ปีศาจดอกไม้พิษ ตอนที่ 5
"นี่ แม่ทัพเผิงหากข้ารักษาเจ้าจนหายแล้ว เจ้ายังจะใส่หน้ากากอีกหรือไม่"
หลันฮวาที่นอนเท้าคางอยู่บนเตียงเอ่ยถามแม่ทัพเผิงที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่หลังฉากกั้น
"ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ข้าจะไม่ใส่"
"น่าเสียดาย ข้าคิดว่าหากใบหน้าของเจ้าหายแล้วคงเป็นบุรุษรูปงามที่สตรีต่างหมายปองเป็นแน่"
"ข้าไม่ต้องการสตรีใด มีแค่เจ้าก็พอแล้ว"
แม่ทัพเผิงพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้ยินด้วยซ้ำ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็เดินออกไปพบว่าหลันฮวาตอนนี้กำลังนอนกลิ้งตัวไปมาบนเตียงของเขา
"บอกกี่ครั้งแล้วว่าเจ้าไม่ควรขึ้นไปนอนบนเตียงบุรุษเช่นนี้"
"แต่เตียงของเจ้ามันสบายนี่นา"
"........"
"เจ้ารังเกียจปีศาจเช่นข้าหรือ"
แม่ทัพเผิงถอนหายใจออกมา จ้องมองหลันฮวาที่ยังกลิ้งตัวไปมาบนเตียงของเขา
ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่การที่เจ้าทำเช่นนี้ข้าเองจะลำบากในยามค่ำคืน..
"นี่แม่ทัพเผิงข้าว่า หากเจ้าถอนหน้ากากออก ตอนนั้นเจ้าก็อาจจะเจอสตรีที่รู้ใจแล้วแต่งนางเป็นฮูหยินก็ได้นะ"
"......."
"ถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่าลืมข้าละ อย่างน้อยก็เชิญข้ามากินของอร่อยในงานของเจ้า"
หลันฮวาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม พลางนึกถึงอาหารมากมายที่นางกำลังจะได้กิน
"อยากกินของอร่อยหรือ"
"ก็ใช่นะสิ บนโลกนี้คงมีของอร่อยอีกมากที่ข้ายังไม่ได้ลิ้มลอง"
"เช่นนั้นเจ้าก็แต่งให้ข้าสิ แล้วข้าจะพาเจ้าไปกินของอร่อยทุกวัน"
แม่ทัพเผิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม กอดอกมองสตรีที่นอนอยู่บนเตียง หลันฮวาลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันมามองแม่ทัพเผิงด้วยสีหน้าจริงจัง
"ท่านกำลังล่อลวงข้าด้วยของอาหารหรือ"
"ข้าแค่ยื่นข้อเสนอให้เจ้าเท่านั้น"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีกแล้ว หลันฮวาคิดในใจความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะตกลงไปในหลุมลึกที่ไม่มีทางขึ้น คิ้วทิ้งสองของนางขมวดเข้าหากันจ้องมองคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังเดินตรงมาหานาง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ นาง
"จริงสิ ในวันแรก.."
มือหนาลูบลงที่แก้มของหลันฮวา ก่อนจะใช้นิ้วลูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากบาง
"ไม่ใช่เจ้าบอกว่าข้าเป็นอาหารที่เจ้าอยากกิน ขอชิมข้าสักคำไม่ใช่หรือ"
หลันฮวากลืนน้ำลายลงคอเมื่อนึกได้ว่านางพูดเช่นนั้นจริง ๆ นางจ้องบุรุษที่กำลังยกยิ้มให้นางดวงตาของเขาจ้องมองมาที่นางราวกับต้องการจะกลืนกินนางเข้าไป
"ว่าอย่างไร ตอนนี้อยากชิมสักคำหรือไม่"
"ขะ..ขะ..ข้าขอตัวก่อน"
หลันฮวาพูดจบก็รีบวิ่งออกมาจากห้องทันที แม่ทัพเผิงเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่านางวิ่งไปไกลแล้วเขาเอนกายลงไปนอนราบกับเตียง กลิ่นดอกไม้ที่ออกมาจากตัวหลันฮวาโชยเข้ามาในจมูกของแม่ทัพเผิง
"ให้ตายสิ เพราะเช่นนี้ไงข้าถึงไม่อยากให้เจ้ามานอนบนเตียงข้า กลิ่นหอมของเจ้ามันจะทำข้าลำบากยามค่ำคืน"
ด้านหลันฮวาที่กลับมาถึงห้อง ความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจของนางมือบางยกขึ้นกุมที่หัวใจที่กำลังเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมา นางเม้มปากแน่นแม้นางจะดูเป็นปีศาจโง่ที่ไม่ได้ความแต่เพราะอ่านนิยายของพวกบัณฑิตที่วางงานเขียนขึ้นอยู่หลายเล่มนางก็รู้ดีอาการเช่นนี้คืออะไร
อาการตกหลุมรัก...
อันตรายแล้วสิหลันฮวา...
หลายวันต่อมา
จวนแม่ทัพเผิง
หลันฮวาในตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าจวนของแม่ทัพเผิง นางมองสำรวจรอบ ๆ พบชายในชุดทหารจำนวนมากกำลังยืนต้อนรับอยู่หน้าจวน นางปรายตามองแม่ทัพเผิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
"ไม่คิดว่าท่านมีอำนาจถึงเพียงนี้"
"เป็นเช่นไรเห็นเช่นนี้แล้วอยากแต่งให้ข้าหรือยัง"
หลันฮวาที่รู้ว่าคนตรงหน้าต้องการจะหยอกล้อนางก็ส่ายหัวเบา ๆ ไม่ใช่ว่าตลอดทางมาผู้คนต่างบอกว่าแม่ทัพเผิงน่ากลัวและเย็นชาหรือ แล้วตรงหน้านางนี่ใช่แม่ทัพเผิงจริง ๆ หรือไม่เหตุใดไม่ตรงตามข่าวลือเลย
"ท่านแม่ทัพ!! ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!!"
ขันทีกู่วิ่งออกมาจากจวนตรงไปหาแม่ทัพเผิงด้วยท่าทางร้อนรน เขามองแม่ทัพเผิงที่ยืนอยู่หน้าจวนน้ำตาคลอก่อนจะหันไปสนใจสตรีหน้าตางดงามที่ยืนอยู่ข้างกายแม่ทัพเผิง
"ท่านคือหมอเทวดาที่แม่ทัพเผิงบอกว่าจะพามาถอนพิษให้องค์ชายใช่หรือไม่"
ขันทีกู่จับมือของหลันฮวามากุมไว้ หลันฮวาเองที่ได้ยินว่าต้องมาถอนพิษให้องค์ชายก็เกิดความสงสัยในใจ
"องค์ชาย??"
"เชิญท่านหมอตามข้ามา องค์ชายทรงรอท่านอยู่"
ขันทีกู่ในตอนนี้ดูร้อนรนเขาพยายามดึงแขนหลันฮวาให้เดินตามไป แต่เป็นแม่ทัพเผิงชักกระบี่จ่อที่ลำคอของขันทีกู่ด้วยความไม่พอใจ
"ทะ..ท่านแม่ทัพ"
"ปล่อยมือนาง"
ขันทีกู่ที่ได้ยินคำสั่งของแม่ทัพเผิงก็รีบปล่อยมือจากหลันฮวาทันที มือของเขาสั่นด้วยความหวาดกลัวแต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา
ไม่รู้ว่าเหตุใดองค์ชายถึงเลือกคนเช่นนี้มาเป็นอาจารย์กัน!! ป่าเถื่อนเป็นที่สุด!!
"ขันทีกู่ ไม่ใช่ว่าท่านกำลังด่าข้าในใจอยู่หรอกนะ"
"ทะ..ท่านแม่ทัพพูดสิ่งใด ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร"
แม่ทัพเผิงที่เห็นท่าทางหวาดกลัวของคนตรงหน้าก็เลิกที่จะสนใจเขาเก็บกระบี่ก่อนจะเดินไปกุมมือหลันฮวา
"ไปกันเถอะ"
"อืม"
หลันฮวาแม้จะมีคำถามในใจมากมายก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรนางทำเพียงเดินตามแม่ทัพเผิงเข้าไปในจวน ระหว่างทางนางมองสำรวจรอบ ๆ จวนพบว่าภายในจวนมีเพียงคนรับใช่ที่เป็นบุรุษ และมีเหล่าทหารเดินตรวจตราไปมาภายในจวน
ที่นี่ใช่จวนแน่หรือ ไม่ต่างอะไรจากค่ายทหารเลยสักนิด
"ภายในจวนมีกฎว่าห้ามสตรีเข้ามา ที่นี่จึงมีแค่บุรุษ"
แม่ทัพเผิงพูดออกมาเสียงเรียบเมื่อเห็นท่าทางสงสัยของคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ
"เช่นนั้นข้า..."
"ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าเป็นสตรีที่ข้าพาเข้ามาจึงได้รับข้อยกเว้น"
หลันฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเบา ๆ เดินมาได้ไม่นานทั้งสามก็หยุดที่หน้าห้องหนึ่งที่มีทหารเฝ้าคุ้มกันอย่างแน่นหนา
"ท่านแม่ทัพ!! รอข้าก่อน!!"
เสียงของขันทีกู่ดังไล่หลังมา เมื่อเห็นว่าแม่ทัพเผิงและหมอหญิงเดินเข้าไปในห้องแล้ว
"ท่านเข้าไปไม่ได้"
"เพราะเหตุใด ข้าเป็นขันทีที่อยู่ข้างกายองค์ชายเหตุใดจะเข้าไปดูการรักษาไม่ได้"
ขันทีกู่โวยวายออกมาเสียงดัง ในใจรู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นนาย เขาพยายามดันตัวเองเข้าไปในห้องแต่ก็ถูกทหารหน้าประตูสองคนห้ามไว้
ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแม่ทัพเผิงไม่ได้คิดเป็นอื่น
หากเขาสังหารองค์ชายตอนนี้ จะทำเช่นไร!!
ด้านหลันฮวาที่เดินตามแม่ทัพเผิงเข้ามาในห้อง กลิ่นเหม็นเน่าลอยโชยเข้ามาในจมูกของหลันฮวาจนนางต้องใช้มือปิดไว้ แม้ภายในห้องจะจุดกำยานเยอะเพียงใดก็ไม่อาจกลบกลิ่นเน่าที่มีได้
"เจ้ารักษา เจ้าเด็กโง่นี่ได้หรือไม่"
หลันฮวาก้าวเท้าตรงไปที่เตียง นางจ้องมองร่างของบุรุษที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงกลิ่นเหม็นเน่าที่คละคลุ้งไปทั่วห้องมาจากบาดแผลที่แขนของบุรุษตรงหน้า
"บุรุษผู้นี้ ไม่ใช่น้องชายท่านใช่ไหม"
ในที่สุดหลันฮวาก็เอ่ยถามความสงสัยออกไป เพราะคงไม่มีใครนำพิษร้ายแรงเช่นนี้มาสังหารคนธรรมดาหรอก
"อืม"
"โกหกสินะ"
หลันฮวาพูดออกมาเสียเรียบ ความรู้สึกผิดหวังเกิดขึ้นในใจ คนที่ใช้ชีวิตอยู่กับนางมาตลอดหลายเดือนกลับโกหกนาง แล้วที่ผ่านมาตลอดการเดินทางเป็นเรื่องที่เขาแสร้งทำและโกหกหรือไม่ ที่ปีศาจทุกตนคอยเตือนว่ามนุษย์ไว้ใจไม่ได้เป็นเช่นนี้เองสินะ
"ข้าขอโทษ แต่หลังจากวันนี้หากเจ้าอยากรู้สิ่งใดข้าจะตอบทั้งหมดโดยไม่ปิดบัง"
"ไม่จำเป็น อีกไม่นานข้าก็จะกลับไป เรื่องของพวกเจ้าข้าไม่ขอเกี่ยวข้องดีกว่า"
"หมายความว่าเช่นไร เจ้าจะกลับไป ไม่ใช่ว่าจะอยู่ต่ออีกหน่อยหรือ"
"ข้าจะรักษาบุรุษผู้นี้ให้ ขอให้ท่านแม่ทัพออกไปด้วยเจ้าค่ะ"
หลันฮวาพูดออกมาเสียงเรียบ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนางพยุงร่างของบุรุษป่วยตรงหน้าให้ลุกขึ้นนั่ง ปรายตามองแม่ทัพเผิงที่กำลังออกไปจากห้อง
เหตุใดข้าต้องรู้สึกโกรธและผิดหวังที่เขาโกหกเช่นนี้
หลันฮวาพยายามข่มอารมณ์โกรธไว้ในใจ ก่อนจะหันมาสนใจบุรุษที่รอการช่วยเหลือจากนาง หลันฮวาโน้มใบหน้าลงไปประกบริมฝีปากกับบุรุษที่อยู่ในอ้อมแขน ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงสด กลิ่นหอมดอกไม้ที่เต็มไปด้วยพิษออกมาจากตัวของนางหอมคละคลุ้งไปทั่วห้องกลบกลิ่นเหม็นเน่าจนหมดสิ้น
เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าหลันฮวาจะกำจัดพิษในร่างกายของบุรุษตรงหน้าจนหมดสิ้น ในตอนที่นางกำลังจะถอนริมฝีปากออกก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนป่วยที่โดนพิษตอนนี้ได้ตื่นแล้ว
ปัก!! ตุบ!!
"บังอาจ!!! กล้าดียังไงมาแตะต้องร่างกายของเราเช่นนี้!!"
หลันฮวาที่ถูกผลักล้มลงมานั่งอยู่บนพื้นข้างเตียงจ้องมองบุรุษปากดีตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ นางที่มีความโกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งโดนกระทำเช่นนี้ความโกรธที่เคยข่มไว้ในใจก็ได้ระเบิดออกมา
"หุบปากซะ!! ก่อนที่ข้าจะทนไม่ไหวฉีกปากของเจ้าออกมา"
หลันฮวาตะโกนใส่บุรุษที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูทันทีที่ประตูเปิดออกก็พบว่าแม่ทัพเผิงและเหล่าทหารยืนอยู่สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล นางเลือกที่จะเดินผ่านพวกเขาไปเพื่อสงบอารมณ์
"หลันฮวาเจ้าจะไปไหน"
แม่ทัพเผิงจับมือของหลันฮวาไว้แน่น หลันฮวาที่โดนกระทำเช่นนั้นหันไปมองแม่ทัพเผิง ดวงตาสีแดงสดในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ
"ปล่อยมือข้า!! มิเช่นนั้นข้าจะสังหารให้หมดทั้งจวน แม้แต่เจ้าก็ไม่เว้น"
"หลันฮวา"
"หรือท่านจะลอง แม่ทัพเผิง"