บทที่ 2 ทายาทคนเล็กของตระกูลหวง
หวงลี่หลิน นักเขียนสาววัย 26ปี เกิดมาในตระกูลร่ำรวยจากการมีธุรกิจผลิตและส่งออกเสื้อผ้าที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเอ มีบิดาชื่อนายหวงลี่หยางอายุ 53 ปี มีมารดาชื่อนางหวงเฟยเจิน อายุ 50 ปี มีพี่สาวแท้ๆ ที่รักกันมากหนึ่งคนชื่อหวงลี่จิน อายุ30ปี ด้วยความที่เป็นบุตรสาวคนเล็กของตระกูล บิดา มารดาและพี่สาวจึงตามใจให้ลี่หลินได้ทำในสิ่งที่รัก โดยเธอนั้นขออนุญาตครอบครัวออกไปใช้ชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเลยทำให้เพื่อนๆ ที่เพิ่งคบกันไม่รู้ว่าหวงลี่หลินนั้นเป็นทายาทลำดับสองของนักธุรกิจพันล้าน ลี่หลินยึดอาชีพการเป็นนักเขียนนิยายหาเลี้ยงตัวเอง หากแต่ยังมีเงินปันผลของบริษัทที่ยังได้รับอยู่ทุกเดือนเช่นกัน
หวงลี่จิน พี่สาวแสนสวยนั้นมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการพ่วงอีกตำแหน่งก็คือดีไซเนอร์ประจำบริษัท เธอสวยและเก่งมีหนุ่มๆ มาหมายปองเธอมากมายแต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะหวงลี่จินนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วและกำลังจะแต่งงานกันภายในปีนี้ชื่อเฉินเจียงข่าน เขาเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินที่ทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ในเมืองเอ ดูแล้วสองอาชีพที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย หากแต่บุตรสาวกับบุตรชายต่างมาชอบพอกัน ซึ่งบิดามารดาของทั้งสองตระกูลก็แสนจะยินดีปรีดา
“ลี่หลิน กลับมาเยี่ยมป๊ากับม๊าหน่อย ท่านบ่นคิดถึงน้องน่ะ” หวงลี่จินโทรหาน้องสาวสุดที่รักหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานเกือบสองสัปดาห์เพราะเธอนั้นเพิ่งบินกลับจากฝรั่งเศสเพราะไปหาแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลคชั่นใหม่กับคู่หมั้นหนุ่ม
“อย่ามาพูด ตัวเองคิดถึงเค้าล่ะไม่ว่า เอาป๊ากับม๊ามาอ้างตลอด” หวงลี่หลินรู้ทันพี่สาวคนโตเสมอ เพราะถ้าโทรมาเองแบบนี้ต้องเป็นพี่สาวของเธอที่อยากเจอเธออย่างแน่นอน
“แหม...รู้ทันอีกละ พี่เพิ่งกลับจากหาแรงบันดาลใจที่ฝรั่งเศสมาเมื่อวาน นี่พี่ซื้อของมาฝากเราด้วยนะ กลับบ้านหน่อยสิ พี่คิดถึงเธอมากๆ เลย พอเห็นของฝากนี่ปุ๊บใบหน้าน้องสาวสุดที่รักลอยมาเลยนะ” หวงลี่จินพยายามหว่านล้อมน้องสาวให้กลับบ้าน อันที่จริงบิดามารดาก็บ่นถึงน้องสาวตัวแสบอยู่เหมือนกัน แต่ที่ไม่โทรหาเพราะรู้ว่าหวงลี่หลินนั้นรักอิสระ และไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนเองเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลเพื่อป้องกันไม่ให้หนุ่มๆ มาหมายปองเธอ
“ว่าแต่ไปฝรั่งเศสกับว่าที่พี่เขยมาหรอ” เสียงหวานจากปลายสายทำเอาคนเป็นพี่หน้าแดงเมื่อนึกถึงคู่หมั้นหนุ่มรุ่นพี่ที่สุดแสนจะเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอเป็นอย่างดี ถึงแม้จะคบกันมาถึงสองปีแล้วก็ตาม เขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธอมากไปกว่าการกอดและจูบเพียงเท่านั้น
“อืม..... มาหาพี่หน่อยนะ พี่คิดถึงเราจริงๆ” เสียงหวานของพี่สาวตอบน้องสาวสุดที่รัก
“ได้ๆ เห็นแก่ของฝากนะเนี่ย แต่ไปได้แค่คืนเดียวนะ อยากกลับมาปั่นงานให้เสร็จเดี๋ยวบก.จะตามงานอีก” หวงลี่หลินบอกกับพี่สาวก่อนที่ทั้งคู่จะวางสายไป
“เฮ้อ...ปั่นงานสักหน่อยดีกว่า คืนนี้ต้องเสียเวลาไปหาลี่จินอีกละ หู้วๆๆๆ” สาวสวยบ่นออกมาลำพังก่อนที่จะเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนนุ่มภายในคอนโดสุดหรูที่ซื้อมาจากเงินเก็บตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นของเธอ
ร่างบางเดินนวยนาดเข้าห้องน้ำไปก่อนที่จะได้ยินเสียงน้ำกระทบกับพื้นและเสียงฮัมเพลงเบาๆ ดังออกมา ผ่านไปนานร่างระหงที่อยู่ในผ้าขนหนูสีขาวสะอาดก็เดินออกมาจากห้องน้ำทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่ สองเท้าเล็กย่างก้าวเข้าไปในห้องแต่งตัวที่มีเสื้อผ้าหลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ หวงลี่หลินเลือกชุดที่เหมาะกับการใส่กลับบ้านที่สุด เมื่อใส่เสร็จแล้วสาวสวยก็เดินไปเป่าผมจนแห้งแล้วหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะทำงานมุมเดิมของเธอ
มือบางหยิบโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่งมาเปิดพิมพ์นิยายที่แต่งค้างเอาไว้ นิ้วเรียวยาวกดลงไปบนแป้นคีย์บอร์ดอย่างชำนาญ ดวงตากลมโตที่มีแว่นสีใสช่วงปกป้องสายตาจากแสงก็จดจ้องไปที่หน้าจอโดยที่ไม่มองแป้นพิมพ์เลยสักนิด นิยายเรื่องนี้ของเธอแต่งเกี่ยวกับสัญญารักแฟนกำมะลอแต่ผลสุดท้ายกลับตกหลุมรักกันจริง โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่านิยายเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิตจริงของเธอเองในอีกไม่ช้า
ร่างระหงในชุดเดรสรัดรูปสีชมพูโอรสขับรถเบนซ์คันเล็กเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลหวงซึ่งมีเพียงบิดามารดา พี่สาวและคนรับใช้อีกสิบชีวิตอาศัยอยู่เพียงเท่านั้น พอเห็นรถคันเล็กของคุณหนูเล็กของบ้านขับเข้ามาจอด ถิงหลันคนรับใช้คนสนิทของลี่หลินก่อนที่เธอจะขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเพียงลำพังก็รีบวิ่งเข้ามาหาคุณหนูเล็กด้วยความคิดถึง
ร่างระหงเปิดประตูรถก่อนที่จะก้าวออกมายืนอย่างสง่างามแล้วเดินเข้าไปในบ้าน สายตาคู่สวยสบเข้ากับเด็กรับใช้คนสนิทแขนเรียวเสลาทั้งสองข้างก็กางออกพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้
“คุณหนูเล็ก......ฮือ...ถิงหลันคิดถึงคุณหนูเล็กที่สุดเลยค่ะ” คนสนิทวัยเพียง24ปีกอดเจ้านายสาวผู้เป็นที่รัก ด้วยวัยไล่เลี่ยกันเลยทำให้ถิงหลันรู้สึกสนิทและรักคุณหนูเล็กราวกับเป็นพี่สาวแท้ๆ หากแต่เธอก็ไม่อาจเอื้อมด้วยรู้ว่าเธอเป็นเพียงเด็กรับใช้ในบ้านเพียงเท่านั้น
“โอ๋ๆๆ ร้องไห้เป็นเด็กห้าขวบไปได้ ฉันก็กลับบ้านออกจะบ่อย ตอนฉันไม่อยู่ไม่มีใครรังแกเธอใช่ไหม” หวงลี่หลินเอ่ยแซวเด็กรับใช้คนสนิทที่เล่นเป็นเพื่อนเธอและพี่สาวมาตั้งแต่เด็ก แต่ถิงหลันนั้นจะสนิทกับเธอมากกว่า เพราะหวงลี่จินนั้นแก่กว่าถิงหลันถึง6ปี ช่องว่างระหว่างวัยจึงมีให้เว้นระยะห่าง
“คุณท่านทั้งสองกับคุณหนูใหญ่รอคุณหนูเล็กอยู่ในบ้านค่ะ” เสียงหวานหยุดร้องไห้ก่อนที่จะคลายกอดออกอย่างรู้ตัว ร่างเล็กถอยออกไปอย่างเจียมตัวก่อนที่จะรายงานให้คุณหนูเล็กของตระกูลหวงทราบ
“จ้าๆ ไปล่ะ” หวงลี่หลินตอบพร้อมกับยิ้มให้เด็กสาวอย่างเอ็นดู
ร่างระหงเดินเข้าไปภายในห้องรับแขกที่มีร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นบิดาและร่างอวบอิ่มของผู้มารดานั่งรอเธออยู่ ด้านขวามือมีพี่สาวคนสวย หวงลี่จินนั่งคุยกับท่านทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะป๊าม๊า คิดถึงจังเลย” บุตรสาวคนเล็กรีบตรงเข้าไปกอดและหอมแก้มพร้อมทั้งเอ่ยออดอ้อนบุพการีทั้งสองอย่างน่าเอ็นดู หวงลี่จินมองน้องด้วยสายตารักใคร่และคิดถึง แม้เธอจะยินยอมให้น้องออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังแต่เธอก็ยังคงเป็นห่วงน้องสาวอยู่ดี
“แน่ะๆๆ มาถึงก็อ้อนป๊ากับม๊าเลย” เสียงหวานของผู้เป็นพี่สาวเอ่ยขึ้นก่อนที่น้องสาวคนเล็กจะเปลี่ยนทิศทางกลายมาเป็นร่างบางและแก้มนุ่มของเธอ
“ฟอด.......หืม แก้มพี่สาวใครน๊าหอมที่สุดเลย” เสียงหวานเอ่ยชมอย่างออดอ้อนจนคนเป็นพี่มองอย่างเอ็นดู ส่วนบิดามารดาก็มองบุตรสาวทั้งสองด้วยแววตาที่มีความสุข ตระกูลอื่นพี่น้องอาจจะไม่ค่อยรักกันเพราะเหตุผลเกี่ยวกับมรดก หากแต่เป็นบุตรสาวทั้งสองของตนเขาไม่นึกเป็นห่วงเลย เพราะหวงลี่จินนั้นรักน้องสาวคนนี้มากและหวงลี่หลินนั้นก็ไม่มีความโลภอยากได้กิจการหรืองานในบริษัทเลย ทั้งๆ ที่เขาเคยเอ่ยชวนให้บุตรสาวเข้าไปช่วยกันบริหารงานหากแต่เธอก็บอกว่า ‘หนูชอบอิสระมากกว่าป๊า หนูอยากทำงานที่หนูรัก’ คำตอบของบุตรสาวทำให้เขาอดที่จะรู้สึกภูมิใจไม่ได้ เพราะหวงลี่หลินนั้นสามารถทำเงินจากการเขียนนิยายจนซื้อคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองเอได้อย่างสบาย
“แหม...ออดอ้อนพี่แบบนี้เพราะของฝากใช่ไหมคิกๆๆ” หวงลี่จินยกมือบางขึ้นมาวางบนศีรษะทุยของน้องสาวก่อนที่จะโยกเบาๆ พร้อมทั้งหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
“ม๊าก็ว่าอย่างนั้นแหละลูก ดูเอาเถอะ โตเป็นสาวจนยี่สิบหกแล้วยังทำตัวเป็นเด็กสิบขวบอ้อนป๊าอ้อนม๊า อ้อนพี่สาวอยู่อีก” คุณนายหวงอดที่จะแขวะบุตรสาวคนเล็กไม่ได้ อันที่จริงเธออยากให้ลูกๆ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ หากแต่บุตรสาวคนเล็กของเธอนั้นกลับชอบใช้ชีวิตที่เป็นอิสระ ตอนแรกที่เธอยอมให้ออกไป ก็แค่อยากจะให้บุตรสาวได้ลองใช้ชีวิตลำพังดู กลับกลายเป็นว่าหวงลี่หลินอยู่คนเดียวได้แบบสบายๆ
“โถ่!! ม๊าอะ จะยี่สิบหกหรือสามสิบ หวงลี่หลินคนนี้ก็ยังเป็นเด็กในสายตาของป๊าม๊าและพี่ลี่จินอยู่ดี ใช่ไหมคะพี่สาวสุดที่รักของน้อง” หวงลี่หลินเอ่ยออกมาจนทั้งสามคนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ หวงลี่จินโอบร่างบางของน้องเข้ามากอดอย่างคิดถึงก่อนที่จะหยิบของฝากมาให้กับเธอ
“ว๊าว.....สวยที่สุด เจเจ้รู้ใจน้องที่สุดเลย” ชุดแซกสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่คอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ดังถูกดึงออกมาชูขึ้นตรงหน้าของสาวสวย คนเป็นบิดามารดามองอย่างไม่ชอบใจนัก แม้จะรู้ถึงรสนิยมของบุตรสาวคนเล็กว่าชอบแต่งเนื้อแต่งตัวแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี เพราะบุตรสาวนั้นสวยแถมหุ่นยังล่อตาชายอีกต่างหาก หากใส่ชุดนี้ผู้ชายได้น้ำลายหกฝันค้างกันอย่าแน่นอน
“โอ๊ย ลี่จินลูก หนูซื้อชุดอะไรมาให้น้องเนี่ย” คุณนายหวงอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ ร่างสูงโปร่งระหงของลี่จินลุกขึ้นจากที่นั่งข้างน้องสาวที่กำลังชื่นชมชุดแซกสีแดงสุดเซ็กซี่อยู่เดินเข้าไปนั่งข้างๆ มารดาก่อนที่จะกระซิบบอกบางอย่างที่ข้างหู
“แต่งแบบนี้น้องของลี่จินจะได้มีแฟนสักทียังไงคะม๊า หรือม๊าอยากให้น้องเป็นสาวขึ้นคาน” คุณนายหวงพยักหน้าเห็นด้วยขึ้นมาทันที หวงลี่หลินไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่สนใจชุดที่พี่สาวมาฝากอยู่ คนเป็นพี่สาวและมารดาพากันยิ้มออกมาอย่างรู้ทันกันจนคนเป็นบิดาแอบที่จะเสียวสันหลังไม่ได้ พวกผู้หญิงเวลาคิดอะไรชอบคิดทำเรื่องแปลกๆ เขาคนหนึ่งนี่แหละที่จะไม่ขอแลกมีเรื่องกับสาวๆ ของตระกูลหวง