บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8: เสียงกระซิบในเงามืด

คืนวันพุธ, 22:30 น.

คอนโดมิเนียมหรู ย่านสุขุมวิท

กชกร หรือ "พี่ก้อย" เอนกายลงบนโซฟาหนังสีเทาราคาแพง เธอยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบช้าๆ แสงไฟสีนวลจากโคมไฟตั้งพื้นส่องกระทบรอบแก้ว ทำให้ของเหลวสีทับทิมดูสุกสว่างขึ้น เธอมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร แสงไฟจากตึกระฟ้าต่างๆ ส่องประกายระยิบระยับเหมือนอัญมณีที่ถูกโปรยไว้บนผืนผ้ากำมะหยี่สีดำ

เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน ตะวันถูกกำจัดพ้นทางไปแล้ว และตำแหน่งผู้จัดการโปรเจกต์ที่เธอใฝ่ฝันก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม คุณวิรัชเรียกเธอเข้าไปคุยเมื่อตอนเย็น และบอกเป็นนัยว่าเธอคือคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามารับช่วงต่อ แม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เธอก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

ความรู้สึกผิดน่ะหรือ? ไม่มีเลยแม้แต่น้อย ในโลกธุรกิจที่โหดร้าย มีแต่ผู้ชนะกับผู้แพ้ ตะวันก็แค่เล่นเกมนี้ไม่เก่งพอเท่านั้นเอง

เธอนั่งจิบไวน์และดูซีรีส์เรื่องโปรดต่อไปอีกพักใหญ่ จนกระทั่งความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์เริ่มส่งสัญญาณเตือน เธอจึงปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นเตรียมตัวจะเข้านอน

วินาทีที่เธอลุกขึ้นยืน เธอก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

อากาศในห้อง... มันเย็นลง

เธอขมวดคิ้วแล้วเดินไปดูที่แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ อุณหภูมิยังคงตั้งไว้ที่ 25 องศาเซลเซียสเหมือนปกติ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนมันลดลงเหลือสัก 20 องศาได้นะ เธอส่ายหน้าเบาๆ บางทีเธออาจจะแค่คิดไปเองเพราะดื่มไวน์เข้าไป

แล้วเธอก็ได้กลิ่น...

มันเป็นกลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยมาตามลมแอร์ กลิ่นเหมือนดอกกุหลาบ... แต่เป็นกุหลาบที่หอมและสดชื่นกว่าที่เธอเคยได้กลิ่นมาจากที่ไหนๆ

"สงสัยห้องข้างๆ จะซื้อน้ำหอมปรับอากาศมาใหม่" เธอพึมพำกับตัวเอง พยายามจะไม่ใส่ใจ

เธอเดินไปที่ห้องนอน เปิดประตูเข้าไป และกำลังจะก้าวเท้าเข้าห้องนอน... แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดชะงัก

"เหมียว..."

เสียงร้องของ "สโนว์" แมวเปอร์เซียสีขาวปลอด ขนฟูฟ่องราวกับปุยเมฆดังขึ้นจากมุมห้องนอน มันไม่ได้ร้องทักทายอย่างออดอ้อนเหมือนทุกที แต่เป็นเสียงขู่ต่ำๆ ในลำคอ ดวงตาสีฟ้าของมันเบิกกว้าง จ้องเขม็งไปยังมุมห้องที่ว่างเปล่าหลังประตู ขนทั่วทั้งตัวของมันลุกชันตั้งตรง

"สโนว์ เป็นอะไรไปลูก" ก้อยเรียกเบาๆ เธอไม่เคยเห็นแมวของเธอมีท่าทีหวาดกลัวแบบนี้มาก่อน

มันยังคงจ้องไปยังจุดเดิมแล้วร้องขู่ "ฟู่!" ออกมาอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบเข้าไปในห้องน้ำที่ประตูเปิดอยู่อย่างรวดเร็ว

ก้อยมองตามไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เธอชะโงกหน้าไปดูมุมห้องที่แมวจ้อง มันก็ไม่มีอะไร... มีเพียงความว่างเปล่าและเงามืดเท่านั้น

เธอถอนหายใจ พยายามบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก สัตว์ก็คือสัตว์ บางทีมันอาจจะเห็นเงาของตัวเองแล้วตกใจก็ได้ เธอปิดประตูห้องนอนแล้วเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมตัวเข้านอน

หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย เธอก็เดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถดูโซเชียลมีเดียเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับไปเหมือนเช่นทุกคืน

แต่แล้ว... แสงไฟจากหน้าจอแล็ปท็อปที่วางอยู่บนโซฟาปลายเตียงก็สว่างวาบขึ้นมาเอง

ก้อยสะดุ้งเล็กน้อย เธอจำได้แม่นว่าเธอพับหน้าจอมันลงให้เข้าสู่โหมดพัก (Sleep Mode) ไปแล้วก่อนจะมานอน เธอจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง มันก็แค่หน้าจอ

เดสก์ท็อปธรรมดา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"สงสัยแบตจะเสื่อม" เธอพูดปลอบใจตัวเอง ลุกจากเตียงเดินไปพับหน้าจอแล็ปท็อปกลับลงไปอีกครั้ง

คืนนั้น ก้อยนอนหลับไม่สนิทเท่าที่ควร เธอฝัน... ฝันว่าเธอยืนอยู่ในออฟฟิศที่มืดมิดและว่างเปล่า และได้ยินเสียงใครบางคนกระซิบชื่อของเธอมาจากที่ไกลๆ พร้อมกับได้กลิ่นกุหลาบที่หอมจนน่าเวียนหัว

วันพฤหัสบดี, 08:30 น.

สถานีตำรวจนครบาล

สารวัตรกวินโยนแฟ้มคดีของนายสมเกียรติลงบนโต๊ะเสียงดังปัง จนหมวดอาทิตย์ที่กำลังจะยกกาแฟขึ้นดื่มสะดุ้งเล็กน้อย

"ไม่มีอะไรเลย" กวินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "ว่างเปล่าเหมือนเดิม ตรวจสอบประวัติการเงินและคนใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครมีแรงจูงใจที่ชัดเจนพอจะฆ่าแกงกันได้"

"แล้วเรื่องกล้องวงจรปิดตามเส้นทางล่ะครับ" หมวดอาทิตย์ถาม

"ก็เจอแต่รถส่งของกับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ผ่านไปมาตามปกติ ไม่มีรถน่าสงสัย ไม่มีคนเดินเท้าที่น่าสงสัย คนร้ายเหมือนล่องหนเข้ามาแล้วก็ล่องหนออกไป"

"สารวัตรกำลังคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่ฝีมือมนุษย์

เหรอครับ" หมวดอาทิตย์แกล้งพูดติดตลก

กวินปรายตามองลูกน้อง "มนุษย์นี่แหละที่ทำ แต่เป็นมนุษย์ที่ฉลาดและรอบคอบมาก... มากจนน่ารำคาญ" เขายกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม "คนเราไม่ได้ล่องหนได้หรอกนะหมวด มันต้องมีข้อผิดพลาดเสมอ... แค่เรายังหามันไม่เจอเท่านั้นเอง"

คำพูดของเขามีความมั่นใจ แต่ในใจของกวินเองก็เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจเช่นกัน คดีนี้มัน "สะอาด" เกินไป สะอาดจนรู้สึกเหมือนถูกจัดฉากขึ้นมาอย่างจงใจ

11:00 น.

ที่บริษัท

ก้อยพยายามจะกลับมาทำงานตามปกติ เธอพยายามสลัดความฝันประหลาดเมื่อคืนทิ้งไป แต่ความรู้สึกไม่สบายใจยังคงเกาะกุมอยู่ในใจของเธอ

เธอเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อเริ่มทำงาน แต่แล้วเธอก็รู้สึกถึงกลิ่นนั้นอีกครั้ง...

กลิ่นกุหลาบ...

ครั้งนี้มันชัดเจนกว่าเมื่อคืน และดูเหมือนจะลอยออกมาจากโต๊ะทำงานของเธอเอง เธอสูดจมูกฟุดฟิดไปมา มันมาจากไหนกันนะ? เธอเปิดลิ้นชักโต๊ะออกดูทีละอัน แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ

เธอจึงพยายามจะไม่สนใจแล้วเริ่มทำงานต่อ แต่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นไฟล์ไฟล์หนึ่งบนหน้าจอเดสก์ท็อปของเธอ...

เป็นไฟล์ที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น

ชื่อของมันคือ "Client_Data_Q3.corrupted"

หัวใจของก้อยกระตุกวูบ เธอรู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นลงอย่างรวดเร็ว มันคือชื่อไฟล์เดียวกับที่เธอและนัทใช้ในการใส่ร้ายตะวันไม่มีผิด!

มือของเธอสั่นเทา เธอรีบขยับเมาส์ไปที่ไฟล์นั้นแล้วลากมันลงถังขยะทันที เธอหายใจหอบถี่ พลางมองซ้ายมองขวา ทุกคนยังคงทำงานกันตามปกติ ไม่มีใครสนใจเธอ

เธอพยายามบอกตัวเองว่าอาจจะเป็นฝีมือของนัทที่แกล้งเธอเล่น แต่แล้ว... ไฟล์เดิมก็ปรากฏขึ้นมาที่จุดเดิมบนหน้าจอเดสก์ท็อปของเธออีกครั้ง

คราวนี้เธอแน่ใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาด เธอลากมันไปทิ้งอีกครั้ง และมันก็ปรากฏขึ้นมาอีก... เหมือนเดิม

ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจของเธอ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? หรือว่า... หรือว่าตะวันจะแอบจ้างใครมาแฮกคอมพิวเตอร์ของเธอ? แต่ตะวันผู้หญิงใสซื่อคนนั้นน่ะหรือจะทำเรื่องแบบนี้? มันเป็นไปไม่ได้

13:00 น.

คอนโดของตะวัน

ตะวันตื่นขึ้นมาในตอนสายของวัน เธอลุกขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อยขบ ความรู้สึกแรกที่เธอรับรู้ได้คือความ "สดชื่น" มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้นอนหลับเต็มอิ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมานานหลายวัน ความรู้สึกหนักอึ้งในใจและความโศกเศร้าได้หายไปจนเกือบหมดสิ้น

ขอบคุณพระเจ้า... ในที่สุดลูกก็หลับได้เต็มตาเสียที บางทีการพักผ่อนอาจจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งได้จริงๆ

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นข้อความจากมีนาที่ส่งมาถามไถ่ตั้งแต่เช้า

มีนา: "ตื่นรึยังตะวัน เป็นไงบ้างวันนี้"

ตะวันยิ้มออกมาแล้วพิมพ์ตอบกลับไป

ตะวัน: "ตื่นแล้วจ้าาา รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมีนามากนะที่เป็นห่วง"

เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วลุกไปหาอะไรทานในครัว เธอรู้สึกมีเรี่ยวแรงและอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน

18:45 น.

ที่บริษัท

ก้อยตัดสินใจอยู่ทำงานจนดึก เธอไม่กล้ากลับไปที่คอนโดคนเดียว ความคิดที่ว่ามีใครบางคนสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ของเธอได้จากระยะไกลทำให้เธอหวาดกลัวจนไม่อยากอยู่ลำพัง

เธอใช้เวลาทั้งบ่ายในการสแกนไวรัสและเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่าง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ และไฟล์ปริศนานั่นก็ไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย

จนกระทั่งพนักงานคนอื่นๆ เริ่มทยอยกลับบ้านกันจนหมด เหลือเพียงเธอคนเดียวในแผนกที่สว่างไสวแต่กลับให้ความรู้สึกวังเวงอย่างประหลาด

เธอถอนหายใจออกมา พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อจะปิดคอมพิวเตอร์แล้วกลับบ้าน

ทันใดนั้น... เธอก็ได้ยินเสียง

มันเป็นเสียงที่เบามาก... เหมือนเสียงของตกกระทบพื้นเบาๆ มาจากทางเดินด้านหลังที่ทอดยาวไปยังห้องเก็บเอกสาร

"ใครน่ะ!" เธอตะโกนถาม แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ

หัวใจของเธอเต้นรัว เธอค่อยๆ หมุนเก้าอี้ทำงานกลับไปมองช้าๆ

ทางเดินนั้นมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอที่ส่องไปถึงเพียงเล็กน้อย

และตรงสุดทางเดินนั้น... ในเงามืด... มีคนยืนอยู่

มันเป็นเงาตะคุ่มของร่างผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง

"นั่น... นั่นใคร" ก้อยถามเสียงสั่น "ฉันถามว่านั่นใคร!"

ร่างนั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ในความมืด ไม่ตอบ ไม่ขยับ

ก้อยพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ขาของเธอไม่มีแรง เธอคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเตรียมจะโทรหาตำรวจ

แต่แล้ว... เธอก็ได้กลิ่นมันอีกครั้ง

กลิ่นกุหลาบ...

ครั้งนี้มันไม่ได้หอมจางๆ อีกต่อไปแล้ว แต่มันหอมฟุ้งและรุนแรงจนอัดแน่นไปทั่วทั้งออฟฟิศ กลิ่นที่ควรจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย บัดนี้กลับทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้และหายใจไม่ออก

"แกต้องการอะไร!" ก้อยตะโกนถามออกไปอีกครั้ง

เงาร่างในความมืดนั้น... ค่อยๆ ก้าวเดินออกมาข้างหน้าช้าๆ... ทีละก้าว... ทีละก้าว... เข้ามาในแสงสว่างที่ส่องมาจากหน้าจอของเธอ

มันดูเหมือนตะวัน... แต่ไม่ใช่... ดวงตาของมันดูว่างเปล่า... และมันก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

ก้อยกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel