หัวใจหนุ่มน้อยแตกสลาย
บ้านของมินตรา เมื่อความรักมันบ่มตัวสุกงอม ความฝันอันสูงสุดของผู้หญิงคือการแต่งงาน เมื่อชายหนุ่มที่คบกันมานานเกือบสิบปี จัดเซอร์ไพรส์ในวันเกิดของเธอ มินตราไม่ลังเลเลยสักนิด หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาบรรจงสวมแหวนลงที่นิ้วนางข้างซ้ายให้กับเธอ ก่อนที่เขาจะจุมพิตลงที่หลังมือของเธอเบาๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือ ที่เหล่าบรรดาผองเพื่อนของทั้งสองมาร่วมยินดี
“ขอบคุณมินมากนะ ที่ไม่ทิ้งเจตต์ไปไหน เจตต์ขอสัญญาสาบานว่าจะรัก และซื่อสัตย์ต่อมินคนเดียวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ถ้าเจตต์ผิดคำพูดขอให้เจตต์มีอันเป็น..." เขาพูดยังไม่จบแฟนสาวก็รีบเอามือขึ้นมาปิดปากของเจตต์เอาไว้ เพราะหากเขาทำไม่ได้อย่างที่พูด ก็เท่ากับชายหนุ่มกำลังแช่งตัวเองให้อายุสั้นลง
“เจตต์ไม่จำเป็นถึงกับต้องสาบานก็ได้ มินเชื่อใจเจตต์นะ ที่ผ่านมาเจตต์พิสูจน์ให้มินเห็นแล้วว่า ความรักเป็นยังไง สวยงามแค่ไหนขอบคุณนะที่ไม่ทิ้งมิน” มินตราพูดพร้อมกับหอมแก้มแฟนหนุ่มไปฟอดใหญ่ ทำให้บรรดาเพื่อนของเขาส่งเสียงกรี๊ดขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างก็อิจฉาตาร้อนในความโรแมนติกของทั้งคู่
บ้านที่กำลังจัดปาร์ตี้รื่นเริงส่งเสียงรบกวนไปยังบ้านข้างๆ เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่เรื่องนั้นมันไม่เท่ากับสิ่งที่เขารู้มา วันเกิดของเธอปีนี้มันต่างไปจากทุกปี เพราะมันคือวันปาร์ตี้สละโสดของเธอด้วย เวลานี้หัวใจของชายหนุ่มเหมือนโดนไฟจี้ มันเจ็บจนเขาอยากจะย้ายบ้านหนี ความเป็นจริงแล้วเธอไม่ผิดเลยสักนิด
เพราะมินตราไม่เคยพูด หรือแสดงท่าทีว่าชอบเขาเลยสักครั้ง เท่าที่เขาเห็นเธอกับผู้ชายคนนั้นก็คบกันมานานแล้ว ไม่แปลกที่พวกเขาจะแต่งงานกัน เขาต่างหากที่แอบชอบเธออยู่ฝ่ายเดียว ทั้งที่เธอไม่เคยเหลียวมองมาเลยสักครั้ง แต่เข็มทิศก็ยังหวังลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันผู้ชายคนนั้นกับมินตราจะเลิกกัน อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวแต่เข็มทิศก็ไม่เคยเข้าไปแทรกระหว่างพวกเขาทั้งสองเลย ชายหนุ่มทำได้แค่แอบมองเธออยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว
มินตราและเจตต์แต่งงานกัน เธอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสามี ทำให้บ้านที่เคยอยู่เงียบอย่างกับบ้านร้าง คนที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆ อย่างเข็มทิศ มักจะปีนข้ามรั้วเข้าไปกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นลงพื้น บ้างก็ตัดหญ้าที่มันขึ้นรกรุงรัง เขาทำแบบนี้ตลอดระยะเวลาเกือบสองปีแล้ว เมื่อทำความสะอาดเสร็จเขาก็กระโดดข้ามรั้วมายังบ้านของตน โดยวันนี้มีเพื่อนสนิทนั่งเล่นรออยู่ที่ห้องรับแขกในวันหยุด เธอมักจะมาขลุกอยู่ที่บ้านของเขาเสมอ
“เข็มทิศกูถามมึงจริงๆ เถอะ บ้านใครวะ! ทำไมกูมาหามึงในวันหยุดทีไร กูก็เห็นมึงทำความสะอาดอยู่แต่บ้านหลังนั้นบ้านญาติมึงเหรอ” ไอลินแกล้งถามออกไปทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ญาติพ่อมึงดิ! มึงไม่รู้อะไรก็เงียบไป” เข็มทิศพูดออกมาอย่างรำคาญ
“ทำไมกูจะไม่รู้ เขาแต่งงานมีผัวแล้วนะ เมื่อไหร่มึงจะลืมเขาได้สักที”
“เรื่องของกูมึงอย่ายุ่งน่า” เข็มทิศตวาดออกไปเสียงดัง เมื่อหัวใจของเขานั้นมีเพียงแค่มินตรา
“ทำไมกูจะยุ่งไม่ได้กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย! มึงช่วยหันมามองคนที่อยู่ใกล้ๆ คนที่จะเป็นไปได้ คนที่เขารักมึงบ้างได้ไหม” คำพูดของไอลินเขาเข้าใจดี เธอหมายความถึงอะไร เขาพยายามที่จะลองคบกับเธอหลายครั้งแล้ว แต่มันทำใจไม่ได้จริงๆ เพราะเขาลืมสาวรุ่นพี่ไม่ได้
ตอนเขายังเด็กสาวรุ่นพี่ใจดีมาก มักจะซื้อขนมมาฝากเขาเสมอ และเธอมักจะช่วยสอนการบ้านให้กับเด็กชาย ยามว่างๆ ก็จะชวนไปที่สนามเด็กเล่น ความผูกพันเล็กๆ นั้น มันเกิดขึ้นกับเขาโดยที่หญิงสาวไม่ได้ตั้งใจแต่หญิงสาวกลับมองเขาเป็นเพียงแค่น้องชายเท่านั้น ด้วยอายุที่แตกต่าง และมารดาของเข็มทิศไม่ชอบที่มินตรามายุ่งกับลูกชายของนาง สาวน้อยจึงตัดสินใจมีแฟน เพื่อตัดปัญหากับเพื่อนบ้าน
บางครั้งเธอก็เอือมกับความคิดของผู้ใหญ่ เด็กชายสิบขวบกับเด็กสาวสิบแปดไม่มีทาง ที่ความรักมันจะเกิดขึ้นกับคนทั้งสองได้ กว่าเขาจะโตเธอคงแก่หงำเหงือกไปแล้ว จากวันนั้นมามินตราก็ไม่คุยกับเข็มทิศอีกเลย เดินผ่านก็ทำเป็นไม่รู้จัก ไม่ทักไม่คุย เมื่อเวลาผ่านไประยะห่างมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนทั้งสองห่างกันนานเข้า จนในที่สุดก็กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกันและกัน
ไอลินแทบทนไม่ได้กับสิ่งที่เข็มทิศกำลังเป็นอยู่ ความรักของเธอที่มีให้กับเขามันก็มากพอ ที่จะทำให้เขาลืมใครคนนั้นได้ แต่ทำไมเขากลับปฏิเสธที่จะรับ เพื่อนที่คิดมากเกินกว่าเพื่อนมันทรมานมากสำหรับไอลินเพราะอยู่ใกล้แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์เกินกว่าที่เป็น
“กูกลับก่อนนะคืนนี้นัดกับพวกไอ้มอสเอาไว้ มึงจะไปด้วยไหม”
“ที่เดิมใช่ไหม อืม... เดี๋ยวกูตามไป”
“อืม..พวกกูจะไปรอที่ผับรีบตามไปล่ะ บ๊าย บาย” เมื่อไอลินเดินออกไป เข็มทิศก็ล้มลงนอนเหยียดไปกับโซฟา คิดหาเหตุผลที่เขาลืมสาวรุ่นพี่ไม่ได้ ทำไม? อะไร? ที่ทำให้เขายังลืมเธอไม่ได้
“ไอลินล่ะเข็มทิศ ทำไมไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน”
“พอดีไอลินเขามีธุระหน่ะแม่ ก็เลยรีบกลับ”
“แม่ว่าไอลินเขาก็น่ารักดีนะเข็มทิศ ทำไมไม่สนใจล่ะ หรือมีใครอยู่ในใจแล้ว” “แม่ครับผมกับไอลินเราเป็นเพื่อนกัน ผมจะไปคิดกับเพื่อนแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ”
“ไม่ใช่ว่ายังลืมใครไม่ได้หรอกนะ เขาแต่งงานไปแล้วแกก็เลิกหวังลมๆ แล้งๆ สักที”
“แม่ครับมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณมินตรา แม่อย่าเอาเธอมาโยงกับเรื่องนี้!”
“แหม... แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะแม่คนนี้! ป่านนี้เขาคงมีลูกเป็นโหลไปแล้ว อายุก็ห่างกันเกือบสิบปี เขาคงไม่อยากกินหญ้าอ่อนแบบแกหรอกนะ” ผู้เป็นมารดาพูดดักคอลูกชาย นางไม่ชอบมินตราสักนิด ยิ่งเมื่อรู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของนางแอบชอบสาวรุ่นพี่ นางก็พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง และเมื่อมินตราแต่งงานออกไปกับชายอื่นแล้ว นางรู้สึกโล่งและดีใจมาก ที่ลูกชายอายุยังน้อยจะได้มีอนาคตเจอกับผู้หญิงดีๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าเข็มทิศนั้นยังจะลืมมินตราไม่ได้สักที