ตอนที่1 พ่อไฮโซ
จากเมืองไทยไปเกือบสี่ปีเพื่อไปเรียนต่อปริญญาเอกด้านบริหารที่มหาวิทยาลัยชื่อดังประเทศอเมริกา รามิล อัครวัชรโยธิน หรือ มิล หนุ่มนักเรียนนอกวัย32 ปี เขาเดินทางกลับถึงเมืองไทยวันนี้เป็นวันแรก ณ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เขานั่งรอที่ห้องรับรองของสนามบิน เพื่อรอรถที่บ้านมารับ ในขณะที่เขาก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ มีชายวัยกลางคนในชุดสูทเดินตรงมายังโซฟาที่เขานั่ง
“ คุณหนูครับ เชิญที่รถครับ” ชายหนุ่มเงยหน้ามองก่อนจะยกมือสวัสดี
“ สวัสดีครับ คุณลุงอ้วน สบายดีนะครับ ผมไปสี่ปีลุงยังเหมือนเดิม “
“ โธ่คุณหนู จะยกมือไหว้ผมทำไม บอกกี่ครั้งละ ผมคนขับรถ “
“ ก็ลุงคือคนสำคัญของผม ถ้าไม่ได้ลุงคอยขับรถพาผมไปเรียน ผมคงไม่ได้ดีทุกวันนี้ ป่านนี้คงวิ่งเตะต่อยกับเขาไปทั่ว”
“ ก็คุณหนูดื้อน้อยสะเมื่อไหร่ รีบกลับเถอะครับ เดี๋ยวคุณหญิงท่านจะคอย”
ชายวัยกลางคนถือกระเป๋าลากเดินนำหน้าเจ้านายหนุ่ม รามิลเดินตรงไปยังลานจอดรถ ในขณะที่เขามัวแต่ก้มดูโทรศัพท์จึงไม่ได้ทันระวัง ร่างของเขากระแทกเข้ากับร่างบางของใครบางคนอย่างแรง
“ โอ้ย!! “
“ ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวัง” รามิลหันไปกล่าวขอโทษก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่ได้สนใจใยดีคนที่นั่งร้องครางอยู่ที่พื้น
“ นี่!! นาย ! จะมาพูดพล่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ” เสียงแหลมปรี๊ดที่ตะโกนตามหลังทำเอาคนร่างสูงถึงกับต้องหันหลังกลับเพื่อมองเจ้าของเสียงนั้นทันที
“ คุณ! ผม ขอโทษแล้วจะเอาอะไรอีก “
“ ฉันเจ็บ! นายเห็นไหม โอ้ว!!……ขาฉันจะบวมมั้ยเนี่ย นายชนฉันก่อน นอกจากจะไม่ใส่ใจ ไม่ช่วยเหลือ ยังมาทำท่ายักษ์วัดโพธิ์ ใส่ฉันอีก ฉันไม่ด่าให้ก็บุญแล้ว แหกตาดูโน่นจ้า!!!…ขนมที่ฉันต้องเอามาให้ลูกค้า นายชนจนมันเละเทะไปหมดแล้วของเสียหายนายจะรับผิดชอบยังไง”
“ เท่าไหร่!! “ หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อสิ่งที่ได้ยินมันกระแทกหัวใจเธอเหลือเกิน
“ นี่!! นาย พูดให้ดีๆนะ อะไรคือเท่าไหร่”
“ ค่าขนมพวกนี้ไง ที่เธอต้องไปส่งลูกค้า……มันทั้งหมดเท่าไหร่”
“ หนึ่งหมื่น “ รามิลเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบเงินในกระเป๋ามาปึกหนึ่งก่อนจะยื่นให้คนตัวเล็กตรงหน้า
“ อะ! นี่ค่าเสียหาย และก็สามพันค่ารักษาพยาบาลของเธอ”
“ นาย!! มันจะมากไปและนะ”
“ อะไรนะ มากไป! ได้ๆงั้นเหลือ สองพันพอไหม”
“ นี่นาย! โอ้ย! “ หญิงสาวพยายามลุกแต่ก็เจ็บข้อเท้า
ลุงอ้วนเห็นท่าทีของรามิล จึงเดินเข้ามาห้ามก่อนจะเกิดศึก
“ ผมช่วยพยุง คุณลุกไหวไหมครับ “
“ ขอบคุณค่ะคุณลุง หนูยืนได้แล้วค่ะ”
“ รับไว้เถอะครับเงินที่คุณหนูให้ คุณจะได้เอาไว้รักษาตัวและก็ชดใช้ค่าเสียหายนี่ครับ”
ลุงอ้วนเก็บลูกชุบที่กระจัดกระจายออกจากตระกร้าหวาย ยื่นส่งให้หญิงสาวตรงหน้า
“ อะ.....นี่นามบัตรผม หากคุณอยากติดต่อเรียกค่าตัวเพิ่ม”
“ นี่นาย! “
“ กลับกันเถอะครับคุณมิล คุณหญิงรอนะครับ”
ชายหนุ่มกำลังจะเดินกลับพลันก็ตกใจที่มีอะไรบางอย่างลอยมาโดนศรีษะ เขาเอามือลูบไปที่ศรีษะก็พบกับขนมลูกชุบเต็มศรีษะและเสื้อของเขา เขาหันหลังเดินกลับมาจุดที่หญิงสาวยืน เธอกอดอกใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห แต่เมื่อรามิลเข้ามาใกล้ ก็ต้องตะลึงเมื่อหญิงสาวปากร้ายคนนั้น เธอถอดแว่นกันแดดออก เผยใบหน้าสวยหวานอย่างไทยไร้ศัลยกรรมให้เขาได้ยลโฉมใกล้ๆก็ทำเอารามิลหัวใจเต้นผิดจังหวะไม่กล้าที่จะต่อว่าเธอเลยทันทีที่ได้สบตาดวงกลมโตคู่นี้
“ นี่!! เธอ!! “ ภาพตัดมาสโลโมชั่นตอนหญิงสาวถอดแว่น......ตึกๆๆๆเสียงหัวใจของเขาเต้นรัวและเร็วแต่แล้วสติก็กลับมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆตวาดใส่หน้า
“ ฉันไม่ขอโทษ นายจะได้รู้สึกเสียบ้างการถูกโดนกระทำมันเป็นยังไง และก็นามบัตรฉันไม่มี แต่จำหน้าฉันไว้ด้วยนะ จำให้ขึ้นใจ ฉันชื่อ พลอยพรรณ เกียรติบวรสกุล ฆ่าได้หยามไม่ได้โว้ย” พลอยพรรณเดินหนีหายเข้าไปในอาคารของสนามบินทิ้งให้รามิล ยังคงยืนตะลึงกับใบหน้าแสนหวานเมื่อสักครู่
“ พลอยพรรณ เกียรติบวรสกุล คือใคร! “
“ ใครคือใครครับคุณหนู”
“ อ๋อ! ไม่มีอะไรครับ ไปกันเถอะครับลุง”
“ ครับเชิญที่รถครับ”
รามิลปัดขนมที่เละเทอะเสื้อราคาแพงของเขาก่อนจะเดินตามลุงอ้วนไปที่รถ จากสนามบินไปถึงบ้านใจกลางเมืองกรุงก็ฟันฝ่ารถติดนานเกือบสามชั่วโมง ที่คฤหาสหลังใหญ่ ของตระกูล อัครวัชรโยธิน คุณหญิงเมธาวดี ผู้ดูแลความเรียบร้อยของทุกคนภายในบ้าน เธอกำลังนั่งดื่มน้ำผลไม้ อยู่ที่สวนหลังบ้านอย่างสบายใจ รามิล หรือ มิล ลงจากรถก็รีบไปรายงานตัวกับคุณหญิงแม่ทันที
“ สวัสดีครับคุณแม่ “
“ จ้า!! ไหว้พระ ไปก่อเรื่องอะไรอีกละที่สนามบิน ลุงอ้วนรายงานแม่หมดละ”
“ อ้าวคุณแม่! ทราบแล้วจะให้ผมรายงานทำไมละครับ”
“ นี่ตามิล! อย่ามายียวนแม่นะ คอยดูแม่จะตัดแกออกจากกองมรดก “ รามิลเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารีบเข้าไปกอดคุณหญิงแม่และหอมแก้มฟอดใหญ่เป็นการเอาใจ
“ กะล่อนไม่มีใครเกิน รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวจะได้เวลาพี่เรากับพ่อกลับมาจากทำงาน จะได้ทานข้าวเย็นกัน”
“ ครับบบ.....คุณแม่” ชายหนุ่มลากเสียงยาวเป็นการตอบรับทราบคุณหญิงก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่โตเท่ากับห้องพักวีไอพีของโรงแรมห้าดาวก็ว่าได้ รามิลเก็บข้าวของออกจากกระเป๋าและเขาก็ไปสะดุดกับภาพถ่ายในวัยเด็กของเขาในรูปมีเด็กผู้ชายสองคนกำลังขี่จักรยานโดยมีเด็กผู้หญิงซ้อนท้าย เด็กผู้หญิงผมจุกที่นั่งซ้อนท้ายเด็กชายคนนั้นคือลูกสาวของเพื่อนคุณหญิงแม่ที่แสบซ่าสร้างวีรกรรมทำล้อจักรยานของเขาหลุด เพราะเด็กด้วยกันทั้งคู่จึงทำให้ทั้งสองต้องเข็นจักรยานกับบ้าน เดินร้องไห้ตั้งแต่สนามเด็กเล่นจนถึงบ้านเพราะรองเท้าลายการ์ตูนคู่งามของเด็กหญิงมันดันกัดเท้าเข้าให้ รามิลจำวีรกรรมของเด็กคนนั้นได้ดี รามิลถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะเอนกายลงนอนบนที่นอนใหญ่ เขานึกอะไรขึ้นได้ ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาเลขาของเขาทันที
“ ครับคุณมิล “ เสียงปลายสายเป็นชายวัยกลางคนเสียงนุ่มสุขุม
“ คุณนที ผมมาถึงเมืองไทยแล้วนะ ผมอยากทราบตารางการทำงานของผมในวันพรุ่งนี้”
“ ครับคุณมิล ผมจะส่งตารางทั้งเดือนให้คุณมิล แต่ก่อนอื่นผมขอแจ้งเบื้องต้น พรุ่งนี้ เวลา เก้าโมงเช้ามีประชุมบอดผู้บริหาร และ บ่ายสองโมงมีประชุมกับบริษัท อุตสาหกรรมทอผ้าไทย จำกัด พร้อมคุณราเชนทร์ เรื่องที่บริษัทเราจะจัดแฟชั่นโชว์การกุศล โดยร่วมประชุมกับคุณแพรวา เกียรติบวรสกุล ครับ”
“ โอเค งั้นก็พอมีเวลาว่างนิดหน่อย “
“ คุณมิลจะไปธุระไหนไหมครับ ผมเลื่อนให้ได้นะครับ”
“ ไม่ต้องหรอกคุณนที ถ้าผมเลื่อน พี่ราเชนทร์ คงกินหัวผมแน่ “
“ ครับคุณมิล อีกสิบนาทีผมส่งเมล์ให้นะครับ”
“ ครับ ขอบคุณครับคุณนที “