสุขแน่ หรือแม้กระทั่ง มีอันตรายถึงชีวิตได้......”
เขาด่าทอเซียวจื่อหนิงด้วยความโกรธ ด้วยท่าทีที่เข้มงวดและหวังดีต่อเขา!
“ต่อสู้ๆๆ ไอ่คนไร่ประโยชน์ ทำได้แค่เพียงต่อสู้หรือไง? คุณชายหลี่ถูกนายตีจนหนีไปแล้ว! ความหวังของตระกูลไป่ของพวกเราหมดสิ้นแล้ว......มาตอนนี้นายก็ได้ทำให้พวกเรายั่วโมโหทำให้คุณท่านหลงโกรธอีก เราจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไง......”
ไป๋ซีหลิงเองก็ได้ถอนหายใจยาวๆ “การที่คุณจะทำอะไร ช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยจะได้ไหม?”
เธอรู้ดีว่าเซียวจื่อหนิงทำเพื่อที่อยากจะปกป้องพวกเขา เพียงแต่ว่า.....วิธีการที่ไม่รอบคอบนี้ กลับยิ่งนำหายนะมาสู่พวกเขาแทน
“วางใจได้ ไม่เป็นไรหรอก” เซียวจื่อหนิงพูดอย่างใจเย็น “ไม่ต้องกลัวพวกมัน”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของไป๋ซีหลิงขึ้นมา แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หากพบเจอปัญหา ให้รีบโทรหาผมโดยตรง ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ผมจะรีบไปหาคุณโดยเร็วที่สุด”
ไป๋ซีหลิงรู้สึกอุ่นใจ
“คุณพ่อเก่งมาก” โตวโต้วและเฮ่าเฮ่า ต่างก็มองดูเซียวจื่อหนิงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่พวกเขารู้ดีว่าเซียวจื่อหนิงได้ปกป้องดูแลพวกเขา! คุณพ่อคือฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา!
เซียวจื่อหนิงสัมผัสหัวเล็กๆของพวกเขา แล้วพูดว่า “มีพ่ออยู่ทั้งคน พวกหนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พ่อจะปกป้อง พวกหนูเอง”
“ตอนนี้ พวกคุณสามารถพูดได้แล้วใช่ไหม ว่าพวกคุณติดหนี้สองแสนนั่นได้อย่างไรกัน?”
ตามที่เขาเข้าใจในตัวของไป๋ซีหลิงนั้น เธอไม่เหมือนคนที่จะไปยืมเงินกู้ดอกเบี้ยราคาสูงแบบนั้นได้
สีหน้าของไป๋ห้าวขาวซีจนเกือบจะเขียว กัดฟันแล้วพูดว่า “เป็นเพราะความผิดของฉันเอง เงินนั่น ความจริง......ฉันเป็นคนยืมมาเปิดร้านอาหาร แต่ยืมมาโดยใช้ชื่อของพี่สาวของฉัน”
“ตอนแรกไป๋ห้าวต้องการที่จะเปิดร้านอาหาร แต่เงินมันไม่พอ จากนั้นไป๋ถินจึงได้แนะนำคุณท่านหลงให้กับพวกเราใครจะไปรู้ พวกเขาจะวางกับดักไว้ในสัญญา......”
เซียวจื่อหนิงเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็รู้ได้ในทันทีว่ามีคนร่วมกันจัดฉาก ไป๋ถินคนนี้ เป็นคนในครอบครัวตระกูลไป๋เหมือนกันหรือ? เขาได้แอบจำชื่อคนนี้เอาไว้ในใจอยู่อย่างเงียบๆ
“แกจะเข้ามายุ่งอะไรด้วย!” หลินเยว่เหมยได้ออกปากขับไสไล่ส่งแขก “แกรีบไสหัวไปจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้ หากไม่มีเงินห้าล้าน จากนี้ไปอย่าได้คิดที่จะมาเจอหน้าลูกสาวฉันอีก! ไม่งั้นฉันจะหักขาสุนัขของนายทิ้งสะ!”
“คุณยาย อย่าดุคุณพ่อได้ไหมครับ คุณพ่อได้ปกป้องพวกเรา......”เฮ่าเฮ่าได้เปิดปากพูดออกมาอย่างอ่อนแรง
“เขาไม่ใช่พ่อของพวกหนู! เขาไม่คู่ควร!” หลินเยว่เหมยพูดขึ้นอย่างเย็นชา
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ ไอ่หมอนี้ เคยทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะพ่อมาก่อนหรือไม่?
ไม่เคย!
เมื่อเห็นว่าครอบครัวตระกูลไป๋ขับไสไล่ส่งและกีดกันเขาขนาดนี้ เซียวจื่อหนิงเองก็จนปัญหา ทำได้เพียงแต่ปล่อยให้พวกเขาค่อยๆยอมรับตัวเอง!
ไป๋ซีหลิงไม่ได้ตอบสนองใดๆ
“คุณพ่อจะมาหาพวกเราอีกเมื่อไหร่” เด็กทั้งสองคนหลุดออกจากมือของไป๋ซีหลิง และกระโดดวิ่งกรูเข้าไป โหยหาเป็นอย่างยิ่ง......
สีหน้าของเซียวจื่อหนิงเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูอย่างโปรดปราน แล้วอุ้มพวกเขาขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง
“จากนี้ไปพ่อจะมาหาบ่อยๆดีไหม?ขอหอมหน่อย”
หลังจากพูดจบ ก็ได้หอมแก้มเด็กทั้งสองคนไปคนละหนึ่งทีทำให้พวกเขาหัวเราะคิกคักกันใหญ่ เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ คนในครอบครัวตระกูลไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะขัดขึ้นมา......
ภายในจิตใจของไป๋ซีหลิงก็ยิ่งสับสนไปกันใหญ่
หลังจากที่ออกจากประตูไป สายตาของเซียวจื่อหนิงก็ได้เปลี่ยนเป็นเย็นชา “เฟิ่งหวง ไปจัดการหาคนฝีมือดีมาสักสองสามคน ให้มาคอยเฝ้าระวังอยู่แถวนี้ อย่าได้ให้อันธพาลพวกนั้นมาก่อกวนพวกเขาอีก”
“ได้ค่ะ”เซียวเฟิ่งพยักหน้า
หลังจากที่กลับมาถึงบนรถ เซียวนินก็ได้ถามขึ้นมาว่า “พี่ชาย พี่ขึ้นไปนานขนาดนี้ ได้จัดการพูดคุยกับพี่สะใภ้พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง?”
เซียวจื่อหนิงยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวไปมา
“ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ฉันจะต้องทำให้พวกเขา เห็นถึงความจริงใจของฉันให้ได้”
“อีกอย่างหนึ่ง! เฟิ่งหวง รีบไปตรวจสอบ ประวัติความเป็นมาของหลี่หงเหยี้ยนแห่งบริษัทหลงเยว่ กรุ๊ปและคุณท่านหลงคนนี้ให้ฉันโดยทันที! ฉันต้องการประวัติข้อมูลของพวกมันโดยเร็ว!”