ตอนที่ 4 เหยาเหยาอย่าไร้สาระ
อวิ๋นเหยาเหยาถอนหายใจพลางยกมือขึ้นนวดขมับ จู่ๆเสียงของจางรั่วซูก็ดังขึ้น "เหยาเหยาแล้วเมื่อคืนเธอรู้สึกยังไงบ้าง?"
“อะไรยังไง?”
“ก็เรื่องอย่างว่าไงล่ะ เขาเป็นมืออาชีพนะ น่าจะลีลาไม่เบาใช่มั้ย?”
เมื่อจางรั่วซูถามมา อวิ๋นเหยาเหยาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย เธอเลยภาพตัด แต่จำรางๆ ได้ว่าดูเหมือนเขาจะจูบทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างกายของเธอแม้แต่ส่วนที่ลึกที่สุดก็ไม่เว้น
หื่นกระหายจริงๆ
ผู้ชายคนนี้ปกติแล้วทำกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้หรือเปล่า?
อวิ๋นเหยาเหยาคิดว่าคำถามนี้เป็นเรื่องตลก แน่นอนล่ะมันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะให้บริการผู้หญิงด้วยลีลาทั้งหมดที่เขามี
"เอ๋ ทำไมไม่เล่าต่อล่ะ" จางรั่วชูยิ้ม "ลืมไม่ลงใช่ไหมล่ะ"
"ลืมไม่ลงบ้านเธอสิ" อวิ๋นเหยาเหยาพูดว่า"นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ"
จางรั่วซูหัวเราะอู้อี้ "ไม่ได้ถามเบอร์เค้าหรอถ้าติดใจก็ไปใช้บริการอีกได้นะ"
“ไม่มีครั้งต่อไปแล้วมันจะไม่เกิดขึ้นอีก” อวิ๋นเหยาเหยาวางสายโทรศัพท์ของจางรั่วซูและยืนอยู่บนถนนสักพัก
เจ็บอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าปล่อยให้ชีวิตวุ่นวายได้แบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน เธอเรียกรถกลับเอารถที่คลับจากนั้นก็กลับไปอาบน้ำที่บ้าน
อวิ๋นเหยาเหยาขับรถเข้ามาที่คอนโดขนาดกลางซึ่งเป็นคอนโดที่ซื้อมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอ เมื่อสี่ปีที่แล้วเธอเรียนจบการออกแบบมาจาก RCA , London ทันทีที่กลับถึงบ้านก็ทะเลาะกับผู้เป็นพ่อถึงขั้นแตกหักนั่นเป็นเพราะตลอดเวลาที่เธอไปศึกษาต่างประเทศพ่อของเธอเข้าใจว่าเธอนั้นไปศึกษาแพทย์
ครอบครัวของพ่อเธอเป็นครอบครัวทหารโดยมีคุณปู่เป็นผู้พันพ่อของเธอและแม่ของเธอก็เป็นศาสตราจารย์ ดร. ทั้งสองคน พี่ชายของเธอเองก็เป็นศัลยแพทย์อายุสามสิบก็เป็นอัจฉริยะวงการแพทย์แล้ว
มีเพียงเธอเท่านั้นที่ดื้อรั้นแอบหนีไปเรียนการออกแบบ อวิ๋นเหยาเหยาพบกับจางรั่วซูที่ต่างประเทศทั้งสองสนิทกันมาก
เมื่อทะเลาะกับผู้เป็นพ่อถึงขั้นแตกหักอวิ๋นเหยาเหยาก็มาอยู่กับจางรั่วซูเธอเริ่มทำงานที่โจวกรุ๊ป คบหากับโจวซั่วในขณะที่จางรั่วซูนั้นค้านหัวชนฝา
อวิ๋นเหยาเหยากดเปลี่ยนรหัสหน้าห้องป้องกันไม่ให้โจวซั่วถือวิสาสะเข้ามา เมื่อตัดขาดแล้วเธอก็ต้องตัดให้ขาดจริงๆ เธอเดินเข้ามาในห้องนอน ทิ้งตัวลงจากนั้นหยิบโทรศัพท์เครื่องสีดำขนาดเล็กออกมาจากลิ้นชัก เธอกดเปิดเครื่อง
ทันทีที่เปิดเครื่องบนหน้าจอของโทรศัพท์ ก็สว่างวาบขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
'เหยาเหยากลับบ้านได้แล้ว เธอจะหายไปแบบนี้ไม่ได้นะ'
'เหยาเหยาโทรหาแม่บ้างได้มั้ยลูกแม่เป็นห่วงหนูมากนะ'
'เหยาเหยาโทรกลับหาพี่ด่วนเลยนะ'
'เหยาเหยา'......
อวิ๋นเหยาเหยาจับโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นเทา พลันน้ำตาของเธอก็ไหลรินออกมา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องที่เธอใช้อยู่เป็นประจำขึ้นมา สแกนหน้าจอแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ออกไป
แต่ยังไม่ทันได้ยินเสียงต่อสายดังขึ้นอวิ๋นเหยาเหยาก็รีบกดวางสายลงจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว
วันนี้เธอจะเข้าไปยื่นใบลาออกแล้วเก็บของที่สำคัญบางส่วนของเธอ อวิ๋นเหยาเหยาสวมใส่เสื้อยืดสีขาวยัดชายเข้าไปในกางเกงยีนส์เข้ารูปอวดหุ่นที่สูงเพรียวของเธอ
เธอขับรถเข้ามายังโจวจื่อกรุ๊ปเรียวขาที่ยาวเรียวก้าวลงจากรถ BMW ก้าวยาวๆขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสิบสองห้องทำงานของเธอ
ทันทีที่อวิ๋นเหยาเหยาก้าวออกมาจากลิฟท์ผู้ช่วยของเธอเสี่ยวเถารีบเดินเข้าไปหา พร้อมถามด้วยความกังวล "พี่เหยาเหยา รองผู้จัดการคนใหม่บอกว่าพี่ลาออกแล้วเป็นความจริงหรอคะ?พี่จะลาออกจริงๆหรอ?"
"พวกเขาทำถึงขั้นนี้แล้ว เธอคิดว่าพี่ยังควรอยู่ที่นี่ต่อ? เพื่อทำงานอดหลับอดนอนหาเงินให้พวกเขาอย่างนั้นหรอ?" ขณะที่พูดอยู่นั้น อวิ๋นเหยาเหยาก็เดินเข้าไปในห้องทำงานตนเอง
"พี่เหยาเหยาเรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็ส่วนตัว พี่อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินใจสิคะ" เสี่ยวเถารีบพูดโน้มน้าวเธอ ไม่อยากให้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทำให้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองจะต้องมาเสียใจในภายหลัง
อวิ๋นเหยาเหยาเงียบไม่พูดไม่จา เธอเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มพิมพ์จดหมายลาออกของตนเอง
เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นเหยาเหยาเข้าบริษัทโจวซั่วก็เดินออกมาจากห้องทำงานของสวีหว่านโหรวเมื่อเห็นเสี่ยวเถายืนอยู่ จึงส่งสายตาบอกให้เธอออกไป
เสี่ยวเถาเมื่อเห็นสายตาของเขา จึงรีบออกจากห้องทำงาน อีกทั้งยังปิดประตูห้องทำงานให้ด้วย
อวิ๋นเหยาเหยาปรายตามองเขา จากนั้นก็พูดขึ้น "ประธานโจวใจร้อนเกินไปรึเปล่าคะรอฉันไม่เกินห้านาทีหรอกค่ะฉันจะขนของออกไปจากที่นี่ในทันที"
โจวซั่วมองหน้าเธอ จากนั้นถอนหายใจแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน "เหยาเหยา เราต้องทำถึงขั้นนี้เลยหรอ?”
เขาคิดว่าถึงแม้จะเลิกลากันไปแล้วไม่สามารถเป็นคนรักกันได้ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ หรือถ้าไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อย่างน้อยควรที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันได้
อวิ๋นเหยาเหยาหัวเราะในลำคอ เธอรู้สึกว่าคำถามของเขาปัญญาอ่อนจนน่าตลก หันไปมองเขาแล้วถามขึ้น "ฉันเป็นคนทำให้ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้หรอคะ? ในเมื่อสตูดิโอที่ฉันเป็นคนสร้างขึ้นมากับมือ แบรนด์ที่ฉันลงแรงไปตลอดสามปีจู่ๆคุณก็บอกว่ามันไม่ใช่ของฉันตั้งแต่แรก
ที่ผ่านมาก็หมายความว่าตระกูลโจวของคุณหลอกใช้ฉัน หากชามาไม่ประสบผลสำเร็จพวกคุณคงจะเทฉันสินะ แต่นี่ชามาประสบผลสำเร็จสูงเกินคาดคุณคิดที่จะเปลี่ยนมือบริหารให้คนรักของคุณชุบมือเปิบโดยอ้างว่า สตูดิโอชามาเป็นของโจวกรุ๊ปตั้งแต่แรกแล้ว"
โจวซื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดต่อเธอ จึงพูดด้วยความเสียใจ "เหยาเหยาผมรู้ว่าผมเป็นคนผิด ผมขอโทษนะ แต่นั่นมันก็เป็นแค่เรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องงานคุณก็ยังได้รับการปันผลของชามาทุกปีเช่นเดิม ต่างคนต่างทำงานเช่นเดิมมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องงานคุณเลยไม่จำเป็นต้องลาออกเพราะเรื่องนี้"
"ฉันไม่ได้อยากเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามายุ่งกับเรื่องงาน แต่พวกคุณต่างหากที่เอาเรื่องส่วนตัวเข้ามายุ่งกับเรื่องงาน!” ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ให้สวีหว่านโหรวเข้ามาบริหารชามาครึ่งหนึ่งของเธอมาเป็นรองประธานบริษัทมายุ่งกับแผนงานของเธอ เธอก็คงไม่คิดที่จะลาออก แต่เขากลับพามา อย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ เขาอยากให้ทุกคนเห็นเธอเป็นตัวตลกหรือไง!
"ผมไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงาน ที่ผมพาสวีหว่านโหรวมาก็เป็นเพราะเรื่องงานเท่านั้น ฝ่ายการตลาด เร่งให้ส่งงานออกแบบมาหลายครั้งแต่คุณกลับไม่ให้ พวกเขา สุดท้ายพวกเขาจึงต้องมาเร่งผมแทน อีกอย่าง หว่านโหรวก็เรียนการออกแบบมาจากต่างประเทศโดยตรง เธอเอาผลงานออกแบบมาให้ผมดูแล้ว บอกให้ผมให้คำแนะนำกับเธอ ผมก็เลยส่งไปให้ฝ่ายการ ตลาด พวกเขาก็ตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี ดังนั้นผมจึงให้หว่านโหรวเข้ามาทำงานที่ชามาชั่วคราวก็เท่านั้น" โจวซั่วอธิบาย
อวิ๋นเหยาเหยาแค่นเสียงหัวเราะ "หลังจากเข้าที่เข้าทาง คุณก็จะยกชามาให้เธอบริหาร เพราะชามาเป็นของโจวกรุ๊ปไม่ใช่ของฉันเหยาเหยา ถูกต้องไหม?"
โจวซั่วชะงัก เขาคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ เพราะเขารู้สึกผิดต่อสวีหว่านโหรวที่สามปีที่แล้วเป็นเขาหันมาคบกับเหยาเหยาลับหลังเธอนั่นเพราะเขาเห็นฝีมือการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของอวิ๋นเหยาเหยาเท่านั้น
บิดาของเขาจึงแนะนำให้เขาทำยังไงก็ได้ให้ผลงานของอวิ๋นเหยาเหยาสร้างรายได้ให้โจวกรุ๊ปอีกทางหนึ่งใครจะไปคิดว่า การออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าของอวิ๋นเหยาเหยาจะได้รับการตอบรับดีมากขนาดนี้
และแม้แต่การออกแบบโครงการต่างๆอวิ๋นเหยาเหยาก็ทำได้ดีมาก หากโจวกรุ๊ปเสียเธอไปพ่อของเขาเอาเขาตายแน่นอน
"คุณไม่ต้องมาร่ายยาวให้ฉันฟัง ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น" อวิ๋นเหยาเหยาพูดจบ ก็ยื่นจดหมายลาออกของเธอให้กับเขา
ท่าทางของเธอทำให้โจวซั่วหมดความอดทน เขามองไปที่เธอแล้วพูดขึ้น "อวิ๋นเหยาเหยาคุณอย่าทำตัวไร้ สาระแบบนี้ได้ไหม?"
...