บท
ตั้งค่า

เจ็บซ้ำซาก 2

ทางด้านคนที่บอกว่าจะมาหา ตอนนี้กำลังนั่งดื่มกับผองเพื่อนสนิทที่เล่าเรียนมาด้วยกัน และยังทำธุรกิจเอื้อกันและกัน จนกลายเป็นความสัมพันธ์แน่นแฟ้น

“คุณตะวันห้าทุ่มแล้วนะครับ ทำไมยังไม่กลับไปหาเมียครับ เดี๋ยวเมียก็งอนเอาหรอก” ไรวินท์ ชายหนุ่มหน้าตี๋ทายาทบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารสัพยอกเพื่อนรัก ตามมาด้วยอธิศ ชายผู้สำเริงสำราญกับนารีทายาทโรงแรมดังระดับประเทศ

“กูว่าไม่งอนนะ เมียมันจะดีใจเสียอีก ที่ไม่ต้องเจอผู้ชายปากหมาอย่างมัน” ว่าจบสองเพื่อนรักก็หัวเราะชอบอกชอบใจ ผิดจากคนที่ถูกกวนประสาทนั่งหน้าเครียดกระดกแก้วบรั่นดีลงคอ

“สนุกไหมพวกมึง”

“ก็กูเห็นมึงนั่งหน้าเครียดอยู่เนี่ย ก็เลยอยากทำให้อารมณ์ดี” อธิศเอ่ยบอก

“ใช่ กูถามมึงจริงๆ นะตะวัน น้องเตยไม่ดีตรงไหนวะ ก่อนที่มึงจะตอบกูขอตัดเรื่องยาบ้าๆ นั่นออกไปก่อนนะ ถ้าไม่มีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยว กูว่าน้องเตยคือผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งเลยนะ งานบ้านงานเรือนก็ได้ งานข้างนอกก็ทำ การวางตัวก็ดีไม่มีเรื่องผู้ชายเข้ามาให้เสียหาย กูว่าน้องออกจะสมบูรณ์แบบด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้เก่งเรื่องงานบริหารเหมือนมิลา แต่กูว่าน้องก็สามารถเป็นหลังบ้านให้มึงได้พักพิงนะเว้ย”

“อย่าเอายัยนั่นไปเปรียบเทียบกับมิลา เพราะมันเทียบไม่ได้” เสียงแข็งใส่ เมื่อไรวินท์กล้าเปรียบเทียบมิลาซึ่งเป็นแฟนเก่าที่ต้องเลิกรากันไปกับเกณิกา ที่ไม่มีอะไรเข้าตาเขาสักอย่าง

“แหม...แตะต้องไม่ได้เลยนะ คุณตะวันครับ คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตอนนี้มิลาเขาท้องกับแฟนใหม่ชาวต่างชาติ เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่รวยที่สุดในอเมริกาไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์หึงหวงแล้วครับ ไอ้บ้า” ไรวินท์เตือนสติคนที่ยังผูกติดอยู่กับอดีต ทั้งที่แฟนสาวที่เลิกรากัน มูฟออนมีชีวิตใหม่สร้างครัวเป็นที่เรียบร้อย

“จริงอย่างที่ไอ้วินท์มันพูด มึงควรละทิ้งอคติที่มีต่อเตยลงบ้างเถอะ คิดถึงตอนเด็กๆ ที่วิ่งเล่นด้วยกันดิวะ คิดถึงตอนที่มึงเป็นพี่ตะวันคนใจดี ที่ปกป้องน้องเตยไม่ให้กูแกล้งดิวะ น้องน่ารักขนาดไหน”

"ใช่ เท่าที่กูจำได้ มึงยังเคยถักเปียให้น้องเตยด้วยซ้ำ เพราะถูกเพื่อนแกล้งจนผมพัง และมึงก็กลัวน้องเตยถูกป้าด่าก็เลยถักเปียให้น้องก่อนกลับบ้าน" ไรวินท์รื้อฟื้นความหลัง แต่ภากรกลับไม่อยากรับฟังเรื่องราวในอดีต

“ถ้ามึงสองคนยังพูดชื่อยัยนั่นออกมาอีกแค่คำเดียว กูจะถีบ”

เพื่อนเขาสองคนก็พูดได้สิ ว่าให้ลดอคติลง ไรวินท์กับอธิศไม่ได้เป็นเขานี่ ไม่ได้มายืนในจุดที่เขายืน ไม่ต้องเลิกกับมิลาผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ผู้หญิงที่เขารักและตามจีบมานานเป็นปี ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี ถ้าไม่มีเกณิกามาทำพังป่านนี้เขาและมิลาคงได้แต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยกันไปแล้ว

ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งเจ็บ ความเจ็บปวด ความแค้น ความโกรธ ก็ยิ่งโหมทวีขึ้นจนยากจะดับลง สุดท้ายก็ต้องให้บรั่นดีในมือเป็นตัวช่วยดับความร้อนระอุที่สุมอยู่ในอก

คงจะมีเพียงทางเดียวที่จะระบายความร้อนรุ่มในใจได้ นั่นก็คือการมาหาต้นเรื่องที่เกิดขึ้น ร่างสูงเคาะประตูห้องเรียกคนที่อยู่ด้านใน ไม่สนใจเสียด้วยซ้ำว่าตอนนี้เป็นยามวิกาลที่ควรเงียบเสียงและเกรงใจเพื่อนร่วมชั้น ยังคงเคาะลงไปอยู่อย่างนั้น จนประตูห้องถูกเปิดออก

“ทำไมช้านัก” ต่อว่าออกไป เดินแทรกตัวเข้ามานั่งที่โซฟา กลิ่นแอลกอฮอล์โชยเข้าจมูกเกณิกา รับรู้ถึงชะตากรรมว่าต่อจากนี้เธอต้องพบเจอกับอารมณ์แบบไหน หญิงสาวจึงรีบปิดประตูห้องลงเสีย เพราะไม่อยากให้เสียงเล็ดลอดออกไปรบกวนห้องอื่น แค่เสียงเคาะประตูที่ภากรเคาะก่อนหน้าก็ดังมากพอแล้ว

“มานั่งนี่สิ” เสียงเข้มเอ่ยสั่ง ตีมือลงบนโซฟาข้างกัน เกณิกาจึงเดินเข้าไปนั่ง ทว่าร่างบางกลับต้องเซเสียหลัก เมื่อคนเมารั้งเอวคอดให้นั่งลงบนตัก

“ว้าย...อื้อ” เสียงหวานขาดหายไปในลำคอ เมื่อเรียวปากอิ่มถูกประกบลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว เรียวลิ้นสากติดรสขมของบรั่นดีสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากหวาน

รสขมปนหวานช่างเป็นรสชาติที่อร่อยจนภากรไม่คิดผละออกไปไหน บดจูบกลีบปากสวยดูดดื่มถึงใจ มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามร่างงาม สอดเข้าชายเสื้อเผื่อสัมผัสกับเนื้อเนียนขาวผ่อง ลากฝ่ามือร้อนมายังหน้าท้องแบนราบ สร้างมวลวาบหวามให้เกณิการัญจวนดั่งถูกคลื่นซัดสาดเข้าสู่ช่องท้อง

“อ้ะ...อืม...” เสียงหวานร้องคราง เมื่อกลีบปากสวยถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทรวงอกคู่งามถูกฝ่ามือหนาลูบคลึงหยอกเย้าสลับซ้ายขวา ปลุกเร้ากระแสสวาทให้เกณิกา ความกระสันแผ่กระจายไปทั่วร่าง เผลอไผลไปกับสัมผัสที่ภากรมอบให้ ทว่าก็ต้องสะดุ้งเมื่อริมฝีปากชื้นและจมูกโด่งซุกไซ้ลงมาตามลำคอขาว ขบเม้มลงไปจนเกิดรอยแดงขึ้นมา

“อ้ะ...คุณตะวันอย่าทำรอย” พยายามเบี่ยงตัวหนีและผลักคนตัวโตออกห่าง เมื่อเห็นสายตาคมมองมาอย่างไม่ใคร่พอใจ เกณิกาก็จำใจต้องสงบคำ เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยรั้น สุดท้ายก็ถูกทำโทษด้วยการทำรอยไว้ทั่วร่างหารองพื้นปิดแทบไม่ทัน

“ถ้าไม่อยากให้ฉันทำ ก็ทำให้ฉันพอใจ” เอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างสบายอารมณ์ เรียวปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทอดมองคนที่นั่งหน้าแดงระเรื่อบนตัก

เกณิกากัดริมฝีปากล่างอย่างชั่งใจ ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างบางก็ลอยละลิ่วเข้าสู่อ้อมแขนและถูกวางลงบนเตียงนอน ใช้เวลาไม่ไม่นานร่างสูงจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายกำยำไม่มีเหลือติดกายสักชิ้น

แม้จะเคยเห็นร่างสมบูรณ์แบบมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าเกณิกากลับไม่รู้สึกคุ้นชินเอาเสียเลย โดยเฉพาะความเป็นชายกลางกาย เห็นคราใดใบหน้าก็ร้อนฉ่าดังถูกไฟเผาไหม้

“มาสิ มาทำให้ฉันพอใจ” ขยับตัวนั่งบนเตียงเอนหลังพิงหัวเตียง เพื่อรอให้เกณิกาบำบัดความใคร่ เมื่ออีกคนลังเลชั่งใจจึงเอ่ยเรียกอีกครั้งเสียงแหบพร่า

"เตยหอม มาหาฉันสิ"

ร่างบางขยับกายเข้าหาอย่างยอมแพ้ หรือด้วยความต้องการของร่างกายก็ไม่ทราบที่ไม่รักดี ยินยอมทำตามที่ภากรต้องการทุกอย่าง แม้นเขาจะทำร้ายเธอด้วยวาจาเชือดเฉือนสารพัด แต่เธอก็ยังเจ็บไม่จำ แค่เพียงเขาเล้าโลมประโคมเพลิงปรารถนาให้ ร่างกายก็อ่อนปวกเปียกดั่งขี้ผึ้งลนไฟ

“อืม...เร็วอีก” เสียงแหบพร่าเอ่ย สั่งมือหนาจับเอวคอดขยับช่วยอีกแรง เมื่อร่างบางกำลังโยกย้ายร่างงามอยู่ด้านบน ความเสียวกระสันไหลมารวมกันที่แก่นกาย สะโพกสอบขยับรับการสอดประสานของเกณิกาด้านบน

สายตาคมทอดมองร่างบอบบางขาวเนียนมอบความสุขให้ตน ทรวงอกคู่งามสองข้างกระเพื่อมขึ้นลงไร้ทิศทาง มองใบหน้างามมีริ้วแดงพาดผ่าน มองเรียวปากอิ่มที่เม้มสนิทเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงคราง ก็ยิ่งอยากกลั่นแกล้ง

ภากรจึงเปลี่ยนจากผู้ตั้งรับเป็นผู้มอบความเสียวซ่านให้เกณิกาบ้าง พลิกร่างบางลงนอนจับขาเรียวสองข้างพาดบนไหล่หนา เอวสอบขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวเข้าหาหนักหน่วงรัวเร็ว จนเกณิกาแทบทนไม่ไหว วิมานสุขาวดีแสนหวานรออยู่เบื้องหน้าไม่ไกล ใบหน้างามส่ายไปมาด้วยความสุขสม มือบางจับเอวสอบไว้แน่น เมื่อภากรกำลังจะพาเธอไปยังจุดหมายปลายทาง

“อื้อ...คุณตะวัน เตย เตย....”

“โคตรแน่นเลยว่ะ อ้า...เสียวชะมัด อีกนิดเดียว อ้ะ...มิลา เสียว ตะวันเสียว...อ้า มิลา” คนใต้ร่างน้ำตาไหลพราก อารมณ์พิศวาสก่อนหน้าปลิวว่อนหายไปพร้อมกับชื่อของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมา

เกณิกาเหมือนตัวเองถูกหินก้อนใหญ่หล่นทับศีรษะ สมองดับวูบแต่แปลกที่เธอกลับยังรู้สึกตัว รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่ภากรกระทำย่ำยีกับเธอ ผลักร่างสูงออกห่างไปจากตัวขยับลุกขึ้นนั่ง แต่ภากรกลับรั้งเข้ามาแนบกาย

“ปล่อย! อย่ามาใกล้” พยายามสะบัดตัวออกจากมือหนา น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวดเสียใจ

“ทำไม ร้องไห้เหรอ เสียใจว่างั้น” คนผิดไม่สำนึก ลอยหน้าลอยตากวนประสาทเอ่ยถาม เกณิกาปาดน้ำตาทิ้งหันหน้าหนีไม่อยากเห็นหน้า

“ฉันถาม ไม่ได้ยินหรือไง แล้วหน้านี่เป็นอะไร ทำไมต้องหันหนีตลอดเวลา” บีบคางเล็กบังคับให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ฉาบด้วยน้ำตาและความเสียใจที่มองมาก็ใจหวั่นไหว แต่ก็เลือกที่จะสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป

“ก็เพราะว่าไม่อยากเห็นหน้าไง คุณมันใจร้าย คอยดูนะว่าถ้าเตยหลุดพ้นจากคุณได้เมื่อไหร่ เตยจะไม่มีวันกลับมาหาคุณอีกแน่” คนฟังชักสีหน้าใส่ ความหวั่นไหวก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวโกรธ เมื่ออีกคนคิดจะตีจากทั้งที่สร้างความเสียใจให้เขาก่อนหน้า เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นปล่อยมือจากคางเล็กเปลี่ยนมาเป็นกระชากแขนเรียวแทน

“แล้วคิดว่าฉันอยากได้เธอกลับเข้ามาในชีวิตหรือไง ตั้งแต่มีเธอเข้ามาในชีวิต ฉันถูกคุณย่าต่อว่าเรื่องเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันถูกคนใช้ในบ้านมองด้วยสายตาขบขันไม่รู้เท่าไหร่ ถูกเพื่อนล้อว่าไปเอากับคนใช้ในบ้านจนมิลาต้องหนีไป ถูกมองว่าเป็นสมภารกินไก่วัด รู้เอาไว้ด้วยนะว่าที่ฉันร้ายเพราะเธอเป็นคนทำให้ฉันต้องร้าย” คนอีโก้สูงรักในความสมบูรณ์แบบตะโกนใส่หน้า สะบัดมือออกจากแขนเรียว ราวกับรังเกียจเกณิกาเสียหนักหนา

“จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้งว่าเตยไม่ได้ทำ เตยไม่ได้ทำ” ขึ้นเสียงใส่น้ำตาคลอเบ้า เพราะทนให้ภากรต่อว่าฝ่ายเดียวไม่ไหว จะให้เธอร้องตะโกนให้ตายเลยใช่ไหมเขาถึงจะได้ยินในสิ่งที่เธอพูดบ้าง

“คุณต่างหากที่ทำ คุณข่มขืนเตย คุณขืนใจเตย คุณเป็นคนดึงเตยเข้ามาในชีวิตคุณเองคุณตะวัน ถ้าวันนั้นคุณหักห้ามใจสักนิด เรื่องมันจะเป็นแบบนี้ไหม”

“ฉันอาจจะผิดที่ฉันหักห้ามใจไม่ได้เพราะฤทธิ์ของยานั่น เพราะฉันเมา ฉันเลยคิดว่าเธอคือมิลาฉันถึงทำ ถ้าฉันไม่ขาดสติและรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือเธอฉันไม่มีทางเอาเธอหรอกเกณิกา” พูดจบก็ลุกจากเตียงนอนเข้าห้องน้ำไป ทิ้งเกณิกาให้นั่งตัวสั่นเพราะความโกรธอยู่ที่เตียงนอน น้ำตาที่อยากจะไหลถูกกลั้นไว้จนนัยน์ตาแดงก่ำ มือสองข้างกำเข้าหากันจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ

ทนอีกนิดเตย ทนอีกนิด หากถึงวันนั้นเมื่อไหร่ ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันได้กลับเข้ามาทำร้ายเธออีก
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel