ตอนที่ 1 กลัวนิดหน่อย
“ษา นี่คุณดวงพรแม่ใหญ่ที่เธอจะต้องเคารพ สวัสดีท่านซะซิ”
พ่อแนะนำเราให้รู้จักกับผู้หญิงที่เราไม่รู้จัก หลังจากที่แม่ของเราเสียได้ 1 อาทิตย์
“สวัสดีค่ะคุณแม่ใหญ่”เรายกมือไหว้ท่านตามคำสั่งของพ่อ ซึ่งสีหน้าของแม่ใหญ่ก็ดูไม่ได้ชอบเราเท่าไหร่หรอกนะ ท่านรับไหว้เราแต่ก็ยังเมินหน้าหนีเรา เราก็ไม่เข้าใจอะไรหรอก
“นี่คุณคิดจำทำอะไรคะคุณศักดา คุณจะเอาตราบาปของคุณมาให้ฉันเลี้ยงงั้นเหรอ”
“คุณหญิง ผมขอโทษที่ผมไม่ได้บอกคุณเรื่องลูกกับเรื่องวิดา แต่ผมก็สำนึกผิดแล้วนะ อีกอย่าง ยายษาก็ไม่มีผู้ปกครองหรือใครมาดูแลได้อีก ผมเลยจะขอร้องคุณ ให้ยายษาอยู่ในฐานะอะไรก็ได้”
“นั่นซิครับ คุณแม่ ถ้าคุณแม่ไม่รับเด็กคนนี้ แล้วเด็กคนนี้จะอยู่ยังไงครับ”มีอีกเสียงดังขึ้นพร้อมกับผู้ชายร่างสูงเดินเข้ามา เขาดูดีจัง หน้าตาเหมือนพ่อเราไม่มีผิด
“อ้าวธัน กลับมาเมื่อไหร่ละลูก”
“กลับมาได้ 2-3 วันแล้วครับคุณพ่อ”
“เหรอ แล้วจะกลับไปอังกฤษอีกเมื่อไหร่ละ”
“ผมว่าจะไม่กลับแล้วครับ เพราะผมจะมาช่วยคุณแม่ดูแลธุรกิจของเรา”
“งั้นเหรอดีเลย มานี่ๆพ่ออยากแนะนำให้ธันรู้จัก นี่ยายษา น้องสาวของลูกนะ อ้าวษา นี่คุณธัญเทพ ลูกของฉันกับแม่ใหญ่ สวัสดีเขาซะซิ”
ที่แท้ก็พี่ชายเรานี่เอง เรามีพี่ชายที่หน้าตาดีและใจดีขนาดนี้เลยเหรอ ดีใจจัง
“สวัสดีค่ะคุณธัญเทพ”
“เรียกพี่ธันดีกว่านะ ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน”
พี่ธันเข้ามาจับที่แขนเรา พี่เขาอ่อนโยนและดูใจดีกับเรามากๆ
“แล้วแต่ธันเลยแล้ว แม่ไม่อยากขัดแล้ว เพราะถึงแม่ขัดใจเราไปเราก็ไม่ฟังอยู่ดี”
แม่ใหญ่พูดก่อนจะลุกเดินหนีไป เราจึงยกมือไหว้พี่ธัน ซึ่งพี่เขาก็ยิ้มให้เรานะ
“ต่อไปเราคือครอบครัวเดียวกันแล้วนะษา”
พี่เขาค่อยๆลูบหัวเราช้าๆ อบอุ่นจังเลย
“ต่อไปนี้แกจะต้องถวายชีวิตของแกให้กับพี่ธันเขานะ ไม่ว่าเขาจะให้แกทำอะไร แม้แต่จะให้แกไปตายแกก็ต้องทำ เพราะเขาเป็นคนรับแกขึ้นมาจากบ่อโคลนบ่อตม เข้าใจมั้ยยายษา”
“เข้าใจค่ะพ่อ”
“ห้ามเลี้ยงฉันว่าพ่อ แกต้องเรียกฉันว่าคุณท่านกับแม่ใหญ่ เข้าใจรึเปล่า”
“ค่ะ เข้าใจค่ะ”
แล้วพี่ธันกับคุณท่านก็พากันเดินไปส่วนเราก็หยิบกระเป๋าเดินตามไปอย่างว่าง่าย ต่อไปเราจะต้องรับใช้ครอบครัวนี้ให้ดีที่สุดเพราะเขาจะเป็นครอบครัวของเราแล้ว
เมณิษา ใช่เราชื่อเมณิษา ตอนนี้เราอายุ แค่ 18 ปีแล้ว เรามาอยู่กับครอบครัวของแม่ใหญ่ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และวันนี้เราเพิ่งได้รู้ข่าวจากแม่ใหญ่ว่าท่านต้องการให้เราแต่งงานกับทายาทอนุธาพงษ์ ลูกชายคนเดียวของบริษัทเครื่องดื่มชูกกำลังที่มียอดขายมากๆในประเทศซึ่งเราไม่เคยเจอหน้าเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียวนะ
“พี่ธันษากลัวจังค่ะ”
เราเกาะแขนพี่ธันแน่นเลย เพราะว่าวันนี้แม่ใหญ่บอกว่า คนที่เรากำลังจะแต่งงานด้วยกำลังจะมาที่บ้าน
“กลัวอะไร มันก็เพื่อนพี่แหละ ไม่ต้องกลัวหรอก”
“เขาจะใจดีใช่มั้ยคะ”
“อืม.. มันก็ใจดีอยู่นะ”
“เหรอคะ”
ถึงจะได้คำตอบจากำพี่ธันเราก็ยังกลัวอยู่ดี และพอเราเดินลงมาจากห้องเพื่อมาหาแม่ใหญ่ที่ห้องโถงใหญ่เราก็เจอกับเขาคนนั้นและทันทีที่เราได้เห็นหน้าเขา วฤท อนุธาพงษ์ หัวใจของเราก็เต้นไม่เป็นจังหวะอีกเลย เขาหน้าตาดีมากๆแถมยังยิ้มให้เราแบบไม่รังเกียจเราอีกด้วย
“เป็นไงวฤท น้องของฉันสวยพอจะเป็นเจ้าสาวของแกได้รึเปล่า”พี่ธันที่เดินไปนั่งข้างคุณวฤทได้ทีแซวใหญ่เลย
“สวยซิสวยเหมาะสมกับฉันมาก และก็แล้วที่เป็นน้องสาวของนายนะธัน”
“งั้นนายต้องดูแลน้องฉันดีๆนะเพราะษาคือน้องสาวคนเดียวของฉันเลย ถึงแม้จะไม่ใช่แม่เดียวกันแต่ยังไงฉันก็รักษามาก”
“แน่นอน นายไม่ต้องห่วงนะฉันจะดูแลน้องนายอย่างดีที่สุดเลย”
แล้วพวกเราก็เริ่มทานข้าวกัน ทั้งพี่ธันและคุณวฤทดูมีความสุขมากๆ เรารู้สึกดีนะที่เรากำลังจะสร้างครอบครัวของตัวเองแล้วกับคนดีๆแบบนี้ มันต้องอบอุ่นและมีความสุขมากแน่ๆ
และหลังจากผ่านมา 1 เดือน ฤกษ์งานแต่งของเรากับคุณวฤทที่ถูกกำหนดไว้ก็มาถึงเรากำลังจะได้แต่งงานแล้ว
"พรุ่งนี้แล้วใช่มั้ยที่ษาจะได้เป็นเจ้าสาว" พี่ธันเอ่ยถาม ขณะที่กำลังหวีผมให้เราไปด้วย
"ค่ะ แล้วพี่ธันจะไปงานแต่งษามั้ยคะ"
"ไปซิ งานแต่งของษาทั้งทีพี่จะไม่ไปได้ยังไง"
พี่ธันค่อยๆหวีผมให้เราอย่างเบามือ มันเลยทำให้เรารู้สึกดีมากๆ
“ว่าแต่ พี่ธันรู้มั้ยคะว่าทำไมคุณท่านถึงให้ษาแต่งงานกับคุณวฤท”
“อะไร ทำไมถามแบบนี้ ก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ”พี่ธันดุเรานิดๆนะ
“เอ่อออ…. ษาขอโทษค่ะที่ถามแต่พอดีษาไปได้ยินพวกแม่บ้านเขาคุยกันนะคะว่าแฟนของคุณวฤท เพิ่งเสียไปก่อนที่จะมาเจอษาที่บ้านเราวันนั้น ษาก็เลยอยากรู้ว่าเขาแต่งงานกับษาแบบนี้เขาไม่คิดถึงแฟนเขาเหรอคะ”เราถามพี่ธัญอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะเราเป็นเด็กที่เชื่อฟังพวกผู้ใหญ่มาตลอดเราเลยกลัวว่าจะโดนดุหนักจากคนที่เรารัก
“พวกนี้ปากมากจริงๆนะ สสงสัยต้องไล่ออกให้หมด”พี่ธันมีนัยตาที่ดุและน่ากลัวขึ้นมาเลย เราจึงรีบหันไปจับมือพี่ธันเอาไว้เพื่อขอร้อง
“พี่ธันอย่าไล่พวกป้าๆออกเลยนะคะ นะคะพี่ธันษาขอร้องนะคะ”
“งั้นก็อย่าไปคิดอะไรมากซิคนเราเกิดมาก็ต้องตายมั้ย อีกอย่างวฤทมันก็เป็นผู้ชายมันยังมีโอกาสอีกเยอะจะให้มันมามัวเสียใจเรื่องเมียตายก็คงไม่ใช่รึเปล่า”เหตุผลของพี่ธันก็ฟังดูจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่เราก็คัดค้านอะไรไม่ได้เพราะคนที่พูดคือพี่ชายของเรา
“เหรอคะ แล้วเหตุผลที่เขาแต่งงานใหม่กับษาละคะ”
“ก็เพราะเราเป็นเด็กดีไง เชื่อฟัง ว่าง่าย อีกอย่างวฤทมันก็เป็นคนดีการที่ษาจะได้คนดีมาดูแล มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ทำไม ษาไม่อยากแต่งเหรอ”
“เปล่าค่ะ ษาก็แค่ กลัวนิดหน่อย”
“ไม่ต้องกลัวหรอก วฤทนะเป็นเพื่อนพี่ยังไงมันก็ต้องดูแลษาอย่างดีแน่นอน”
เราเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ธันพี่ชายคนเดียวของเราด้วยแววตาที่ขอบคุณมากๆ
“ขอบคุณนะคะพี่ธันที่พี่ดีกับษาขนาดนี้”
“ก็ษาเป็นน้องของพี่นี่ยังไงพี่ก็ต้องดูแลษาอย่างดีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าษาได้คู่ครองที่ดี พี่ก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงอีก ษาเข้าใจใช่มั้ย”
เราคิดมาตลอดนะว่าเราโชคดีมากๆที่เราได้มาอยู่ครอบครัวนี้ พวกเขารักและห่วงเราอย่างใจจริงเสมอมาเลย