บทที่ 1 ผู้ชายคนนั้น
ตอนที่ธิชาไปถึงสตาร์ไนต์ตามคำสั่ง ก็เป็นกลางดึกเวลาห้าทุ่มแล้ว
ห้องรับรองเฉพาะของธาวินมีบอดี้การ์ดรออยู่ตั้งนานแล้ว
“เร็วๆหน่อย คุณชายธาวินรอคุณตั้งนานแล้ว”
บอดี้การ์ดผลักเธอเข้าไปในห้องอย่างแรง จนโซเซ เกือบล้ม หลังจากพยายามยืนนิ่งแล้ว กลิ่นเหล้าอันเข้มข้นก็โชยเข้าจมูก
เธอไม่กล้าเงยหน้าสูงเกินไป ใช้แค่หางตากวาดมองรอบด้านอย่างระมัดระวัง
ห้องรับรอหรูหราอลังการ บนโซฟาทรงกลมมีลูกค้าที่แต่งกายไม่ธรรมดานั่งอยู่หลายคน
ส่วนธาวินนั่งอยู่ตำแหน่งตรงกลาง เขานั่งไขว้ขา คาบซิการ์ม้วนหนึ่งกำลังสูบอยู่ รูปลักษณ์สง่าบุคลิกไม่ธรรมดา ตอนที่มุมปากยิ้มขึ้นก็ยิ่งดึงดูดหัวใจคน กลับไม่เหมือนหัวหน้าโจรที่ดุร้าย
แววตาของเขาคมลึก หนาวสะท้านอย่างพกพาความหนาวเย็นเอง สายตาอันเยือกเย็นมองเธออย่างตามอำเภอใจ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้ธิชาหน้าแดงหูร้อนขึ้นมา
เธอใส่กระโปรงผ้าฝ้ายสีขาวบริสุทธิ์ ดูไปแล้วก็เป็นแค่นักศึกษาสาวธรรมดาคนหนึ่ง เพียงแค่ภายใต้การแต่งกายเรียบง่ายซ่อนใบหน้ารูปไข่อันสวยงามรูปหนึ่ง ในห้องรับรองที่บรรยากาศอันซับซ้อนนี้ดูสวยมีเสน่ห์เป็นพิเศษ
ธิชาคิดว่าการแต่งกายไม่ได้ไม่เหมาะสม กลับถูกเขามองอย่างละเอียดแบบนี้ สิ่งที่เธอรู้สึกได้นอกจากอายแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแล้วก็ยังหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหอย่างสุดขีด
แบบนี้มันจะทำให้เสียหน้ามากเกินไปแล้วนะ
เห็นธิชาไม่มีการตอบสนอง ธาวินก็มุมปากยิ้มขึ้นให้เธอ รอยยิ้มมีความชั่วร้ายอยู่บ้าง
มือใหญ่ของเขาตบที่โซฟาด้านข้าง น้ำเสียงแหบต่ำหลอกให้ลุ่มหลง “หนูธิชาของฉัน จะมาขอเงินไม่ใช่เหรอ ยืนทื่ออยู่ตรงนั้นทำไม ยังไม่รีบมาอีก”
ในเมื่อเขาพูดสั่งแล้ว ธิชาไม่กล้าที่จะไม่ฟัง เพราะว่าเธอรู้ว่าการไม่เชื่อฟังนั้นผลลัพธ์เลวร้ายขนาดไหน
ธิชาค่อยๆเดินไปข้างหน้า นั่งข้างธาวินอย่างระมัดระวัง
ผู้ชายวางมือลงมาบนกระโปรงของเธอ ธิชาตกใจจนร้องออกมาเสียงเบา
เธอกดข้อมือของเขาไว้ ตอนที่ส่ายหน้าให้เขา ในสายตาเต็มไปด้วยความวิงวอน “อย่า อย่าทำต่อหน้าคนนอก.......”
ธาวินง้างมือขึ้นแล้วตบหน้าอย่างเสียงดัง
ธิชาถูกเขาตบกลิ้งลงไปกับพื้น
คนในห้องรับรองต่างก็ตกใจเล็กน้อย
ธาวินฐานะสูงส่ง กิจการและลูกน้องในมือยากที่จะนับไม่ถ้วน จากฐานะและประสบการณ์ของเขา ปกติแล้วอารมณ์ดีใจหรือโกรธมักไม่แสดงบนใบหน้า คนเหล่านี้ล้วนไม่เคยเห็นเขาทำร้ายผู้หญิงต่อหน้าผู้คน
มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนี้ ยังเรียกเขาว่าพี่วิน
ถ้าหากเดาไม่ผิด
หญิงสาวคนนี้น่าจะเป็นลูกสาวแท้ๆของแม่เลี้ยงเขา ปีนั้นผู้หญิงคนนั้นพาลูกติดคนหนึ่งแต่งเข้าตระกูลธนาภูวนัตถ์อย่างมีหน้ามีตา เป็นงานมงคลที่สร้างความครึกโครมทั่วเมือง
ธาวินเหมือนโมโหอย่างไร้เหตุ มือใหญ่จับผมของเธอไว้ก็ดึงเธอขึ้นมา
ริมฝีปากของเขาซีดขาว พูดเสียดสีอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ที่นั่งอยู่นี่ล้วนเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกับพี่วินของเธอ เธอจะกลัวอะไร? อายหรือว่าแกล้งทำเป็นสำรวมล่ะ? แสดงความกุลสตรีให้ใครดูเหรอ?”
ธิชาเบิกตากว้างอย่างตกใจ น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง
“อย่า พี่วินนะ ขอร้องพี่อย่า หนูเชื่อฟังที่สุดแล้วนะ คืนนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนพี่ โรงพยาบาลโทรมาเร่งหนูแล้ว เดือนนี้ยังไม่จ่ายค่ารักษา พวกเขาก็จะหยุดยาของแม่หนู.......”
หลังจากตระกูลธนาภูวนัตถ์เกิดเรื่อง แม่ของเธอถูกตรงพบมะเร็งตับ ธาวินนิสัยเปลี่ยนในชั่วค่ำคืน ไม่เพียงแค่ลำบากใจต่อหน้าคนมากมายตลอด ยังให้เธอเซ็นข้อตกลงน่าอับอายที่ให้คนรู้ไม่ได้
นอนกับเขาครั้งละห้าพัน ถูกตบหนึ่งครั้งห้าพัน ยังมีรายการอื่นๆอีกมากมาย ล้วนกำกับราคาอย่างชัดเจน ชำระทุกสิ้นเดือน
ถ้าเธอไม่ให้ความร่วมมือ ค่ารักษาของแม่และค่าเทอมของเธอก็จะไม่มีจ่าย
ธาวินปิดประตูแล้วก็ทรมานเธอเหมือนกับโรคจิต แต่สถานการณ์อย่างคืนนี้ ยังเป็นครั้งแรก
ธิชาถูกเขาทำให้ตกใจจนร้องไห้ไม่มีเสียง เหมือนกับนกกระทาตัวหนึ่ง ร้องขออย่างไร้หนทาง
........
เห็นได้ชัดว่าธาวินอารมณ์เสียอย่างมาก คนในเหตุการณ์ไม่กล้าห้ามปราม ต่างก็หาข้ออ้างออกจากห้องรับรอง แม้แต่บอดี้การ์ดของธาวินก็ถอนตัวออกไปข้างนอก
ประตูห้องรับรองปิดสนิท เหลือเพียงสองพี่น้องข้างใน
ธาวินดึงผมเธอข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งถอดซิปกางเกงออก
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ ล้วนไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเธอ
ธาวินทรมานเธอไปสองรอบ เต็มไปด้วยความโหดร้าย ทำจนเธอหมดสภาพ
เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พอใจ จึงกดตัวเธอไว้บนโซฟา
แต่ทว่าสายตาของเขามองลงไป จ้องสถานที่แดงบวมเจ็บเล็กน้อยตรงนั้น
เมื่อคืน.......เขาทำให้เธอเจ็บแล้ว
มาอีกหนึ่งรอบ เกรงว่าเธอคงต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว
ธิชาไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็ถูกเขาถีบลงไปอย่างแรง
ผู้ชายเหล่มองเธออย่างสูงส่งกว่า ยื่นมือดึงทิชชู่หลายแผ่นมาทำความสะอาดตัวเอง จากนั้นก็โยนไปที่ร่างเธออย่างรังเกียจ
เขาเม้มริมฝีปากบาง แววตาเต็มไปด้วยความโหดร้าย “ธิชา ฉันเมตตาต่อเธอมากพอแล้ว ให้เธอมีรายได้แสนกว่าทุกเดือน คนดังในโรงหญิงโสเภณียังแพงสู้เธอไม่ได้”
เขาดึงเงินสดหนาๆหนึ่งก้อนออกจากกระเป๋าตังค์ ไม่ได้นับเลย ก้มตัวเล็กน้อย ใช้เงินก้อนนั้นตบที่หน้าของเธออย่างไม่หนักไม่เบา
“ไม่ต้องแสดงท่าทางน้อยใจแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเองยังเป็นคุณหนูตระกูลธนาภูวนัตถ์ผู้มีศักดิ์ศรีอยู่เหรอ ทุกวันนี้เธอก็เป็นแค่โสเภณีใช้หนี้คนหนึ่งเท่านั้น”
........
ตีสาม
สุดท้ายธิชาก็ออกจากห้องรับรองได้
หลังจากที่ธาวินทำความอับอายต่อเธอแล้ว เธออาเจียนอยู่ในห้องน้ำครึ่งชั่วโมง
ตอนนี้เธอไม่เพียงแค่เจ็บคอ ขาทั้งสองข้างก็สั่นอย่างรุนแรง
นี่เป็นผลมาจากการชำเราในห้องรับรองของธาวินเมื่อคืนนี้ .....
เมื่อคืนเธอทำงานที่ในร้านกาแฟตรงห้ามโรงเรียน ตอนกลับมาก็เหนื่อยมากแล้ว กลับอย่างสนิท
ธาวินกลับมาดึกมาก พอกลับมาก็ผลักประตูห้องนอนเธอ ไม่พูดสักคำก็กดทับบนตัวเธอ
ธิชาหลับอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกเพียงแค่ถูกทับจนหายใจไม่ออก ลองขัดขืนอยู่สักพัก
ธาวินกลับไม่อยากพูดแม้แต่คำเดียว กดหลังของเธอไว้ เริ่มทรมานเธออีกอย่างไร้ความปรานี
ธิชาเจ็บมาก ร้องเสียงครวญครางครึ่งหลับครึ่งตื่น
ธาวินรู้สึกเพียงรำคาญ จึงใช้มือปิดปากเธอไว้
ทั้งหนักและรุนแรง ราวกับอยากทำให้เธอตายคามือ
ช่วงเช้าตอนที่ลืมตาอยู่ ธิชารู้สึกว่าขาสองข้างของตัวเองเหมือนหลังจากวิ่งมาราธอน เดินไม่ไหวไม่ว่า ปวดเมื่อยแทบตาย
เธออาบน้ำกินยาเสร็จก็หลับไปตื่นหนึ่ง แม้แต่คาบเรียนช่วงบ่ายก็ลุกไปเรียนไม่ไหว
ตอนออกจากบ้าน ฟ้าก็มืดมากแล้ว รถข้างทางก็โบกยากมากแล้ว เธออยากใช้แอปพลิเคชันเรียกรถ รอไปสักพักก็หาคนขับรถใกล้เคียงไม่ได้
ลมกระโชกมา ธิชาหนาวจนตัวสั่น มีเสียงกึกก้องสองครั้งดังขึ้นข้างหู
คล้ายกับเสียงปืน
ทำให้เธอตกใจ รีบหมุนตัวหลบอยู่ข้างกำแพง
จากนั้นก็เห็นภาพเลือดเย็นทารุณ
ชายเสื้อคลุมสีเขียวเข้มคนหนึ่งมือถือปืน ส่วนผู้ชายตรงหน้าเขาคืบคลานอยู่บนพื้น ถูกยิงที่ขา เลือดไหลไม่หยุด
ผู้ชายคนนั้นเจ็บจนร้องโอดโอย “คุณดนัยกฤต ขอร้องท่านปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่ได้ตั้งใจหักหลังท่าน ผมติดตามท่านนานมาหลายปี.......”
คำพูดเขายังไม่จบ กลับถูกผู้ชายยิงที่หัว
ธิชาเห็นสมองระเบิดกับตาเป็นครั้งแรก อดร้องออกมาไม่ได้ ตอนที่รีบเอามือปิดปาก ก็สายไปแล้ว......
ผู้ชายคนนั้นที่ถูกเรียกว่าคุณดนัยกฤตสายตาเหล่มาทางมุมกำแพง
ธิชาตัวสั่นสุดชีวิต พออยากหมุนตัววิ่งหนี กลับถูกลูกน้องสองคนจับไหล่ไว้ไปที่ข้างหน้าเขา
ภายใต้แสงจันทร์ ผู้ชายที่เหมือนดั่งปีศาจเหล่มองเธอที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ริมฝีปากบางเพงิบๆ “เอาเธอขึ้นรถฉัน”
ธิชาถูกลูกน้องคนหนึ่งส่งเข้าไป ส่วนอีกคนหนึ่งค่อนข้างลังเล พูดปรามด้วยเสียงเคร่งเครียด “คุณชายดนัย ผู้หญิงคนนี้เห็นท่านยิงปืน.......”
ผู้ชายสีหน้าเรียบเฉย พูดอย่างไม่แยแส “ฉันจัดการได้เอง”
ส่วนวินาทีนี้ ธิชาได้แค่หดตัวสั่นอยู่ในรถ เธอรู้ว่าตัวเองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น
ผู้ชายที่ยิงปืนคนนั้น บุคลิกไม่ธรรมดา แม้แต่ออร่าก็ไม่แพ้ธาวิน ต้องเป็นคนที่หาเรื่องด้วยไม่ได้แน่นอน
เธอรู้สึกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ตัวเองต้องถูกฆ่าปิดปากแน่ จึงรู้สึกหวาดกลัว ตัวสั่นระริกจนหยุดไม่ได้
ทำไมเธอถึงได้โชคร้ายขนาดนี้?
ออกจากบ้านแค่นี้ก็เจอคดีฆ่าคน
เธอยังไม่สามารถตายแบบนี้ได้เว้ย ถ้าเธอตายแล้วแม่จะทำยังไงล่ะ?
ธิชากัดฟัน กลัวจนจะร้องไห้ออกมาแล้ว
จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ขึ้นรถ ประตูรถถูกล็อกตาย เขายื่นมือแกะสายเสื้อคลุมของเธอ
ธิชาตะลึง เธอคิดว่าตัวเองจะถูกฆ่าปิดปาก ก่อนฆ่าปิดปากยังจะถูกคนแปลกหน้าเหยียดหยามเหรอ
ดนัยกฤตมองดูสายตาตื่นเต้นของหญิงสาว หัวเราะออกมาฉับพลัน “เธอชื่ออะไร เมื่อกี้เห็นอะไรบ้าง?”
ธิชาไม่กล้าพูดชื่อ พูดอย่างตัวสั่น “ฉันไม่เห็นอะไรเลย จริงๆ ฉันไม่เห็นอะไรเลย ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ขอร้องคุณอย่าฆ่าฉันเลย”
เขาเผยอริมฝีปาก “กลัวตายมากเหรอ ให้โอกาสเธอหนึ่งครั้ง ปรนนิบัติจนฉันพอใจ อาจจะไว้ชีวิตเธอก็ได้”