ตอน "ลงทัณฑ์(2)" 4
“ไอ้คนชั่ว!!”
นุดีด่าชายหนุ่มที่ขยับเข้ามานอนแนบชิดด้านหลังเธอ แขนกำยำข้างหนึ่งสอดใต้ซอกคอให้เธอหนุน ส่วนอีกข้างก็กอดเธอไว้
“มีแรงด่าแบบนี้ต้องโดนอีกสักยกสองยก หรือว่าตลอดทั้งวันจนถึงรุ่งเช้าพรุ่งนี้เลยดีไหม” กัดฟันพูดชิดข้างหูหอม เขาจับให้เธอหันมาเผชิญหน้ากัน ซึ่งสองสายตาจ้องลึกเข้าไปในแววตาของกันและกันนั้นแปรเปลี่ยนเหมือนหัวใจสองดวงที่กำลังแปรเปลี่ยนเช่นกัน
“ปล่อยฉัน ฉันเจ็บ” นุดีน้ำตาไหลเป็นทางยาวหยดใส่แขนแข็งแรง เธอขัดขืน ไม่ยอมให้ชายหนุ่มแตะต้อง แต่ร่างกายเปลือยเปล่ากลับเต้นระริกเมื่อถูกมือหนาสัมผัสลูบไล้ไปตามผิวหลังเนียน
“อย่าเกร็ง!!”
วัลลภนอนหงาย อุ้มร่างน้อยให้ขึ้นมานอนทับบนตัวของเขา ส่วนด้านล่างก็ถูกมือใหญ่จับความแข็งแกร่งสอดใส่ร่องเนื้อที่ยังมีเลือดบริสุทธิ์ไหลซึมให้ความชุ่มฉ่ำ
ท่าทางเงอะๆ งะๆ ของเธอกระตุ้นให้ชายมากประสบการณ์มีแรงกำลัง วัลลภจับมือน้อยสองข้างให้วางบนหน้าอก แล้วย้ายมือไปลูบบั้นท้าย รั้งสะโพกงอนไว้ ซึ่งเป็นเขาเองที่เด้งสะโพกใส่คนตัวบางจนทุกส่วนสัดบนตัวเธอสั่นคลอน
“ละ ลภ ฉะ ฉันไม่ไหวแล้ว” นุดีสะท้านเยือกเมื่อความเป็นชายอัดแน่นใส่ตัว เธอทนนั่งบนตัวชายหนุ่มไม่ไหวจึงโน้มตัวนอนทับแผ่นอกแข็งแกร่ง
“เธอเป็นของฉันแล้วนะนุดี” คนตัวโตลุกนั่งอุ้มให้เธอนอนลงบนเสื้อของเขาที่ปูเป็นที่นอน สองแขนกำยำสอดใต้ขาพับแล้วใช้มือทั้งสองข้างค้ำยันพื้นไม้ไผ่ขนาบข้างตัวเธอ สะโพกสอบก็อัดความเป็นชายใส่ช่อรักถี่เร็วขึ้น
เสียงใสครวญกระเส่าได้สร้างให้เสือร้ายคำรามเหมือนเจ้าป่าที่มีชัยชนะทำให้ผู้หญิงหยิ่งจองหองอวดดีได้ถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกันกับเขาที่ปลดปล่อยหลั่งน้ำทิพย์ในแก่นกายแข็งแกร่งลงสู่กลางใจสาวครั้งแล้วครั้งเล่า…
เสียงนกน้อยใหญ่และแมลงนานาชนิดร้องแข่งกันรับแสงอรุณยามเช้าที่สาดส่องลงมาจากท้องฟ้ากระทบต้นไม้สูงใหญ่ เลยลอดผ่านฝาไม้ไผ่เข้าไปกระทบผิวหน้าขาวซีด
ลมเย็นยามเช้าพัดเข้ามาจนทำให้หญิงสาวขดตัวเหมือนกิ้งกือเข้าหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดของชายหนุ่มที่นอนประกบแผ่นหลังของเธออยู่
“อยะ อย่าทำฉัน ฉันเจ็บ ฮืออ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” แม้แต่ยามหลับใหลก็ยังสะดุ้ง ตระหนกตกใจ หวาดกลัวกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“นุดี เธอเป็นอะไร”
เสียงสะอื้นไห้และมือน้อยหยิกข่วนตามแผ่นอกแข็งแกร่งนั่นทำให้วัลลภตื่น เขาสะลึมสะลือพลิกตัวขึ้นนอนทับร่างน้อย จับข้อมือสองข้างของเธอกางออก
“อยะ อย่านะ ฉันขอร้อง อย่าทำอะไรฉันเลย”
ในความฝันที่สมจริง นุดีละเมอนอนดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้คนตัวโต ดวงตาสองข้างหลับสนิทเผยให้เห็นน้ำใสคลอเบ้าไหลอาบหางตา เธอกรีดร้องเมื่อปีศาจจับแขนกระชากอย่างแรง ความกลัวทำให้หญิงสาวยกมือขึ้นตบตีดวงหน้าของอสูรร้าย
“ยัยบ้าเอ๊ย!! ลืมตามองหน้าฉันสิ!!”
วัลลภแปลงร่างเป็นคนดุร้ายอีกครั้งเมื่อถูกหญิงสาวตบหน้าทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ชายหนุ่มกัดฟันจนกรามปูด ลุกนั่งแล้วฉุดให้เธอลุกตามทั้งที่หญิงสาวยังไม่สติ
“โอ๊ยย!! ฉันเจ็บ”
นุดีปวดเมื่อยไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงจุดอ่อนไหว แม้ขยับในเวลาหลับลึก เธอก็ยังรู้สึกร้าวระบมไปทั้งสะโพกงอน เปลือกตาฉ่ำน้ำใสค่อยๆ ลืมกะพริบหลายครั้งเพื่อให้รับกับแสงสว่างของแดดยามเช้า
“โดนแค่นี้ถึงกับไข้แตกเลยนะ นี่ถ้าเจอพวกคนงานทั้งไร่คงได้ฝังเธอไว้ที่กระท่อมนี้แน่”
แม้จะใจหายวาบ แต่วัลลภก็ยังร้ายแสยะยิ้มเมื่อได้สำรวจร่องรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆ ตามแขนและขาได้อย่างชัดเจน ผมยาวถึงกลางหลังยุ่งเหยิง พวงแก้มงามบวมเป่งเขลอะไปด้วยคราบน้ำตาใหม่และเก่า
“มะ ไม่นะ นายอย่าให้พวกนั้นเข้ามานะ ฮืออ”
นุดีส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ต้องการถูกรุมทำร้ายให้อับอายมากกว่านี้แล้ว เพราะแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเพียงคนเดียวที่ทำกับเธอเหมือนสัตว์ เธอก็ไม่เหลืออะไรให้ภาคภูมิใจแล้ว
“ไม่คิดว่าผู้หญิงหยิ่งจองหองอย่างเธอจะกลัวเป็นด้วย”
วัลลภพูดถากถางสะใจที่ได้ทำให้หญิงสาวสูงส่งกลายเป็นโสเภณีกลางป่า
“ฉันไม่ไหวแล้ว นายปล่อยฉันไปเถอะนะ”
นุดีปกป้องตัวเองโดยการนั่งกอดเข่า ร้องไห้โฮเมื่อเห็นคนตัวใหญ่เปลือยเปล่าเหมือนเธอคลานเข้ามานั่งใกล้ จนเธอได้กลิ่นลมหายใจของเขา
“หึ! ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว”
วัลลภไม่เคยปรานีว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเจ็บ เขาผลักศีรษะเธออย่างแรงจนคนตัวน้อยที่ไร้กำลังวังชาล้มกลิ้งนอนหงายไม่เป็นท่า
“ฉันไม่มีแรงสู้นายแล้วนะ ปล่ยย ฮือออ” นุดีร้องหวีดๆ เมื่อคนตัวโตคลานเข้ามานั่งคร่อมบนตัวเธอ
“หยุดร้องได้แล้ว ถ้าขืนเธอแหกปากร้องแบบนี้ ฉันจะสั่งให้พวกคนงานเข้ามาจัดการกับเธอแน่”
ทำเสียงดังขู่ให้เธอกลัว แล้วเขาก็เอาเสื้อของตัวเองใส่ให้หญิงสาว ส่วนตัวเองก็ใส่กางเกงยีนส์เพียงตัวเดียว
“ฉันขอโทษนายก็ได้ที่ทำเรื่องไม่ดีกับนาย ฮืออ” เจ้าของร่างบางนอนนิ่ง น้ำตาก็ไหลพราก รีบจับมือเขาไว้เมื่อเห็นชายหนุ่มลุกขึ้นยืน
“นอนพักซะ”
คำพูดของเธอทำให้วัลลภเป่าลมที่แน่นอยู่ในอกออกทางปาก เขาทำเพียงแค่เอียงหน้ามองมือของตัวเองที่ถูกจองจำด้วยมือน้อย แล้วสะบัดออก
“นายจะไปไหน อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวนะ”
เมื่อเห็นวัลลภเดินออกจากกระท่อม นุดีก็ลุกขึ้น แม้จะเจ็บระบมทั้งตัวมากแค่ไหนก็ฝืนก้าวลงจากเตียง เดินงอตัวเข้าไปยืนดักหน้าชายหนุ่ม
“ถ้าเธออยู่แต่ในนี้ ไม่คิดหนีเวลาฉันไม่อยู่ เธอก็จะปลอดภัย”
คนตัวน้อยยืนโอนเอนไปมาทำให้วัลลภตกใจ รีบรวบร่างเธอขึ้นมาแนบอก
“ฉะ ฉันกลัว นายก็รู้”
นุดีไม่ยอมนอนลงที่เดิม แต่ก็ถูกชายหนุ่มกดให้นอนลง แล้วคนตัวโตก็ขึ้นมานอนกอดเธอไว้ ไออุ่นของกันและกันได้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับเขาและเธอ
“ไม่มีใครเข้ามาหรอกถ้าฉันไม่อนุญาต นอนพักซะ เดี๋ยวฉันกลับมา” วัลลภพูดชิดกระหม่อมน้อย เขากำลังสับสน ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องอ่อนโยนและอยากกอดปลอบขวัญเธออยู่ตลอด
เวลา
“นายอย่าให้ใครเข้ามาทำร้ายฉันนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องที่นายทำร้ายฉัน ฉันจะไม่ยอมบอกพ่อของฉันแน่ ฉะ ฉันสะ สัญ ยะ ญา”
พิษไข้รุนแรงขึ้นทุกขณะจนเนื้อตัวร้อนเป็นไฟเต้นไปตามเสียงสะอึกสะอื้นไห้พูดชิดแผ่นอกกว้าง
“ตัวเธอร้อนมาก นุดี เดี๋ยวฉันไปเอายามาให้กินนะ”
ไอร้อนจากร่างน้อยราวกับเป็นเปลวไฟทำให้วัลลภดันให้หญิงสาวออกจากอ้อมกอด ความรู้สึกสงสารวิ่งเข้ามาขัดกับใจที่ยังมีความแค้นทำให้วัลลภหลับตาครู่หนึ่ง แล้วลืมขึ้นมองดวงหน้าขาวซีด เขาแกะแขนของเธอออกจากเอวแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
“อย่าไปนะ”
นุดีครึ่งหลับครึ่งตื่น รับรู้เสมอว่าชายหนุ่มจะปล่อยให้เธออยู่ที่นี่คนเดียว จึงรีบซุกตัวเข้าหาคนตัวโต แขนเล็กที่กล้าๆ กลัวๆ ก็ยกพาดบนเอวสอบ กระชับโอบกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้ขยับตัวไปไหนได้…
