ตอนที่ 5 ผมไม่ทราบ
“เข้าไปซิ”
เราจำต้องเข้าไปในห้องน้ำตามที่เขาสั่ง แล้วคือเราอาบทั้งๆที่ยังสั่นอยู่นั่นแหละ
“อาบให้มันจริงจังหน่อยซิ เพราะร่างกายเธอมันสกปรกมานะ”
“ค่ะ”
เราก็ก้มหน้าก้มตาอาบน้ำจนเราไม่รู้เลยว่าเขาเข้ามาประชิดตัวเราตอนไหน เราตกใจจนเกือบจะล้มแนะ แต่เขาก็รั้งเราไว้ซะก่อน
“คุณ...คุณจะทำอะไรคะ”
“ก็เธอมันอาบไม่สะอาดฉันเลยจะมาอาบให้ไง”
เขาดันเราติดเข้ากับกำแพง แล้วใช้มือล้วงเข้าไปยังส่วนด้านล่าง เราแทบกรี้ดเลย เพราะมันเจ็บมากๆ เจ็บจนเกือบจะขาดใจตายแล้ว
“อ๊ายยย อย่าทำแบบนี้ค่ะ ษาเจ็บ โอ้ยยยมันเจ็บนะคะ”
“ก็เพราะตรงนี้มันสกปรกที่สุดไง มันถึงต้องล้างให้สะอาด”
เขาดูเหมือนจะไม่ฟังคำร้องขอของเราเลย เขายังคงล้วงเข้าไปอยู่อย่างนั้น จนเราจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว จนซักพักเราก็เสร็จคามือเขานั่นแหละ แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจ เขาจับเราหันหลังแล้วทำความสะอาดทางด้านหลังอีกครั้ง มันเจ็บจนเกือบจะตายอยู่ตรงนี้เลยนะ แต่สีหน้าของเขากลับไร้อารมณ์สิ้นดี
“ตัวเธอมันสกปรกเพราะเธอมันไปเกลือกกลั้วกับสิ่งสกปรกไงละเมณิษา”
นี่คือคำพูดทิ้งท้ายของเขาก่อนที่เราจะหลับไปอีกครั้ง ทำไมนะ ทำไมชีวิตเราถึงเจอแต่เรื่องเลวร้ายตลอดเลย ทั้งพ่อ พี่ และสามี ทุกคนต่างพากันทำร้ายเรากันหมด แล้วนี่เรายังมาโดนใครก็ไม่รู้ทำร้ายอีก ทำไมต้องเป็นเราทุกที ทำไมคนๆนั้นต้องเป็นเราด้วย
“เฮือก!!!!!!!!!!!”
เราลืมตาขึ้นมาก็เจอกับห้องๆเดิม นี่ไม่ใช่ห้องน้ำเหรอ เรานึกว่าเขาจะปล่อยเราอยู่ที่ห้องน้ำนั้นซะอีก เรามองไปรอบๆ นี่เราอยู่บนเตียงนะ ใครพาเรามาจะเป็นเขาคนนั้นได้เหรอ ผู้ชายป่าเถื่อนโหดร้ายคนนั้นจะอุ้มเรามาจริงๆเหรอ
“โอ้ย!!!!!”
เรารู้สึกเจ็บมากๆเลยเวลาขยับตัวถึงกับต้องร้องอ่ะ ใช่แล้วเขาใช้นิ้วเล่นกับส่วนล่างของเรานี่นาคนป่าเถื่อนคนนั้น ใช้กำลังบังคับเรา
“ตื่นแล้วเหรอครับ อาหารเที่ยงสำหรับคุณเมณิษาพร้อมแล้วครับเชิญลงไปทานได้เลย”
คุณโยชิเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับโค้งบอกเราอย่างสุภาพ เราจึงรีบเอาผ้าขึ้นมาปิดเรื่องร่างอันเปลือยเปล่าเอาไว้
“ไม่ต้องอายแล้วก็ไม่ต้องกลัวผมนะครับ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”
“ถ้างั้นคุณปล่อยษาไปได้มั้ยคะ นึกว่าสงสารษาเถอะ ษาขอร้อง ทุกคนน่าจะกำลังห่วงษาอยู่แน่ๆ ปล่อยษาไปเถอะนะคะ ษาอยากกลับบ้านค่ะคุณโยชิ ษามีสามีแล้วษาต้องกลับบ้านไปทำอาหารให้สามีของษา นะคะคุณโยชิได้โปรดเมตตาษานะคะ”
“ผมทำไม่ได้ครับ นายสั่งให้ผมดูแลคุณอย่างดีและห้ามให้คุณออกจากเพ้นเฮ้านี้เป็นอันขาด เอาเป็นว่า คุณเมณิษาพร้อมเมื่อไหร่ ลงไปทานข้าวนะครับ”
“คุณโยชิ เดี๋ยวค่ะคุณโยชิ”
เราร้องไห้ออกมาเลย คือเขาคือคนเดียวไงที่จะช่วยเราได้ แต่เขากลับปฎิเสธอย่างไร้เยื่อไยเลย ทำไงดี เราควรจะลงไปกินข้าวรึเปล่าเพราะถ้าเราไม่กินข้าวจนป่วยเขาก็จะต้องพาเราไปโรงพยาบาลเราก็จะหนีไปจากเขาได้ แต่เราก็หิวมากเลยนะ ตั้งแต่เมื่อคืนเรายังไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ จะเอายังไงดีอ่ะเราควรทำไงดี คือตอนนี้ความคิดเราตีวนใส่กันไปหมดเลย เราจึงค่อยๆลงจากเตียงด้วยขาที่สั่นเทา มันสั่นจนเราเกือบจะยืนไม่อยู่เลยหละ แต่เพราะความหิวมันเลยทำให้เราจำใจต้องลงไปทานข้าว ซึ่งอาหารถูกจัดจานวางไว้อย่างหรูหรา แต่ที่ไม่เหมาะกับโต๊ะอาหารก็คือสภาพเรานี่แหละ
“ผมตักข้าวให้นะครับ” คุณโยชิตักข้าวใส่จานให้เรา พร้อมกับเอาผ้ามาวางที่ขา เขาไม่มีท่าทีหื่นใส่เราเลยซักนิดทั้งๆที่เราโป๊ทั้งตัวแบบนี้ แถมยังดูใจดีซะมากกว่า
“แล้ว คือ ..เขาไม่อยู่เหรอคะ เขาไม่อยู่ใช่มั้ย”
“ใครเหรอครับ”
“ก็...ก็เจ้านายคุณไงคะ”
“อ๋อ นายมีนัดทานข้าวกับภรรยาของนายนะครับ”
ทาข้าวกับภรรยางั้นเหรอ ภรรยานั่นก็แปลว่าเขามีเมียแล้วนะซิ แล้วเขาทำกับเราแบบนี้ทำไม เขาจับเรามาไว้ที่นี่เพื่ออะไร ทั้งๆที่เขาก็มีเมียอยู่แล้วอ่ะ
“งั้น เขาจับษามาทำไมคะคุณโยชิ ตอบษาหน่อยได้รึเปล่า ษาไปทำอะไรให้เขา หรือว่าเป็นเพราะษาเห็นเขาเปื้อนเลือดเขาถึงทำกับษาแบบนี้ หรือว่าเขาจับมาผิดตัวเหมือนละครจำเลยรัก เพราะเท่าที่ษาใช้ชีวิตมาษาไม่เคยทำร้ายใครเลยนะคะ อีกอย่าง ษาก็เพิ่งอายุ 18 เอง” เราพล่ามถามคุณโยชิเป็นชุดเลย ซึ่งเขาก็ได้แต่นิ่งนะ เขาไม่ตอบอะไรเราเลย
“คุณโยชิ ตอบษาหน่อยได้มั้ยคะ อย่านิ่งได้มั้ย”
“ผมว่าคุณเมณิษาทานข้าวเถอะครับเดี๋ยวผมจะเอายาแก้อักเสบกับยาแก้ไข้มาให้ นายบอกว่าคุณน่าจะไม่สบาย”
“คุณโยชิ”
เขาไม่สนใจสิ่งที่เราถามแล้วเขาก็เดินออกไป เอาไงดี เราควรทำยังไงดี เราร้องไห้ไปด้วย กินข้าวตรงหน้าไปด้วย ป่านนี้คุณวฤทคงกำลังตามหาเราอยู่แน่ๆ ทุกคนคงกำลังเป็นห่วงเราอยู่แน่ๆเลย
เรากินข้าวตรงหน้าได้แค่นิดเดียวเราก็เดินกลับขึ้นมาบนห้อง เราเปิดทีวีดูข่าวเพราะที่นี่ไม่มีมือถือให้เราเล่น แล้วเราก็อยากจะรู้ว่าคุณวฤทจะประกาศตามหาเรารึเปล่า แต่ไม่ว่าเราจะเปิดดูช่องไหนก็ไม่มีข่าวการหายไปของเราเลย ทำไมเงียบแบบนี้ พวกเขาไม่คิดจะตามหาเราเลยงั้นเหรอ เรานั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่นานท่ามกลางเสียงทีวีที่เปิดค้างเอาไว้
เดี๋ยวนะ ว่าแต่ ใช่ซิ นี่เป็นตึกสูงนี่ ถ้าเราใช้กระดาษเขียนข้อความช่วยเหลือและร่อนมันลงไปข้างล่าง มันต้องมีซักคนซิที่รู้ว่าเราโดนทำร้ายอยู่ที่นี่ เราจึงเดินไปหากระดาษและปากกาในห้องจนเจอ เราเขียนคำว่าช่วยด้วยลงไปในกระดาษเป็นสิบๆใบ แล้วเราก็พับเป็นรูปเครื่องบิน แต่หน้าต่างมันเปิดได้แค่นิดเดียวเท่านั้น เอาน่าเปิดได้นิดเดียวก็ยังดี แล้วเราก็ร่อนเครื่องบินเหล่านั้นลงไปที่ด้านล่าง สาธุขอให้มีคนเจอมันด้วยเถอะนะ
เรานั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่ห้อง จนประตูห้องเราถูกเปิดออก ก็เป็นคุณโยชิคนเดิมเป็นคนเดินมาหาเรา
“นายต้องการพบคุณครับ”
“เขากลับมาแล้วเหรอคะ เขาอยากเจอษาทำไม คะ ษาไม่มีอะไรจะคุยกับเขาแล้วค่ะ”
“ผมไม่ทราบครับ เชิญคุณษาที่ห้องรับรองดีกว่า”