ตอนที่ 7 ผิดใจ
ก่อนหน้านี้พลอยปภัสแสร้งเล่นตัว ทำทีเหมือนไม่สนใจติณห์ แล้วหักอกอีกฝ่ายอย่างไม่ไยดี จนได้ยินข่าวว่าเขานัดเพื่อนไปดื่มเหล้าจนเมาหนักไม่ได้สติเพราะหล่อน เล่นตัวพอเป็นพิธีนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้วไม่เช่นนั้นผู้ชายอย่างเขาที่มีตัวเลือกเยอะอาจจะเปลี่ยนใจเลิกชอบหล่อนไปแล้วก็ได้ เมื่อมีโอกาสพลอยปภัสจึงรีบคว้าติณห์ให้อยู่หมัด เป็นผู้หญิงที่โชคดีได้ติณห์มาครอบครองเป็นเจ้าของ
ติณห์ตรงสเปคสาว ๆ ทั่วไปหลายคน เพราะนอกจากใบหน้าคมสันอันหล่อเหลา การแต่งตัวมีเทสบ่งบอกถึงความมีรสนิยมที่ดี ฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย และมั่นคง เขาเพียบพร้อม ทุ่มหนักกับสาวในสต๊อกทุกคนที่ถูกใจ เลยทำให้ใครต่อใครหมายปองเขา แต่หลังจากนี้ ติณห์เป็นแฟนหล่อนแล้ว คงต้องถึงเวลาบอกลาสาว ๆ ในสต๊อกที่เขาซ่อนเก็บไว้อย่างถาวร
เมื่อถึงตอนเย็นคนที่ควรออกจากห้องมาเข้าครัวทำอาหารให้เขารับประทานกลับไม่ยอมโผล่หน้าออกมาอีกเลยตั้งแต่ที่เธอเดินหนีหายไปตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้ง ๆ ที่ถึงเวลาเธอทำหน้าที่ตัวเองเหมือนทุกวันที่เคยทำมาแล้ว
จนกระทั่งพลอยปภัสบ่นอุบ "พี่ติณห์คะ พลอยหิวข้าวแล้วค่ะ"
"พลอยรอก่อนได้ไหม ยายนิ้งไม่รู้ทำอะไรอยู่ในห้องยังไม่โผล่หัวออกมาทำกับข้าวเลย"
"ถ้าอย่างนั้นเราออกไปกินข้าวข้างนอกดีไหมคะ" หล่อนยื่นข้เสนอ แต่วันนี้ติณห์ไม่อยากออกไปข้างนอก เขาต้องการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์มากกว่า "พี่ว่ากินข้าวที่ห้องดีกว่านะ เดี๋ยวพี่จะเรียกยายนิ้งมาทำกับข้าวให้กิน"
"ก็ได้ค่ะ รีบ ๆ หน่อยนะคะ" พลอยปภัสถึงกับยู่หน้า เอะอะติณห์ก็เรียกหาแต่เพื่อนสาวคนสนิททั้งที่ไม่เห็นจะเป็นเลย
"ระหว่างรอพลอยสั่งอาหารผ่านแกร็ปก็ได้นะ กินรองท้องรอก่อนถ้ารอไม่ไหวจริง ๆ"
"ค่ะพี่ติณห์" พลอยปภัสพยักหน้ารับระรัว แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเข้าแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารที่หล่อนใช้อยู่เป็นประจำอย่างคุ้นชิน ขณะนั้นหล่อนเพ่งความสนใจไปกับการเลือกเมนูอาหาร และของว่างที่ชอบ ติณห์จึงใช้เวลานี้เดินไปเรียกเพื่อนสาวที่ไม่ยอมออกจากห้องนอนเสียที
เป็นบ้าอะไรของมันถึงขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวัน!
ติณห์รู้ว่าประตูห้องนอนของคะนิ้งไม่ได้ล็อค เพราะเขาเคยสั่งไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามล็อคเด็ดขาด แล้วก้าวขาสองข้างเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูให้สนิทจนแน่ใจว่าเสียงสนทนาของพวกเราจะไม่ดังเล็ดลอดไปให้คนข้างนอกได้ยิน
"แกเป็นไรของแกคะนิ้ง ถึงเวลาออกไปทำกับข้าวให้ฉันกับแฟนกินแล้วนะ ทำไมยังไม่ไปทำอีก!"
เขาใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของห้องข่มเธอต่าง ๆ นานา อีกฝ่ายยังอดทนอยู่ต่อนั่นเป็นเพราะไม่อยากหาที่อยู่อื่น แล้วต้องเสียเงินค่าเช่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ไหนจะค่าอยู่ค่ากินจิปาถะอีก
"..." คะนิ้งไม่ได้ตอบ เธอทำเพียงมองเขาด้วยหางตา พ่นลมหายใจออกมาดัง ๆ คล้ายเบื่อหน่ายอะไรบางสิ่ง ซึ่งติณห์คิดว่าเธอรำคาญเขา
"เงียบทำไมปากแกไม่มีหรือไงวะ" ติณห์ตะเบ็งเสียงใส่อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
"วันนี้ฉันไม่ทำอาหาร!" เสียงหวานตอบห้วนตัดรำคาญ ขณะหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะกำลังแต่งหน้าเตรียมตัวไปทำงานประจำที่ร้านอาหารหน้าปากซอยคอนโด
เพียงไม่กี่อึดใจร่างสูงใหญ่ก็เดินมาหยุดที่ด้านหลังเธอ "ทำไม เป็นอะไรก็บอกมาสิวะ เอาแต่เงียบแบบนี้ฉันจะรู้กับแกไหม"
ติณห์พอดูออกว่าอาการแบบนี้คือคะนิ้งกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่ เพียงแต่เขาหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอ
"ฉันไม่ชอบที่แกกับแฟนแกหัวเราะเยาะฉันเหมือนฉันเป็นตัวตลก แกไม่ให้เกียรติฉันเลย..." ลิปปาล์มในมือถูกวางเข้าที่เดิมเมื่อแต่งเติมริมฝีปากจนเสร็จ คะนิ้งหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับคนตัวโตกว่า พร้อมบอกความจริง ความรู้สึกลึก ๆ ภายในใจของเธอที่มัวหมองตลอดทั้งวันจนไม่อยากออกไปเฉียดกรายเจอหน้าติณห์กับแฟนสาว
"เฮอะ!" ทว่าการที่จะให้คนอย่างติณห์เข้าใจหัวอกคนอื่นคงเป็นเรื่องยาก เสียงทุ้มแค่นหัวเราะในคอ สายตาคมกดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า มุมปากเหยียดยิ้มเล็กน้อยบ่งบอกถึงความหยิ่งยโสของคนตรงหน้า "แกมีเกียรติกับเขาด้วยเหรอ ซีเรียสอะไรขนาดนั้นวะ ฉันก็แค่พูดล้อขำ ๆ เท่านั้น"
"แต่คนโดนมันไม่ขำด้วยหรอกนะ"
"แล้วแกไม่ชอบคำพูดของฉันตรงไหน ตรงที่บอกว่า ไม่มีอารมณ์ร่วมกับแกหรอกถึงแกจะแก้ผ้าต่อหน้านะเหรอ ฮ่าๆ" แค่คิดอย่างนั้นแล้วติณห์ก็หัวเราะร่วม จนลืมไปว่าครั้งหนึ่งเขาและเธอเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน แม้ไม่ใช่ความตั้งใจ มันเกิดจากความผิดพลาดก็ตาม
"ขนาดปากบอกว่าไม่มีอารมณ์ร่วมกับฉันยังจัดหนักจัดเต็มยันเช้า ขนาดพลาดเพราะไม่มีสติควบคุมตัวเองนายก็ยังเสร็จเพราะฉันไปกี่รอบต่อกี่รอบแล้วก็ไม่รู้!"
"คะนิ้ง!!" ติณห์ขึ้นเสียงใส่เพราะไม่พอใจเพื่อนสาวคนสนิท เธอพูดจี้ใจดำเขา
"ทำไม รับไม่ได้ล่ะสิ อย่าให้แฟนนายรู้เรื่องนี้เชียวล่ะ ไม่งั้นคงอกแตกตายแน่ ๆ" คบกันยังไม่ทันถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำฝ่ายหญิงกลับแสดงตัวตน ก้าวก่ายชีวิตเขาประหนึ่งคบหากันมานานแล้วยังไงอย่างนั้น ออกตัวบงการชี้นั่นทำนี่ จนเธอก็เริ่มอคติกับหล่อนเสียแล้วล่ะ
เป็นครั้งแรกที่คะนิ้งต่อปากต่อคำตอกกลับเขา และคงเป็นครั้งแรกที่พวกเรามีปากเสียงกันรุนแรงมากที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมา คะนิ้งเคยใจเย็นกว่านี้ ทว่ายามนี้กลับกำลังทำตัวยั่วอารมณ์เขา
"มันจะมากเกินไปแล้วนะคะนิ้ง ฉันพลาดแค่ครั้งเดียวแกจะเอามารื้อฟื้นทำไม! หรือฉันมันเด็ดจนลืมไม่ลง..." ติณห์โกรธจัดจนมีสีหน้าแดงก่ำ รู้สึกร้อนผ่าวควันออกหู
เถียงกับติณณ์ไปก็มีแต่เสียเวลาทิ้งเสียเปล่า เธอต้องเตรียมตัวแล้วรีบไปทำงาน มือเรียวหมายจะเอื้อมไปหยิบขวดน้ำหอมกลิ่นกุหลาบขึ้นมาฉีด แต่แล้วกลับถูกอีกฝ่ายกระชากแขนเล็ก
"ติณห์!" เธอแสดงสีหน้าเหยเกเมื่อตัวถลาปะทะแผงอกกำยำเข้าเต็ม ๆ
ติณห์โกรธจัดจนหน้ามืดตามัว ดันคนตัวเล็กชิดขอบโต๊ะเครื่องแป้ง จนเธอต้องเอนตัวไปข้างหลังเพื่อหลบหนีจากใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแอบชื่นชมเมื่อเขาโน้มลงมาใกล้จนลมหายใจเป่ารดแก้มเนียน
"นายจะอะทำไร ละอายใจตัวเองบ้าง ตอนนี้นายมีแฟนแล้วนะ"
"แล้วทำไม" คำเตือนจากเธอหาทำให้ติณห์สะทกสะท้านไม่ บัดนั้นแขนแกร่งของข้างกักร่างเธอเอาไว้ไม่ยอมให้หนีพ้นเงื้อมมือเขา
ลูกแกะตัวน้อยเริ่มหวั่นหวาด "พอได้แล้วติณห์ ปล่อยฉัน"
ทว่าเขาเพิกเฉยต่อคำพูดเธอ พร้อมเปลี่ยนเป็นออกคำสั่งด้วยสุ้มเสียงดุเข้มข้น
"หันหลังไปดิ!"
"หะ...หันทำไม หันไปไหน" คะนิ้งเอ่ยถามเสียงตะกักตะกักฉงนใจ คิ้วเรียวสวยขมวดฉับ
"จะเอาแกอีกไง"
"แกจะบ้าเหรอ จิตสำนึกมีบ้างไหม การที่แกจะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเท่ากับแกกำลังนอกใจคนของแกนะ!" เธอรีบเตือนสติ ใช้แขนพยายามดันร่างสูงโปร่งออกห่าง
"ไม่เห็นเป็นไรเลยในเมื่อแกไม่บอกพลอย พลอยก็ไม่มีทางรู้..."
ผีห่าซาตานตนใดเข้าสิงเขา?
ติณห์แทบไม่ใช่คนเดิมที่เธอรู้จักในวันแรก