ตอนที่4 เด็กฟันหลอคนนั้นคือเธอ
หลังอาหารมื้อเย็น คุณหญิงทัศนีย์ ได้เข้าครัวลงมือทำขนมชั้นใบเตย วุ้นมะพร้าว สำหรับงานเลี้ยงพระของสมาคมคนรักผ้าไทย ในเช้าพรุ่งนี้ โดยได้ลูกมือช่วยอย่างพลอยพรรณ หรือ พริกแกง ลูกสาวคนเล็กที่ชอบการทำขนมเป็นงานอดิเรก
“ พริกแกง พรุ่งนี้ว่างไหมลูก ไปงานสมาคมกับแม่สิ”
“ ก็ไม่มีงานอะไรด่วนค่ะ คุณแม่ให้พริกแกงไปด้วยก็ดีเหมือนกัน”
“ นี่ก็เรียบร้อยละ เดี๋ยวปล่อยให้พวกนี้ดูต่อ พริกแกงไปอาบน้ำและก็รีบนอนพักผ่อนเถอะจ๊ะ”
“ ค่ะคุณแม่ “
คุณหญิงเดินนำหน้าลูกสาวขึ้นไปพักบนห้อง พริกแกงเดินเลยห้องนอนของตัวเองไปยังห้องนอนของพี่สาวเพื่อถามเรื่องข้อสรุปการประชุมเมื่อตอนบ่าย
ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดัง พริกแกงเปิดประตูและชะโงกหน้าเข้าไปเพื่อดูว่าพี่สาวกำลังทำอะไรอยู่
“ ทำอะไรอยู่อะ พี่แพร”
“ เข้ามาสิแกง “
“ อืม ! แกงแค่จะมาถามเรื่องแฟชั่นโชว์ เลขาของพี่แพรโทรแจ้งเลขาแกงว่าจะเปลี่ยนคนเดินเปิดตัว”
“ ใช่! พี่จะให้แกงมาเดินชุดฟิเนเร่ แทน”
“เห้ย!! ไม่เอา อยากเดินชิวๆอะ ไม่อยากเด่น”
“ ไม่ได้ในที่ประชุมเขาตัดสินใจกันแล้ว แกจะมาป๊อดอะไรตอนนี้”
“ ไม่ได้ป๊อดนะ ! แค่ตื่นเต้นอะ”
“ โธ่ๆๆๆ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา “ แพรวาทำเสียงลากยาวเป็นการตอกย้ำน้องสาว เพราะเธอรู้ดีว่าน้องสาวของเธอช่ำชองเวทีแค่ไหน ผ่านการเดินแบบการกุศลมานับครั้งไม่ถ้วน
“ พี่แพร!! ไม่คุยด้วยแล้ว ไปนอนดีกว่า “พริกแกงเดินออกจากห้องพี่สาวด้วยหน้าตาบูดบึ้ง
ภายในห้องนอนสีหวาน พริกแกงล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ เธอค่อยๆหลับตาลง แต่ก็นอนไม่หลับพลิกตัวไปพลิกตัวมา ทำไมในสมองของเธอถึงคิดถึงแต่ผู้ชายที่ท่าทางยโสอวดดี อย่างนายคนนั้น
“ สาธุ!! อย่ามาตามหลอกหลอนเลยนะ แม่ง! ขนาดนอนยังมาตามเข้าฝัน บ้าจริง” เธออดพึมพำคนเดียวไม่ได้
เช้าวันใหม่ที่อากาศแจ่มใส คุณหญิง ทัศนีย์ ออกเดินทางด้วยรถส่วนตัวของที่บ้านพร้อม พลอยพรรณ รถแล่นไปบนถนนสายบรมราชชนนี มุ่งตรงยังไปยังสมาคมคนรักผ้าไทยแถวชานเมือง ที่นั่นเป็นบ้านทรงไทยประยุคหลายหลัง ด้านในมีการสอนทอผ้า และ ผ้าลายต่างๆจัดโชว์ในหุ่นบ้าง ในตู้กระจกบ้างดูสวยงามไปหมด
“ พริกแกง เดี๋ยวหนูถือถาดขนมไปไว้ด้านในงานก่อนและตามแม่ไปที่ห้องประชุมสมาคมนะ”
“ค่ะ”
พริกแกงเดินไปตามทางเดิน เธอถือถาดขนมไปวางบนโต๊ะที่มีอาหารวางรายล้อมในห้องประชุมใหญ่
พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอจึงกดรับสายทันที
“ คะแม่ เจอแล้วค่ะ พริกแกงกำลังเดินไปหาค่ะ”
ในขณะที่เธอกำลังเดินก้มหาของในกระเป๋าเธอก็ชนเข้าเต็มแรง กับร่างบึกบึนของชายผู้หนึ่ง
“ โอ๊ะ! ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวัง”
พลอยพรรณเงยหน้ามองเจ้าของเสียงนุ่มนั้นทันที แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้า
“ เห้ย!! นี่นาย! มาทำอะไรที่นี่”
“ โอ้วโห ! โลกมันจะกลมไปไหนว่ะเนี่ย ผู้หญิงมีเป็นพันๆคนทำไมต้องมาเจอแต่กับเธอด้วย”
“ คิดว่าฉันอยากจะเจอนักหรอ ไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน ดูสิเวลาโกรธ หน้าอย่างกับปลาดุกชนเขื่อน”
“ นี่เธอ! กล้าดียังไงมาว่าหน้าเกาหลีแบบนี้ว่าปลาดุกชนเขื่อน ขอบอกเลยนะหน้าแบบนี้ มีแต่สาวๆวิ่งเข้าหา
“ เป็นโรคหลอกตัวเองรึไง คิดว่าหน้าเหมือนพระเอกเกาหลี โธ่ๆพ่อคุณ เข้าใจนะว่าชอบมโนว่าตัวเองเป็นหนุ่มเกาหลีแต่ที่แท้เกาลัดดีๆนี่เองฮ่าาาา” พริกแกงยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะอย่างสะใจ
“ แล้วเธอคิดว่าสวยนักรึไง หุ่นก็งั้นๆจะมองบนมองล่างมองหน้ามองหลังก็เท่ากันหมด ฉันก็คิดว่าเธอกินไม้บรรทัดเป็นอาหารรึป่าวถึงได้แบน!!!……ขนาดนี้ “
“ ว้าย!! อีตาบ้า “ นี่แนะๆๆ” พริกแกงทุบไปที่แขนของรามิลอย่างแรงที่กล้ามาว่าเปรียบหุ่นเซ็กซี่อย่างเธอเป็นไม้กระดาน
“ โอ้ย !! เจ็บนะ บอกให้หยุดไง หยุด! ไม่หยุดใช่ไหม”
รามิลรวบแขนของพลอยพรรณไว้เหนือศรีษะและดันร่างของเธอไปชิดกำแพง เขาก้มลงหอมที่แก้มซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว พริกแกงหัวใจเต้นแรงใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ทั้งตกใจ ทั้งอายที่ถูกผู้ชายแปลกหน้ามาทำกิริยาแบบนี้กับเธอ
“ ปล่อยฉันนะ “ พริกแกงพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของเขา
“ ปล่อยแน่แต่ต้องขอโทษผมก่อน”
“ ไม่นายมารังแกฉัน แล้วให้ฉันขอโทษเนี่ยนะ”
“ ไม่งั้นจูจุ๊บนะ “ รามิลก้มหน้าเข้าไปใกล้ทำเอาพริกแกงก้มหน้าหลับตามิด เธอรีบเอ่ยคำขอโทษทันทีเมื่อดูท่าทางของรามิลจะทำจริงตามคำพูด
“ ขอโทษ”
“ ก็แค่นั้น อันที่จริงเธอก็ไม่ได้เก่งอะไรเลยนะ พอเจอร่างชายกำยำเข้าหาก็หายปากเก่งแถมยังเชื่องเป็นแมว”
“ ปล่อยได้รึยัง” รามิลปล่อยแขนเธอลงเขายังคงมองเธอไม่วางตาเมื่อยิ่งมองใกล้ก็ยิ่งใจเต้นรัว ผู้หญิงอะไรผิวละเอียดทุกรูขุมขน ใบหน้าใสๆที่เห็นแล้วอยากจะจับมาหอมหลายๆฟอดโดยเฉพาะน้ำหอมที่เธอฉีดมันช่างเข้ากันดีกับกลิ่นกายของเธอยิ่งเข้าใกล้ยิ่งทำให้หัวใจรามิลล่องลอย
“ คนอย่างนายไม่ตายดีแน่ ไอ้บ้า” พริกแกงผลักอกของรามิลก่อนที่เธอจะชักสีหน้าอันบูดบึ้งเดินหายเข้าไปในงาน รามิลเดินตามไปแต่ก็ไม่ทัน เขาเดินไปเรื่อยๆตามซุ้มอาหาร ก็เห็นคุณหญิงเมธาวดีในชุดผ้าไหมสีชมพูบานเย็น ส่งยิ้มให้ลูกชายของเธอ
“ ตามิล มานั่งตรงนี้สิ มานานรึยังลูก”
“ เมื่อสักครู่ครับแม่ “
“ นี่ตามิล อาทิพย์ และน้านี เพื่อนแม่เอง “
“ สวัสดีครับ” รามิลยกมือขึ้นไหว้หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆคุณหญิงเมธาวดี
“ โตเป็นหนุ่มละ เรียนจบก็มาช่วยธุรกิจที่บ้านเลย เด็กหนุ่มสมัยนี้ หาคนขยันเอาการเอางานอยากนะ พี่นีคิดแบบทิพย์ไหมคะ”
“ ใช่พี่เห็นด้วย ถ้าไม่ติดว่ามันจะหน้าเกลียด จะยกลูกสาวคนเล็กให้บ้านนี้อีกสักคน ไหนๆเราก็จะดองอีกไม่กี่เดือนนี่ละ”
“ ได้ไหมละ นี ฉันยินดีนะ ลูกสาวเธอทั้งสวยทั้งเก่งครบเครื่องแบบนี้ ใครจะไม่อยากได้”
“ ว่าแต่ลูกสาวพี่นีไปไหนคะ ไม่เห็นมา “
“ มาๆแต่คงไปหาอะไรทานนะ”
“ คุณแม่จะรับอะไรไหมครับ ผมจะเดินไปดูอะไรทานหน่อย”
“ ไม่ละแม่อิ่มละ” รามิลลุกจากโต๊ะเขาเดินไปรอบๆซุ้มอาหารที่มีมากมายทั้งพื้นเมือง ทั้งชาววัง เขาเดินไปหยุดที่ซุ้มขนมหวาน เขาตักขนมชั้นมาชิม ขนมชั้นสีสวยนี้ รสชาดอร่อยจนเขาประหลาดใจ เขาไม่เคยกินขนมชั้นที่อร่อยหอมและไม่หวานจนเกินไป เขาเดินถือจานขนมมานั่งที่โต๊ะพลันสายตาก็หันไปเจอคู่อริกำลังยืนตักผลไม้ เขาเดินตรงไปยังซุ้มผลไม้ทันที
“ ไง! ไม่เคยกินละสิของดีๆถึงเลือกตักไปซะมากมาย”
“ รับผลไม้ล้างปากหน่อยไหมคะ”
“ โอ้วโห!! ปากยังดีอยู่”
“ ใครจะเหมือนนาย ดูหน้าบ้านๆไม่น่าจะทานขนมชาววังได้”
“ ผมก็กินไปอย่างงั้นแหละ ขนมอะไรหวานมาก!!…นี่คนทำขนมกะให้กินแล้วเบาหวานขึ้นเลยใช่มะ”
“ ว้าย นายเป็นใครมาจากไหนย๊ะ! กล้ามาดูถูกขนมแสนอร่อยของคุณแม่ฉัน ชิ! ไฮโซ โลโซก็ไม่สน วันนี้ได้รู้ดำรู้แดงกันแน่”
“ เห้ยๆๆใจเย็นนี่ขนมแม่เธอทำเหรอ “
“ เออใช่ จะทำไม”
“ จริงๆแล้วอร่อยนะ แต่ถ้าเธอทำก็หมาไม่แ_กอะฮ่าๆๆ”
“ กรี๊ดๆๆ อุ๊บ!!! “ รามิลรีบเอามืออุดปากพริกแกงทันทีก่อนที่เสียงแปดหลอดจะหลอนประสาทของเขา
“ หยุดกรี๊ดไม่งั้นผมจูบนะ เลือกเอา จะหยุดไหม”
พลอยพรรณพยักหน้ารับแต่โดยดี เขาปล่อยมือออกช้าๆ พริกแกงรีบเดินหนีทันทีที่ชายหนุ่มปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวเดินไปยังโต๊ะอาหารสำหรับแขกวีไอพีด้วยใบหน้าอันบูดบึ้ง ทำให้คุณหญิงทัศนีย์ อดที่จะถามลูกสาวไม่ได้
“ ใครทำอะไรลูกสาวแม่ ถึงได้หน้างอเป็นจวัก”
“ ก็ไอ้! เออ เปล่าค่ะ “ คุณหญิงทัศนีย์ ทำหน้าฉงนที่ลูกสาวกำลังเหมือนจะต่อว่าใครบางคน แต่ก็ไม่ยอมเอ่ยถึง คุณหญิงทัศนีย์จึงไม่อยากถือสา เธอบอกลูกสาวให้สวัสดี คุณหญิงทิพย์ พริกแกงหันมาไหว้ และเธอก็หันไปไหว้คุณหญิงเมธาวดี ที่นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคุณหญิงทั้งสองรับไหว้ พร้อมส่งยิ้มให้
“ พี่นี ทิพย์ว่า หนูลูกแพรน่ารักแล้วนะ หนูพริกแกงยิ่งน่ารักเลย แม่คุ๊ณ!!…หน้านี่จิ้มลิ้มเชียว “
“ แหม!! น้องทิพย์บ้านนี้เขาสวยทั้งบ้าน เอานั่นลูกชายมาพอดี ตามิลทำไมไปนานเชียว “
“ อ๋อ! เลือกอาหารอยู่นะครับ “
พลอยพรรณจากใบหน้าบึ้งตึงตอนนี้กลับงอง้ำมากกว่าเดิมเมื่อเห็นชายร่างสูงโปร่งเดินมานั่งร่วมโต๊ะ
“ หนูพริกแกง นี่พี่รามิล รู้จักกันไว้สิ ลูกชายป้าเอง “
“ ค่ะ “ หญิงสาวยกมือไหว้พร้อมคำพูดห้วนๆที่เปรยออกมาแบบจงใจให้ฝ่ายชายได้รับรู้ถึงการไหว้ที่ไหว้เพื่อการรักษามารยาท
“ อ๋อ เราเคยเจอกันแล้วครับคุณแม่ “
“ ตามิล เคยเจอน้องก็ตอนน้องหกขวบเองนะ น้าจำได้น้องนั่งซ้อนจักรยานมิล ตอนเด็กๆ”
“ ผมจำได้ เด็กอ้วนๆฟันหลอๆใช่ไหมครับ นี่น้องพริกแกงลูกคุณน้านีหรือครับ ผมเจอตอนนี้แทบจำไม่ได้ เลยครับ น้องน่ารักมากเลยนะครับ “
พลอยพรรณอึ้งในคำพูดฉอเลาะของรามิล เธอเบะปากมองบนให้กับการเล่นละครฟอร์มยักษ์ของเขา นี่ถ้าประกาศรางวัลสุพรรณหงษ์ เขาต้องติดรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมแน่นอน
“ แสดงเก่ง “ พริกแกงบ่นพึมพำ
“ หนูพริกแกงว่าอะไรนะลูก “ คุณหญิงทัศนีย์หันไปมองเมื่อเห็นลูกสาวทำปากขมุบขมิบ
“ เปล่าค่ะ เห็นพี่มิลถือขนมไทยมา ดูพี่เขาน่าจะทานขนมเก่งค่ะแม่ “
“ อุ้ย!! นั่นมันขนมของน้องนีนี่คะขนมไทยๆตามิลชอบ”
“ อร่อยมากเลยครับ ขนมน้านี อร่อยทุกอย่าง “
พลอยพรรณถึงกับเบะปากแรงใส่รามิลเมื่อเธอได้ยินคำแสร้งชมขนมฝือมือแม่ของเธอจากปากของเขา
“ สตอ!! มาก!!! “ คุณหญิงทัศนีย์หันไปถามลูกสาวทันทีที่ได้ยินเสียงคำที่ไม่เหมาะสมจากปากลูกสาว
“ อะไรลูก พูดอะไรคนเดียว”
“ ป่าวค่ะ แค่พูดว่าถ้าพี่มิลได้มีโอกาสชิมสตอเบอรี่กวนของคุณแม่ พี่เขาต้องชอบแน่ๆเลยค่ะ”
พลอยพรรณลากเสียงยาวพร้อมหน้าตายียวนชวนให้รามิลโมโหนักแต่ก็แค่ยัยเด็กเมื่อวานซืนที่คิดจะแกล้งจะกวนประสาทเขาก็เท่านั้น
“ ถ้ามีโอกาสผมต้องของไปชิมที่บ้านคุณน้านะครับ”
“ ยินดีค่ะรีบๆมาละ ถ้าน้ากวนเรียบร้อย น้าจะใส่โหลฝากพริกแกงไปให้นะจ๊ะ”
“ แม่!! ทำไมต้องเอาไปให้ด้วย”
“ นี่ยายพริกแกง อย่ามาทำกิริยาแบบนี้กับแม่นะ”
คุณหญิงทัศนีย์หันไปดุลูกสาวที่กำลังจะเสียมารยาทต่อหน้าผู้ใหญ่ เมื่องานเลี้ยงดำเนินมาเนินนาน เกือบสามชั่วโมงกับงานสมาคมคนรักผ้าไทย คุณหญิงทัศนีย์ก็ขอตัวกลับ พริกแกง ชะลอรถช้าๆเพื่อมาเทียบจอดยังหน้าหอประชุม คุณหญิงรับไหว้รามิล และส่งยิ้มให้คุณหญิงเมธาวดี ก่อนจะขึ้นรถคันหรู รามิลมองตามรถคันนั้นจนสุดสายตา แต่ท่าทางที่แสดงจนออกนอกหน้าของรามิลก็ไม่อาจรอดสายตาของคุณหญิงเมธาวดีไปได้
“ ไงละไอ้ตัวแสบ! ชอบเขาละสิ”
“ ครับชอบ เอ้ย!! แม่ มาทักทีเผลอ ใครชอบใครไม่มี”
“ อย่ามาทำเสียงสูง แกนะโกหกใครได้ทุกคนบนโลกยกเว้นแม่ แค่เห็นสายตาของแกจ้องมองใบหน้าหนูพริกแกงอย่างไม่ละสายตาเลย แถมยังยียวนเขาอีก แกเคยทำแบบนี้ กับผู้หญิงคนอื่นที่ไหน “
“ โธ่!! แม่ ก็มองงั้น! ของสวยงาม แต่จะให้จริงจังคงไม่ไหวอย่างกับม้าดีดกะโหลก”
“ เชอะ!! ระวังจะโดนม้าตัวนี้ดีดเข้าไปกลางใจแก พอถึงตอนนั้นต่อให้แก กราบอ้อนวอนแม่ แม่ก็จะไม่ช่วยแก”
“ แม่!!นี่ลูกนะ ลูกแม่นะ “
คุณหญิงเมธาวดีไม่สนใจฟังคำตัดพ้อของลูกชาย เธอเดินขึ้นรถทันทีที่รถมาจอดเทียบ รามิลรีบเดินตามขึ้นรถทันที ตลอดเส้นทางรามิลนั่งเปิดโทรศัพท์ส่องไอจีของหญิงสาวนามพลอยพรรณ เกียรติบวรสกุล หรือ พริกแกง เซเลบิตี้ในเรื่องลายผ้าไทยโดยเฉพาะกันนำมาตัดเย็บให้ร่วมสมัย ประวัติของเธอก็ไม่ใช่ย่อย ดีกรีจบปริญญาโท ด้านการตลาด และปริญญาอีกใบด้านแฟชั่น เธอดูเป็นสาวทันสมัย โฉบเฉี่ยว และกล้าแสดงความคิดเห็น แต่อีกมุมในไอจีของเธอที่รามิล ต้องทึ่งคือการชอบทำขนมไทยและอาหารไทยมาก ทุกๆงานที่มีแฟชั่นโชว์ เธอเองจะถูกเชิญให้ร่วมเดินแบบด้วยเสมอๆ รามิลมองรูปในไอจีไปยิ้มไป คุณหญิงเมธาวดีมองลูกชายด้วยความสงสัย
“แกเป็นอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มอยู่คนเดียว …บ้ารึเปล่า “
“ เปล่าครับแม่ยิ้มไปเรื่อยเปื่อย “
รามิลมองรูปสาวน้อยในชุดราตรีสีเบส เขาจ้องตาไม่กระพริบภายในใจก็คิดที่จะเอาชนะใจผู้หญิงคนนี้ให้ได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหน พลอยพรรณ เกียรติบวรสกุล เขาต้องได้เธอมาเป็นคู่ควงไฮโซอย่างเขาให้ได้