รักวุ่นวายของยัยนักเขียน

108.0K · จบแล้ว
หลงเวลา
40
บท
7.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หวงลี่หลิน นักเขียนนิยายสาวผู้ที่มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา ด้วยความเป็นสาวสมัยใหม่และรักอิสระจึงไม่ยอมมีแฟนสักที จนวันหนึ่งเธอและเพื่อนสนิทอีกสองคนดันไปรับคำท้าของเพื่อนอีกกลุ่มว่างานแต่งของเพื่อนในกลุ่มนั้นพวกเธอจะพาแฟนหนุ่มที่ร่ำรวย รูปหล่อและเพอร์เฟคไปโชว์ทุกคนในงาน สัญญาที่เกิดจากความอยากเอาชนะจึงเริ่มต้นขึ้น แต่มันดันวุ่นวายเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมจบสัญญาและเขาก็เข้ามาปั่นป่วนในหัวใจของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเสียด้วยซ้ำ เฉินเจียวจ้าน ทายาทอันดับสองของตระกูลเฉิน เพราะบิดาและมารดาอยากจะให้เขามีแฟนตอนอายุสามสิบและตัวเลือกที่ดีที่สุดคือผู้หญิงที่ไม่ต้องการมีแฟนแบบจริงจัง น้องสาวของว่าที่พี่สะใภ้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขาสำหรับระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่บิดาให้ แต่การที่เขาเข้าหาเธอกลับทำให้เขาตกหลุมรักเธอจริงๆ แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะยอมจบสัญญาแฟนหลอกๆ ในเมื่อเธอกล้าขโมยหัวใจของเขาไป เธอก็ต้องรับผิดชอบมัน

นิยายรักโรแมนติกตลกนางเอกเก่งรักหวานๆสัญญาทางรักเศรษฐีโรแมนติกพระเอกเก่ง

บทที่ 1 ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากแต่งงาน

งานแต่งงานมักจะเป็นงานที่สาวๆ หลายคนนั้นใฝ่ฝันอยากที่จะให้เกิดขึ้นกับตนสักครั้งหนี่งในชีวิต แต่ไม่ใช่กับหวงลี่หลิน นักเขียนนิยายรักโรแมนติกวัยยี่สิบหกปีผู้ที่ไม่เคยผ่านการมีแฟนมาเลยสักคนแต่กลับเขียนนิยายออกมาได้ดีราวกับมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องรักมากมาย หวงลี่หลินนั้นเป็นผู้หญิงสวยที่มีหนุ่มๆ หมายตามาโดยตลอด แต่เธอก็ไม่เคยตกลงปลงใจคบหากับใครเลยสักคน ดีที่ทางบ้านเข้าใจและไม่บังคับให้บุตรสาวไปนัดบอร์ดเพื่อหาคู่

“วันนี้เฉินเยว่หลินสวยมากเลยพวกเธอดูสิ” เพื่อนในกลุ่มชี้ไปทางเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้ามาในงานพร้อมกับบิดา

“ฉันอยากแต่งงานบ้างจัง แต่ยังหาแฟนไม่ได้เลย” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น

“ฉันไม่เห็นจะอยากแต่งงานเลย อยู่คนเดียวทุกวันนี้สบายจะตาย ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องเป็นห่วงใคร ไม่ต้องตามหึงหวงใคร และไม่ต้องมานั่งรอใคร” สาวสวยรูปร่างสูงเพรียวหุ่นทรงนาฬิกาทรายในชุดเดรสสีแดงเพลิงปาดไหล่ขวานั่งขาไคว่ฮ่างอวดเรียวขาขาวเนียนจิบไวน์อยู่อย่างอารมณ์ดี เธอมักจะได้เป็นแขกรับเชิญทุกครั้งเวลาที่เพื่อนๆ แต่งงาน และทุกงานก็จะมีหนุ่มๆ มาสนใจเธอทุกครั้ง แต่คนสวยเลือกมากอย่างเธอน่ะเหรอจะมองใครสักคน เพราะต่อให้หล่อ รวย และชาติตระกูลดีแค่ไหน ก็ไม่เคยเข้าตาของนักเขียนสาวเลย

“แหม....แม่คนสวยเลือกได้ เมื่อไหร่เธอจะมีแฟนสักทีล่ะ ตั้งแต่ฉันเรียนกับเธอจนจบมาทำงานแล้วฉันยังไม่เคยเห็นแฟนของเธอเลย” ถงถงเอ่ยขัดคอขึ้นทันทีด้วยความหมั่นไส้

“สวยและรวยมากก็พอย่ะ แฟนไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิต” สาวสวยพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจจนเพื่อนๆ ที่คิดต่างแอบเบ้ปาก ในชีวิตของผู้หญิงใครบ้างที่จะไม่อยากมีแฟนดีๆ จนได้แต่งงานกัน หวงลี่หลินคนนี้ช่างมีความคิดที่แตกแยกนัก

“ใช่ จะรีบมีแฟนไปทำไม อยู่สวยๆ โสดๆ ให้ผู้ชายเสียดายเล่นดีกว่า” อ้ายฉิงเพื่อนสนิทของนักเขียนสาวเอ่ยขึ้น จะมีเพียงเพื่อนสองคนเท่านั้นที่รู้ฐานะที่แท้จริงของนักเขียนสาวคนนี้ เธอไม่ใช่แค่นักเขียนธรรมดาๆ อย่างที่ทุกคนเห็นและเข้าใจ แต่เธอเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลหวงต่างหาก

“ฉันก็เป็นอีกคนนะที่ยังไม่คิดจะมีแฟน มีแล้วเปลี่ยนบ่อยๆ เหมือนพวกเธอก็ไม่ไหวคิกๆๆๆๆ” เยว่หรูเพื่อนสนิทของลี่หลินอีกคนเดินเข้ามาสมทบกับสองสาว ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นพร้อมกับกลั้วหัวเราะเบาๆ จนอีกสองสาวพลอยที่จะหัวเราะขำไปด้วยไม่ได้ ถงถงรีบเดินหนีไปอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มทันที กลุ่มของสามสาวกับกลุ่มของพวกเธอไม่ค่อยจะกินเส้นกันอยู่แล้ว เจอกันทีไรถ้าไม่ได้แขวะหรือฟาดฟันกันก็ออกจะแปลกทีเดียว

พิธีการผ่านไปจนถึงช่วงเวลารับช่อดอกไม้จากเจ้าสาว ซึ่งเพื่อนๆ เจ้าสาวที่ยังโสดมักจะไปรอคอยรับช่อดอกไม้กันเพื่อหวังจะได้กลายเป็นเจ้าสาวคนต่อไป ผิดก็แต่กลุ่มของสามสาวที่มีบุคลิกต่างกันหากแต่ยังคบหากันได้แบบลงตัว

หวงลี่หลินนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่ และมีความมั่นใจในตนเอง เวลาทำงานอยู่ที่หน้าโน๊ตบุ๊คจะไม่ค่อยสนใจตัวเองเท่าไหร่นัก หากแต่พอออกงานเธอจัดหนักจัดเต็มเซ็กซี่จนหนุ่มๆ หันมามองตามเธอคอแทบเคล็ด ส่วนอ้ายฉิงนั้นเป็นหญิงสาวที่สนใจและดูแลบุคลิกภาพของตนตลอดเวลา เสื้อผ้าหน้าผมของเธอมักจะดูเรียบร้อยทุกสถานการณ์อาจจะเพราะอาชีพการงานของเธอคือนักพัฒนาบุคลิกภาพ และคนสุดท้ายเยว่หรู เธอเป็นคนปากจัดหากแต่จริงใจ การแต่งกายก็จะออกแนวสาวเท่ เพราะเธอนั้นเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเมืองเอ

“ว๊ายยย!!!!!” เสียงหวานอุทานออกมาขณะที่ช่อดอกไม้ลอยตกลงมายังตักของคนที่ไม่คิดว่าจะมีแฟนหรือคิดที่จะแต่งงาน สองเพื่อนสนิทสาวมองเพื่อนซี้ด้วยสายตาตกตะลึงเช่นกันก่อนที่จะพากันขำออกมา

“โอ๊ย!!! อะไรกันเนี่ย คนที่เขาอยากมีแฟนอยากแต่งงานไม่หล่นไปหา หล่นมาหาฉันทำไมกันเนี่ย” เสียงหวานอุทานขึ้นจนสองเพื่อนสนิทสาวหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้

“ฮ่าๆๆๆๆ ยัยลี่หลิน ปีนี้ฉันว่าความโสดที่เธอหวงมาหลายปีต้องสิ้นสุดแล้วล่ะคิกๆๆ” เสียงห้าวหวานดังมาจากริมฝีปากบางสีส้มอ่อนของเยว่หรู หากไม่ใช่เพื่อนสนิทแล้วมาพูดแบบนี้ลี่หลินคงจะฟาดฟันกลับไปอย่างแน่นอน หากแต่เพราะคนที่แซวเธอนั้นเป็นเพื่อนสนิทหนึ่งในสองของเธอจึงทำได้แค่ส่งค้อนน้อยๆ ไปให้เพื่อนเพียงเท่านั้น

“เอาน่า คนอื่นเค้าอยากได้จะตายไป” อ้ายฉิงเอ่ยขึ้นบ้าง

“แต่ไม่ใช่ฉันไหม” ดวงตากลมหวานแข็งกร้าวขึ้นทันทีจนเพื่อนๆ หุบขำแทบจะไม่ทัน

“อะ!! ถ้าอย่างนั้นเธอเอาไปก่อนก็แล้วกันอ้ายฉิง เธอดูอ่อนหวานที่สุดในกลุ่ม น่าจะสละโสดก่อนพวกฉันแน่ๆ” มือบางจับช่อดอกไม้สีขาวที่เพิ่งลอยตกลงมาที่ตักส่งให้กับเพื่อนสนิท

“ว๊าย!!!ฉันยังไม่อยากมีแฟนเหมือนกัน ชีวิตโสดของฉันกำลังสนุกเลย เธอรับไปก็แล้วกันเยว่หรู ไหนๆ เธอก็ทำงานที่มีแต่พวกผู้ชายรุมล้อมอยู่แล้ว เธอดูจะเป็นคนเดียวที่ได้พบกับเพศตรงข้ามได้มากที่สุดนะ” อ้ายฉิงรีบโยนช่อดอกไม้ไปให้กับสาวสุดมั่นอย่างเยว่หรูทันที มือเรียวรีบจับมาแทบไม่ทัน

“โอ๊ย!! อะไรกันเนี่ยพวกเธอ จะเกี่ยงไปทำไม ในเมื่อสักวันพวกเธอก็ต้องเจอใครสักคนอยู่ดี หรือจะบอกว่ามันไม่จริง” สาวมั่นเอ่ยขึ้นก่อนที่จะถือดอกไม้ชูขึ้น

“ใครอยากแต่งงานต่อเยว่หลินมาเอาช่อดอกไม้ไปเลย เพราะสาวๆ กลุ่มนี้ยังไม่อยากมีแฟน” เสียงห้าวหวานจริงจังเอ่ยดังขึ้น สองสาวเพื่อนต่างกลุ่มจึงเดินเข้ามาพร้อมกับหยิบดอกไม้ไปทันที

“ขอบใจ อย่างว่าแหละ พวกเธอจะแต่งงานได้ยังไงในเมื่อแฟนสักคนก็ไม่เคยมีคิกๆๆๆๆ” ถงถงไม่หอบช่อดอกไม้มาเปล่า หากแต่ยังกล่าวปรามาสทั้งสามสาวเอาไว้จนเยว่หรูฟังแล้วยอมไม่ได้

“หึๆ ก็ไม่แน่หรอกนะ สวยๆ เก่งๆ แบบพวกฉันน่ะ แค่กระดิกนิ้วผู้ชายทั้งเมืองก็พร้อมจะดาหน้าเข้ามาให้เลือกแล้วย่ะ” เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นจนอีกสองสาวต้องหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทเป็นตาเดียวกัน

“ดีเลย ต้นปีหน้าฉันจะแต่งงานกับพี่โจวหมิ่นหาน พวกเธอก็พาผู้ชายที่พวกเธอบอกว่าแค่กระดิกนิ้วก็ดาหน้ากันเข้ามาให้เลือกแล้วมาแนะนำให้พวกฉันรู้จักหน่อยสิ เพราะถ้าเธอทำไม่ได้พวกฉันจะถือว่าพวกเธอมันไม่แน่จริง” โหรวโหรวเอ่ยขึ้นอย่างท้าทาย มีหรือคนไม่ยอมคนอย่างเยว่หรูจะปล่อยผ่าน

“ได้ เธอคอยดูก็แล้วกัน งานแต่งของเธอพวกฉันสามคนจะควงหนุ่มหล่อ รวย โปรไฟล์ดีไปให้พวกเธอได้อิจฉาเล่น” สิ้นคำพูดของเพื่อนรัก อีกสองสาวที่เพื่อนไม่ได้ขอคำปรึกษาเลยสักนิดก็อ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียงกัน

“หรือเธอสองคนไม่กล้า ลี่หลิน อ้ายฉิง” ถิงถิงหันไปเล่นงานแม่สาวสวยกับแม่สาวเรียบร้อยทันที

“ค่ะ..ค่ะ....ใครบอก” อ้ายฉิงตอบอย่างตะกุกตะกักก่อนที่จะหันไปมองหน้าสวยเข้มของเยว่หรูอย่างคาดโทษ

“แล้วเธอล่ะลี่หลิน อย่าบอกนะว่าคนสวยๆ แบบเธอจะหาแฟนไม่ได้ ฉันว่าดีๆ หาได้ก่อนเพื่อนสองคนของเธออีก” โหรวโหรวหันไปถามหญิงสาวอีกคนที่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา

“เอาสิ... ก็อย่างที่เยว่หรูกับอ้ายฉิงบอกนั่นแหละ และก็คงอย่างที่เธอบอกเรื่องแค่นี้ไม่ยากเกินความสามารถของฉันหรอก” ในเมื่อเพื่อนๆ ทั้งสองตกลงปลงใจกันแล้วจะให้เพื่อนแท้อย่างเธอแปลกแยกได้อย่างไร ถึงแม้เธอจะไม่แน่ใจก็ตามว่าจะหาแฟนมาอวดเพื่อนๆ ได้ไหม เพราะตอนนี้เธอยังไม่คิดจะมีใครและลงเอยกับใครจริงๆ

“ดี!!! แล้วฉันสองคนจะรอดู ว่าพวกเธอจะหาแฟนได้ตามที่ต้องการหรือเปล่า” ถงถงเอ่ยส่งท้ายก่อนที่จะถือช่อดอกไม้เดินไปทางอื่นพร้อมกับโหรวโหรวเพื่อนสนิท

ทันทีที่เพื่อนแค้นเดินจากไปสองเพื่อนรักก็มองไปที่เยว่หรูเป็นตาเดียว สาวสวยที่มีใบหน้าสวยคมรีบหลบสายตาก่อนที่จะโดนเพื่อนรุมอย่างรู้ความผิด ลำแขนเรียวเสลาจากทั้งสองสาวคล้องไปที่ลำคอระหงทั้งซ้ายขวา ก่อนที่ลี่หลินจะกระซิบบอกบางอย่างที่ทำให้เยว่หรูยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน

“ไม่ๆๆๆ ฉันไม่มีทางมีแฟนก่อนพวกเธอแน่ๆ” เยว่หรูไม่ยอมรับข้อตกลงถึงตนเองจะเป็นคนเริ่มก่อเรื่องก่อนก็ตาม

“ได้ไง ก็ในเมื่อเธอเป็นคนตอบรับยัยนั่นไปก่อน เธอนี่น้า...เยว่หรู ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย” ลี่หลินเอ่ยขึ้นเสียงลอดไรฟันเพื่อไม่ให้เพื่อนคนอื่นได้ยิน

“เอาน่ามีมันพร้อมๆ กันนี่ล่ะ สวยๆ แบบเธอสองคนหาไม่ยากหรอก ถ้าไม่อยากมีแบบเป็นตัวเป็นตนเราก็หาจ้างคนมาเล่นบทนี้ซะสิ จะได้ไม่มีปัญหาเวลาที่งานจบ หลังจากยัยนั่นแต่งงานเราก็ทำเรื่องจบสัญญากับหนุ่มๆ พวกนั้นซะ รับรองมีสัญญาไม่มีใครกล้าตุกติกแน่นอน” เยว่หรูหาทางออกให้กับเพื่อนๆ ซึ่งดูสองสาวก็เริ่มที่จะคล้อยตาม เพราะหาจ้างคนที่มารับบทแฟนกำมะลอได้ พวกเธอก็จะไม่สูญสิ้นความโสด

พอสามสาวตกลงกันได้ก็พากันออกจากงานแต่งของเพื่อนในรุ่นที่สละโสดไปอีกคน ทั้งสามสาวไม่ชอบที่จะมางานแบบนี้เลยสักนิดหากไม่ใช่เพราะถ้าไม่มายัยคู่ปรับสองคนนั้นก็จะหาเรื่องพูดจาถากถางและนินทาให้เพื่อนๆ คนอื่นมองทั้งสามสาวไม่ดี ยิ่งคนไม่ยอมคนอย่างเยว่หรู ไม่มีทางซะหรอกที่เธอจะยอมให้ใครมาว่าสองเพื่อนสนิทและตัวเธอแบบนั้น