บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

จู่ๆ หัวใจของรินลดาก็เต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเหมือนครั้งแรกที่เธอได้เจอกับเขาไม่มีผิด และเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเขา กระทั่งมันหยุดเป็นปรกติเมื่อไม่ได้เจอกัน เพราะทันทีที่หมดเทอมธีทัตก็ไม่ได้มาสอนในฐานะอาจารย์พิเศษอีก

“ดำ...พาเธอขึ้นเรือ” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยสั่งออกไป แม้ก่อนหน้านี้เขากับรินลดาจะเคยเจอกัน แต่นั่นมันคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เวลานี้ธีทัตต้องทำทุกอย่างเพื่อไล่ให้เธอกลับไปโดยเร็วที่สุด

“ครับนายหัว” ดำรับคำทันที ก่อนจะเดินเข้ามาถือกระเป๋าให้รินลดาพร้อมส่งสายตาให้เธอตามมา ซึ่งเธอก็ตามชายตรงหน้าไปเงียบๆ กระทั่งขึ้นไปนั่งบนเรือ

จากนั้นเรือสปีดโบ้ทก็มุ่งตรงไปบนท้องทะเล ห่างจากฝั่งออกไปเรื่อยๆ รินลดาที่ไม่ได้มีแว่นตากันแดดใส่จำต้องนั่งตาหยีอยู่กลางเรือ คนที่นี่เรียกธีทัตว่านายหัว เรื่องนี้เธอรู้มานานแล้วเพราะตอนเจอกันครั้งแรก อาจารย์แสงดาวที่เป็นเพื่อนสนิทกับธีทัตเคยบอกไว้

แต่จู่ๆ ข้อความในกระดาษที่เพิ่งเซ็นไปเมื่อวานก็เข้ามาในความคิด ตอกย้ำว่าเธอมานี่ที่เพื่ออะไร นั่นทำให้ใบหน้าสวยที่แดงเพราะแดดยิ่งแดงก่ำมากยิ่งขึ้นไปอีก หวังว่าธีทัตจะให้ความร่วมมือกับเธอ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกกลัวชายหนุ่มบอกไม่ถูกเหมือนกัน กลัวจนไม่กล้าสบตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักก็ว่าได้ แต่ไม่รู้ทำไมใจเธอต้องสั่นเวลาเจอหน้าเขา ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปตั้งแต่ไม่ได้เจอกัน กระทั่งกลับมาเป็นอีกเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เรือสปีดโบ้ทก็หยุด ธีทัตที่เงียบมาตลอดทางก็เดินเข้ามาหารินลดา แล้วเอ่ยขึ้นเสียงห้วน ผิดไปจากอาจารย์ธีทัตคนก่อนอย่างเห็นได้ชัด

“เธอชื่ออะไร” แม้จะรู้จักผู้หญิงตรงหน้า แต่นายหัวหนุ่มก็เอ่ยถามชื่อของเธอออกไป เพื่อการันตีว่าเขานั้นไม่ได้จำคนผิด

“รินลดาหรือคุณจะเรียกว่าทรายก็ได้ค่ะ”

“แล้วคนที่ส่งเธอมาหาฉัน ได้บอกแล้วใช่ไหมว่าเธอต้องมาทำอะไร”

“บะ...บอกแล้วค่ะ” ขณะตอบรินลดาก็ไม่กล้าสบตาธีทัตไปตรงๆ

“บอกไว้อย่างว่าเธอไม่ใช่คนแรกที่ถูกส่งมา แต่อาจเป็นคนแรกที่ขอให้ฉันส่งกลับตั้งแต่วันแรกที่มาถึง แต่ถ้าเธออยากจะอยู่ ฉันก็มีเกมอะไรให้เล่น”

“เกมเหรอคะ”

“ใช่...เป็นเกมวัดดวงแบบง่ายๆ” ธีทัตส่งยิ้มมุมปากให้เธอ แต่คนที่ลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอกลับเป็นดำแทน นั่นเพราะรู้ดีว่าเกมวัดดวงที่นายหัวได้เอ่ยออกมานั้น รับรองได้ว่าไม่มีอะไรง่ายๆ

“คุณต้องการอะไรหรืออยากให้ฉันทำอะไรก็ว่ามา”

“เห็นเกาะนั่นไหม” ธีทัตชี้นิ้วไปยังเกาะที่อยู่ไม่ไกลนัก อันที่จริงเขาไม่เคยใช้วิธีนี้กับใครมาก่อน รินลดาคือผู้โชคดีรายแรกก็ว่าได้

“เห็นค่ะ”

“กระโดดลงทะเล”

“กระโดดลงทะเล ตอนนี้เหรอคะ” รินลดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยิน ใบหน้าสวยคมดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ธีทัตก็ไม่ได้สนใจ

“ใช่...กระโดดลงทะเลตอนนี้แล้วเธอก็ว่ายน้ำไปที่เกาะนั่น ถ้าเธอรอดคืนนี้เราค่อยมาคุยกัน โอเค้” ธีทัตยืนกอดอกแล้วเอ่ยขึ้น

รินลดาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อข่มความกลัวที่ตอนนี้แสดงออกด้วยอาการมือเท้าเย็นและขาที่กำลังสั่น แม้จะกลัวแค่ไหนแต่ก็ต้องข่มความกลัวนั่นไว้

“โอเคค่ะ”

“โอเคก็กระโดดลงไปสิ ฉันจะได้เอาเรือเขาฝั่ง ร้อน”

“ค่ะ” รับปากเสร็จรินลดาก็จัดการถอดรองเท้ากับวางโทรศัพท์ไว้บนเรือ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงไปจากเรือสปีดโบ้ท กระทั่งตอนนี้เธอลอยคออยู่ในทะเล ธีทัตยังคงยืนกอดอกมองเธออยู่บนเรือด้วยท่าทางไม่ยี่หระหากรินลดาจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ เพราะเธอเป็นคนเลือกเอง

“ออกเรือได้แล้วดำ”

“ครับนายหัว” ทันทีที่รับคำเสร็จ ดำก็ขับเรือสปีทโบ้ทตรงไปยังเกาะที่เห็นตรงหน้าทันที ซึ่งก็ไม่ใช่เกาะใครที่ไหนของธีทัตนั่นเอง ด้านหน้าเป็นรีสอร์ตระดับห้าดาว แต่ทว่าด้านหลังคือพื้นที่ส่วนตัวที่ห้ามใครเข้าไปก่อนได้รับอนุญาต

แม้จุดที่รินลดาต้องเริ่มว่ายน้ำไปถึงเกาะนั้นมองดูไม่ไกล บวกกับเธอว่ายน้ำค่อนข้างแข็งแรงจึงมั่นใจว่าระยะทางแค่นี้คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

“เดี๋ยวก็รู้ ว่าจะจบหรือไปต่อ…หึหึ” ธีทัตที่เวลานี้ขึ้นฝั่งได้แล้วยืนหัวเราะได้อย่างเลือดเย็น ชนิดที่ดำเองยังเสียวสันหลังแทนรินลดาที่เวลานี้กำลังต่อสู้กับน้ำทะเล

เธอเห็นเกาะอยู่ไม่ไกลนัก แต่ทำไมพอว่ายน้ำตรงไปถึงรู้สึกว่าเกาะมันค่อยๆ ห่างออกไปก็ไม่รู้ พยายามคุมตัวเองให้มีสติเข้าไว้ พยายามบอกตัวเองว่าให้สู้ให้อดทน อีกไม่นานเรื่องนี้ก็คงจบลง

รินลดาว่ายน้ำในทะเลมาเกือบสองชั่วโมง แม้เหนื่อยจนใจแทบขาดแต่เธอก็บอกตัวเองให้สู้ จะตายตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ตามองตรงไปยังเป้าหมายที่ค่อยๆ ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนเธอจะใช้เวลากับมันมากไปหน่อย เพราะเวลานี้รอบข้างกำลังมืดแล้วนั่นเอง ทะเลกลางวันสวยแต่ทว่าหากเปลี่ยนเป็นกลางคืนกลับมีแต่ความน่ากลัว แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงกำลังรอเธออยู่บนฝั่งต่างหาก

“ยังไม่ตายครับนายหัว”

“รู้แล้ว” ธีทัตหันมาเอ่ยกับดำเสียงห้วน ก่อนที่จะละสายตาไปมองรินลดาที่เวลานี้นอนอยู่บนทรายด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่เปลี่ยนใจที่จะทรมานเพื่อให้เธอไปจากที่นี่

นายหัวหนุ่มเดินตรงไปหารินแล้วเอ่ยสั่งเสียงห้วน

“ลุกขึ้น”

“ขอฉันนอนพักอีกหน่อย” น้ำเสียงหอบ ๆ เอ่ยตอบ ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มของรินลดาเวลานี้แห้งและซีดอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ได้ นี่คือคำสั่ง” ธีทัตเอ่ยสั่งโดยไม่สนใจอาการหายใจเข้าปอดลึกๆ ของรินลดาเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เธอต้องกัดฟันแล้วลุกขึ้น แต่ขาเจ้ากรรมดันสั่นจนต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้นทรายอีก เห็นแบบนี้แล้วนายหัวหนุ่มก็หงุดหงิด

ธีทัตเข้ามาคว้าต้นแขนของเธอไว้ แต่ไม่ได้เข้ามาเพื่อช่วยพยุงเพราะสิ่งที่เขาทำคือการออกแรงลากรินลดาให้เดินตามไปยังบ้านพัก แม้จะเจ็บและเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดแต่รินลดากลับไม่ปริปากเอ่ยอะไรออกไป

ตุ๊บบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel