ตอนที่ 2 โลกกลม 1
หลังจบงานเลี้ยงวันเกิดของพี่ชายคนโตของบ้านอย่างกันย์เรียบร้อย คนมีครอบครัวก็พาบรรดาลูกๆ กลับขึ้นห้องนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า คงเหลือเพียงมารดาที่ยังอยู่ห้องนั่งเล่นใหญ่ของบ้าน
"งานยุ่งหรือพักนี้ดูแกเนือยๆ นะเจ้าตุลย์" ลูกชายคนกลางของบ้านขมวดคิ้วกับคำทักทายของคุณจิตราผู้เป็นมารดา ไม่ได้จะคัดค้านสายตาผู้เป็นแม่แต่กำลังสำรวจตัวเองอยู่พลางๆ
"ดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือครับแม่ ผมออกจะหล่อเหลาขนาดนี้"
"ไอ้หล่อมันก็หล่อ แต่สีหน้าแกดูไม่สดชื่น ดูเหนื่อยๆ พิกล"
"ช่วงนี้ผมเข้าไปดูร้านตอนกลางคืนมั้งครับ อาจจะนอนไม่พอ"
"แล้วนึกยังไงถึงไปเปิดไอ้ร้านเหล้าร้านยาแบบนั้น แล้วบริษัทแกได้เข้าไปดูมั่งหรือเปล่า"
"บริษัทมันอยู่ตัวแล้วครับ"
"แล้วแกไม่คิดจะแต่งงงแต่งงานหรือไง อายุก็จะสี่สิบแล้วนะ"
"เพิ่งสามสิบเจ็ดเอง แม่ก็อย่าเพิ่งให้ผมรีบแก่นักสิครับ"
"ฉันจะอยู่ถึงวันแกแต่งงานมีลูกมีเต้าไหมล่ะ"
"พูดอะไรแบบนั้น ก็อยู่ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ"
"พูดกับแกเหมือนเป่าสาก ให้แม่หาลูกสาวเพื่อนให้ไหม" ตุลย์หัวเราะออกมาเสียงดัง จนคนมากวัยนิ่วหน้า
"ลูกสาวเพื่อนแม่ป่านนี้ลูกไม่เข้ามหาวิทยาลัยกันหมดแล้วหรือครับ ถ้าหลานสาวก็พอไหว"
"แกนี่มันน่านัก" ยิ่งเห็นสีหน้าของคุณจิตราตุลย์ก็ยิ่งหัวเราะหนักขึ้น เพราะรู้ดีว่าเพื่อนคุณแม่แต่ละคนแต่งงานเร็ว ลูกเพื่อนท่านส่วนมากก็มีแต่รุ่นพี่เกือบทั้งนั้น
"งั้นแกก็เหงาไปจนแก่คนเดียวเถอะ ไม่เห็นพี่แกกับน้องแกหรือเขามีความสุขกันไปไหนๆ แล้ว"
พูดจบคุณจิตราก็สะบัดก้นเดินหนีขึ้นชั้นสอง ปล่อยให้ลูกชายคนรองนั่งเหงาอยู่คนเดียวต่อไป
คล้อยหลังผู้เป็นแม่ ตุลย์ก็อดไม่ได้ที่จะเก็บเอาคำพูดของท่านมาทบทวน หรือเขาจะเนือยๆ อย่างท่านว่าในช่วงนี้ ชีวิตมันออกจะเรียบง่ายกลายเป็นวัฏจักรในแต่ละวัน จากวันก็กลายเป็นเดือน จากเดือนก็กลายเป็นปี เผลอแป๊บเดียวเขาก็อยู่มาสามสิบเจ็ดฝนแล้ว
กลับจากบ้านแม่ชีวิตก็วนเวียนอยู่เป็นวัฏจักรอย่างเดิม ตื่นมาในช่วงสายหลังออกกำลังกายเสร็จก็เซ็นเอกสารผ่านระบบโดยไม่ต้องเข้าบริษัท
ออกมายืดเส้นยืดสายที่ระเบียงหลังห้องก็ตอนที่ฝนฟ้าเริ่มมืดครึ้มมาอีกครั้ง ลมแรงบนชั้นยี่สิบในวันนี้ทำเขาต้องกุมขมับ เมื่อเศษผ้าสีดำชิ้นเล็กจากไหนไม่รู้มันมาตกอยู่ที่ระเบียงหลังห้อง
ตุลย์เดินเข้าไปใกล้ๆ จึงได้เห็นว่าแท้ที่จริงมันคือกางเกงชั้นในตัวบางออกจะเซ็กซี่ไม่น้อย แถมยี่ห้อก็ราคาแพง เขาเงยหน้าสำรวจไปถึงระเบียงห้องข้างๆ ทันที แล้วก็ต้องถอนหายใจแรงๆ ออกมา เจ้าหล่อนห้องข้างๆ ซักผ้าตากเสียจนเต็มราว
กางเกงชั้นในตัวละหลายร้อยซื้อได้ แต่ไอ้ราวตากแบบพลาสติกพวงละยี่สิบบาทนี่มันขัดตาชะมัด และดูมันก็เก่ามาแล้วด้วย เวลาลมแรงๆ นิดหน่อยผ้าตัวบางมันก็หลุดปลิวออกมาได้ง่ายๆ
ตุลย์มองมันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะหยิบโยนคืนไประเบียงห้องเจ้าของมัน บอกตามตรงเขาก็ไม่กล้าหยิบ ไม่รู้ว่าเจ้าของไอ้ผ้าชิ้นเล็กจะหน้าตานิสัยเป็นแบบไหน
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้น เผื่อเจ้าตัวรู้ว่าของหายอาจจะใช้สายตาสอดส่องมาถึงระเบียงห้องเขาและเห็นว่าสมควรที่จะเปลี่ยนไอ้พวงตากผ้านั่นได้แล้ว
ปราณก้มลงมองข้อความที่แก้วกาแฟของเจ้าของบาร์ที่มันเพิ่งวางลงเมื่อครู่ 'ขอบคุณค่ะ' วันนี้เป็นข้อความสั้นๆ แต่ไอ้รูปหัวใจหลังคำขอบคุณก็ทำให้ปราณหัวเราะเบาๆ ออกมา "แหม เดี๋ยวนี้มีสาวบาริสต้าส่งหัวใจให้ด้วยหรือวะ" ตุลย์ไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้าให้ มองไอ้ปราณที่นั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนอีกหลายคนในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์แต่พวกมันก็แห่กันมาแต่หัววัน "พวกมึงมากันเร็วจังวะ" ตุลย์เอ่ยถามไปทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว "ก็ไอ้ปราณน่ะซิ แม่งเร่ง บอกต้องรีบกลับบ้าน" เข้มรีบฟ้อง แต่เพื่อนทุกคนก็รู้วีรกรรมของเมียไอ้ปราณดี "โถ่ ไอ้ตุลย์ มึงไม่เคยมีเมียมึงไม่รู้หรอก" อันนี้เขาไม่เถียง และก็ยังไม่อยากจะรู้ จึงได้แต่ยักไหล่ตอบไอ้ปราณ