บทที่ 4 ได้เห็นครั้งแรกก็แทบจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจ
หลังจากที่น้องชายตกลงว่าอยากจะทำความรู้จักกับน้องสาวของคู่หมั้นคนสวย ผู้เป็นพี่ชายก็รีบจัดการโทรหาคู่หมั้นสาวเพื่อถามไถ่ และขอรูปถ่ายของฝ่ายตรงข้ามทันที ด้วยความที่อยากให้น้องสาวมีแฟนแล้วยิ่งถ้าได้ดองกับคนจากตระกูลเดียวกันกับว่าที่สามีของเธอก็คงจะดีไม่น้อย เธอรู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มมีน้องชาย แต่เธอเองก็ยังไม่เคยพบกับเขาเช่นกันเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายไปเรียนต่อเมืองนอกนานถึงสี่ปี หวงลี่จินยอมร่วมมือกับคู่หมั้นหนุ่มโดยไม่ลังเลใจสักนิด เพราะอยากจะให้น้องสาวได้พบเจอกับผู้ชายดีๆ แบบเธอ พี่ชายยังแสนดีขนาดนี้แล้วน้องชายจะทำตัวไม่ดีเหรอ คงเป็นไปไม่ได้ หญิงสาวจัดการส่งรูปของน้องสาวในชุดเดรสสุดเซ็กซี่สไตล์ของหวงลี่หลินที่ชอบสวมใส่บ่อยๆ และชุดธรรมดาที่เธอสวมเวลามาบ้านให้กับคู่หมั้นหนุ่มไปสองสามรูป
“สวยมากเลยนะเนี่ย” เสียงเข้มของเฉินเจียงข่านดังขึ้นขณะที่เปิดดูรูปถ่ายที่คู่หมั้นสาวส่งมาให้ สองขาก้าวเท้ายาวๆ ไปยังอีกห้อง ซึ่งเป็นห้องของน้องชายทันที หากแต่อีกฝ่ายยังคงนอนหลับเพราะยังปรับเวลานอนไม่ได้ เขาจึงจัดการส่งรูปทุกอย่างเข้าไปในแอพพลิชั่นแชท หากน้องชายของเขาตื่นขึ้นมายังไงชายหนุ่มก็ต้องเปิดอ่าน มือหนากดส่งรูปพร้อมพิมพ์ข้อมูลเล็กน้อยไปให้น้องชายทันที
ช่วงสายๆ ของวันใหม่เฉิน เจียวจ้านก็ยังไม่ตื่นนอน ส่วนพี่ชายสุดหล่อนั้นเดินทางไปทำงานที่บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ตั้งแต่เช้าแล้ว จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงร่างหนาบนที่นอนนุ่มภายในห้องนอนสีอึมครึมก็ค่อยๆ พลิกกายแกร่งไปมา นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาจับระหว่างหัวคิ้ว บ่งบอกถึงอาการปวดศีรษะเพราะปรับสภาพเวลาไม่ทัน ลำแขนแข็งแรงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนที่มือเรียวยาวจะยื่นไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตนมาเพื่อเช็กข้อความ
สายตาคมจดจ้องไปที่คนในรูป แม้จะรู้สึกถูกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกที่มันกำลังตีตื้นขึ้นมาเอาไว้ เพราะความตั้งใจของเขาและเธอมันทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะคิดจริงจัง
“ฮัลโหล ตื่นแล้วเหรอไอ้น้องชาย เป็นไงสวยถูกใจไหม” เสียงทุ้มของพี่ชายดังมาจากปลายสาย
“อืม..ครับ สวยดี” สวยมากๆ เลยต่างหาก ที่พี่ชายของเขาชมเธอให้ฟังตนแรกเขายังไม่คิดเลยว่าเธอจะสวยขนาดนี้ ไม่แน่ตัวจริงกับรูปอาจต่างกันก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะเพราะยังไงทั้งเธอและเขาก็มีความตั้งใจตรงกัน นั่นคือชีวิตที่เป็นอิสระ
“พี่ถามน้องลี่จินมาแล้วนะ เย็นนี้น้องสาวของเธอจะไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ไนต์คลับของเยว่อวี่ซิน เพื่อนสนิทของนายสมัยมหาวิทยาลัยน่ะ” เสียงทุ้มของพี่ชายรีบบอกสถานที่ที่น้องชายจะได้พบกับเป้าหมายทันที
“อ๋อ เยว่อวี่ซินที่ร่วมหุ้นกับลู่ตงหานน่ะหรอครับ” เสียงเข้มเอ่ยถามพี่ชายขึ้น
“อืมๆ นั่นแหละ ยังไงคืนนี้ลองไปดูสิ เผื่อจะเจอ ผู้หญิงที่สวยโดดเด่นแบบน้องลี่หลินคงจะหาเจอได้ไม่ยากหรอก แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องเข้าประชุมแล้ว” เฉินเจียงข่านรีบบอกน้องชายก่อนที่จะวางสายไป มุมปากหนาสีชมพูแบบคนสุขภาพดียกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ‘หรือเธออาจจะเป็นแม่สาวรักสนุกเลยไม่อยากผูกมัดกับใครพี่สาวกับน้องสาวไม่จำเป็นต้องมีนิสัยเหมือนกันเสมอไป บางทีพี่เจียงข่านอาจจะมองเธอผิดไปก็ได้ แต่ก็ดี อาจจะง่ายหากคุยข้อตกลงกับเธอ’ หนุ่มหล่อคิดในใจก่อนที่จะต่อสายหาเพื่อนหนึ่งในสองที่เป็นเจ้าของไนต์คลับที่ไม่ได้เจอกันนาน
“ฮัลโหล ใครครับ” เสียงเข้มดังมาจากปลายสาย
“ฮัลโหลตงหาน นี่ฉันเจียวจ้านเอง เฉิน เจียวจ้านน่ะ” เสียงทุ้มรีบเอ่ยทักทายเพื่อน พร้อมทั้งแนะนำตัวทันที
“เฮ้ย!!! ไอ้เจียวจ้าน เป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวว่านายไปเรียนต่อเมืองนอกสี่ปี นี่กลับมาแล้วหรอวะ แล้วนายไปได้เบอร์ของฉันมาจากไหน” เสียงเข้มอุทานออกมาอย่างดีใจ ก่อนที่จะเอ่ยถามหนึ่งในเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย
“เออ ฉันเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวาน เบอร์นายไม่ยากหรอกถ้าอยากได้จริงๆ น่ะฮ่าๆๆ แล้วไอ้อวี่ซินเป็นไงบ้าง ยังเฟี๊ยดอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าวะ” เจียวจ้านตอบพร้อมกับหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทอีกคนทันที
“โห รายนั้นน่ะสบายเกินไปล่ะไม่ว่า กลางคืนมาคลุมคลับกับฉัน กลางวันไปเป็นนักบิด ไอ้บ้านั่นมันชอบความเร็ว นายก็รู้นี่หว่า” ลู่ตงหานตอบก่อนที่จะเผาเพื่อนสนิทอีกคนให้กับเจียวจ้านฟัง
“เออ คิดถึงพวกนายสองคนว่ะ วันนี้เจอกันหน่อยดีไหม” เสียงทุ้มรีบบอกจุดประสงค์ที่ตนติดต่อเพื่อนไป
“ได้สิ คลับของฉันกับไอ้อวี่ซินสาวๆ สวยๆ เพียบ นี่ไอ้อวี่ซินได้กลับไปชิมทุกคืน แต่ฉันไม่ชอบว่ะ ไม่อยากมีปัญหาตามมาทีหลัง” ลู่ตงหานรีบชวนเพื่อนให้มาที่ไนต์คลับของตนทันที ก่อนที่จะเผาเพื่อนอีกคนให้เจียวจ้านฟังถึงวีรกรรมกินไม่เลือกจนมีปัญหาตามมาบ่อยๆ
“เรื่องผู้หญิงน่ะ ฉันไม่สนใจหรอก พวกนายสองคนก็รู้ว่าฉันยังหาผู้หญิงที่มองคนที่เนื้อแท้ไม่ได้ ส่วนมากสาวๆ ที่เข้ามาในชีวิตของฉันก็เพราะว่าฉันนั้นเกิดในตระกูลเฉินต่างหาก” เฉิน เจียวจ้านเอ่ยออกมาตามที่ใจคิด
“นายก็จะไปคิดมากทำไม ก็แค่สนุกๆ แบบไอ้อวี่ซินก็ได้ ผู้ชายเรามันก็ต้องมีปลดปล่อยกันบ้างสิ นายจะอดทนไปจนได้เมียคนแรกเลยหรือไง” ลู่ตงหานอดที่จะค้านความคิดของเพื่อนไม่ได้ ในเมื่อผู้หญิงสมัยนี้มองผู้ชายที่หน้าตาและฐานะ พวกเขาก็แค่เล่นๆ กับพวกเธอเพียงเท่านั้นจะไปยากอะไร
“ฉันไม่ชอบใช้ผู้หญิงซ้ำกับเพื่อนก็นายรู้ ถึงจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยนอนกับพวกนายมาก่อนแน่ๆ” จะว่าเขาเลือกมากก็ได้แต่เขาไม่เคยไปปลดปล่อยหรือระบายกับใครพร่ำเพรื่อ ตั้งแต่วัยหนุ่มจนอายุล่วงเลยมาจนจะสามสิบ เขาผ่านผู้หญิงมาเพียงสองคนเท่านั้น คนแรกคือถิงมู่หลันแฟนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และคนที่สองคือผู้หญิงฝรั่งที่อยู่เมืองนอกสมัยไปเรียนต่อเพียงเท่านั้น
“เออๆฉันรู้ ก็ดีแล้ว ถ้าฉันเป็นเมียนายในอนาคตฉันคงภูมิใจแย่ฮ่าๆๆๆ” ลู่ตงหานอดที่จะแซวเพื่อนและหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้
“แค่นี้ก่อนนะ เย็นนี้นายก็มาหาพวกฉันสองคนที่ลู่เยว่ไนต์คลับก็แล้วกัน เผื่อคืนนี้นายจะได้เปลี่ยนใจ เพราะสาวๆ ที่มาร้านเรามีแต่พวกผู้หญิงโปรไฟล์ดี แถมสวยๆ ทั้งนั้น” ลู่หานตงยังไม่ลดละความพยายามที่อยากจะให้เพื่อนลิ้มลองในรสสวาท แต่คนฟังก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะวางสายไป ‘การที่เขาจะไปที่นั่นในคืนนี้เป็นเพราะเป้าหมายของเขาไปที่นั่นต่างหาก’ เฉินเจียวจ้านคิดในใจ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระส่วนตัวหลังจากการนอนหลับที่ยาวนาน
ลู่เยว่ไนต์คลับ
ร่างบางระหงของสามสาวในการแต่งกายที่แตกต่างกันหากแต่มองยังไงก็ให้คำนิยามว่าสวยเท่และเซ็กซี่ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว กำลังก้าวเข้าไปในไนต์คลับ สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนในเมืองเอ ที่ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพวกไฮโซและลูกคนมีเงิน เรียกได้ว่าลูกค้าที่นี่เกรดเอทุกคน รวมไปถึงสามสาวสวยที่กำลังเยื้องย่างเข้ามาท่ามกลางสายตาของหนุ่มนักเที่ยวที่มองไปยังหญิงสาวในชุดแซกเซ็กซี่สีแดงเพลิง และสาวที่สวมเสื้อกล้ามหนังสีดำเอวลอยอวดหน้าอกสบึมกับเอวคอดขาวเรียบเนียน สวมกางเกงขายาวลายทหาร ส่วนอีกสาวที่เดินมาด้วยกันในชุดเดรสสั้นสีดำก็ดูสวยจนน่าค้นหา รวมๆ สามสาวคือดวงดาวที่ดูเจิดจรัสในค่ำคืนนี้
“นั่นๆ สวยว่ะ นายว่าไหมเจียวจ้าน” เยว่อวี่ซินคนเจ้าชู้รีบชี้ให้เพื่อนมองสามสาวที่กำลังเดินไปนั่งลงที่โต๊ะVIP ที่พวกเธอจองเอาไว้ล่วงหน้า สายตาคมของทายาทลำดับที่สองของตระกูลเฉินมองไปตามมือของเพื่อนก็พบว่าหญิงสาวเป้าหมายของเขาได้มาถึงที่คลับแห่งนี้แล้ว ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาอย่างถูกใจ เธอสวย สวยแบบหาตัวจับยาก เรื่องนี้เขายอมรับ แต่เธอจะสวยใสแบบที่พี่ชายบอกหรือเปล่าอันนี้เขาไม่แน่ใจ
“เฮ้ย นั่นมันเพื่อนของน้องสาวข้าเอง แม่สาวเสื้อกล้ามหนังสีดำน่ะ ชื่อน้องเยว่หรู เป็นนักบิดที่มีชื่อเสียงในเมืองเอเลยนะเว้ย เอ..ว่าแต่ทำไมนายไม่รู้จักวะไอ้อวี่ซิน” ลู่ตงหานหันไปมองก่อนที่จะอุทานออกมาอย่างตกใจ สามสาวดาวเด่นในคืนนี้หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของน้องสาวเขาเอง และเธอก็เป็นสาวสุดฮอตที่รักความเร็วเหมือนกับเพื่อนสนิทอีกคนของเขาไม่มีผิด
“รู้สิ ดาวสนามแบบนั้นใครจะไม่รู้จัก หึๆ” สายตาคมของเยว่อวี่ซินจดจ้องมองไปที่ร่างอวบอิ่มของเยว่หรูอย่างไม่ละสายตา
“หัวเราะแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ อย่าบอกว่าแกฟาดน้องเค้ามาแล้วน่ะ” ลู่ตงหานเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ยังหรอก เห็นแบบนี้เล่นตัวนะเว้ย เธอไม่ชอบผู้ชายมั้ง ฉันเคยแหย่ไปครั้งหนึ่งเกือบต่อยปากแตก ร้ายใช่เล่นหึๆ” เยว่อวี่ซินตอบขณะที่สายตายังมองไปที่คนร่างอวบอัดอย่างสนใจแบบไม่ปิดบัง สายตาคมของเฉินเจียวจ้านก็จับจ้องมองไปที่ร่างระหงของหญิงสาวในชุดแซกเซ็กซี่สีแดงเพลิงอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน พอมองไปรอบๆ โต๊ะของพวกเธอก็พบว่ามีผู้ชายหลายคนมองอย่างแสดงออกว่าสนใจทั้งสามสาว ใจเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแปลกๆ
“คนนั้นก็โคตรสวยเลยว่ะ เซ็กซี่ หุ่นเอ็กซ์ชะมัด แต่ดูท่าฤๅษีจำศีลของเราคงจะถูกใจเธอใช่ไหม” เยว่อวี่ซินเอ่ยขึ้นขณะมองตามสายตาของเฉินเจียวจ้านไปก็พบว่าเพื่อนสนิทนั้นมองสาวสวยในชุดแซกสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่อย่างจดจ่อ
“อืม... คนนี้แหละที่ฉันมาตามหาคืนนี้” คำตอบของเฉินเจียวจ้านทำเอาสองหนุ่มเพื่อนซี้ตาเบิกโพลงแถมยังอ้าปากค้างด้วยความตกใจอีกต่างหาก
“อะไรวะ ตกลงนายมาที่นี่เพื่อมาหาผู้หญิงหรือว่ามาหาฉันสองคนกันแน่ไอ้เจียวจ้าน” ลู่ตงหานเอ่ยถามขึ้นอย่างงงๆ ก็เฉินเจียวจ้านเพื่อนของเขาคนนี้ร้อยวันพันปีเห็นสนใจสาวๆซะที่ไหน ก่อนจะมาเขายังพยายามโน้มน้าวให้มันมองหาผู้หญิงสักคนไปสนุกด้วยอยู่เลย แต่พอมาเจอเพื่อนของเพื่อนน้องสาวของเขามันกลับถูกใจเอาง่ายๆเสียอย่างนั้น
“กลุ่มนี้เล่นๆ ไม่ได้นะเว้ย เพราะไม่งั้นน้องข้าเอาตายแน่ๆ” ลู่ตงหานเอ่ยออกมาอย่างจริงจังจนสองหนุ่มหันกลับมามองหน้า
“แล้วถ้าจริงจังล่ะ” ทั้งคู่แทบจะเอ่ยออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะได้รับเสียงหัวเราะจากลู่ตงหาน
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เจียวจ้านฉันพอจะไว้ใจได้ แต่กับนายไอ้อวี่ซิน ตราบใดที่นายยังไม่เลิกเจ้าชู้ แดกหญิงไม่เลือก นายไม่มีวันได้ใจของน้องเยว่หรูหรอก” ลู่ตงหานเอ่ยออกมาอย่างจริงจังหลังจากหยุดหัวเราะ แต่กลับได้รับสายตาจริงจังจากเยว่อวี่ซินตอบกลับมาแทน
“ฉันสนิทกับน้องเยว่หรูคนเดียวว่ะ คนที่สวมเดรสดำนั่นน่าจะทำงานเป็นนักพัฒนาบุคลิกภาพเพราะฉันเคยเห็นที่บริษัทจ้างไปให้ปรับบุคลิกภาพให้พนักงานต้อนรับของสายการบินฉันอยู่แต่ฉันก็ไม่รู้จักชื่อเธออยู่ดี ส่วนน้องอีกคนที่ไอ้เจียวจ้านมองอยู่ฉันไม่รู้จักว่ะ” ลู่ตงหานพูดขึ้นพร้อมทั้งมองไปยังสาวสวยในชุดเดรสสั้นสีดำที่มองยังไงก็ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด หรืออาจจะเป็นเพราะแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่เธอเลยจัดหนักมาได้ขนาดนี้ แต่ก็ดูสวยแปลกตาดี
“ฉันก็ไม่รู้จัก แปลกสวยขนาดนี้รอดสายตาของฉันไปได้ยังไงวะ สงสัยเธอไม่ค่อยออกมาเที่ยวกลางคืน ถ้ามาบ่อยๆ ฉันคงได้ฟาดไปแล้ว” สิ้นสุดคำพูดของเยว่อวี่ซิน ศอกแหลมๆของเพื่อนสนิทที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกก็กระทุ้งเข้าไปที่หน้าท้องแน่นอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย!!! อะไรวะไอ้เจียวจ้าน ฉันก็พูดตามความจริงนี่หว่า อย่าบอกนะว่านายชอบน้องเค้าจนหวงน้องเค้าทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักนี่น่ะ” เยว่อวี่ซินร้องเสียงหลงก่อนที่จะเอ่ยประโยคโดนใจของคนที่ไม่อยากมีแฟนในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับมาแสดงท่าทางหึงหวงแม่สาวชุดแซกสีแดงสุดเซ็กซี่ น้องสาวของว่าที่พี่สะใภ้ซะอย่างนั้น 'ใครบอกว่าเขาไม่รู้จัก คนกันเองเลยล่ะ' มุมปากหนายกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์