ตอน "ลงทัณฑ์" 3
วัลลภไม่ได้พูดเล่น เขาทำจริง ถอดเสื้อยืดออกทางหัวแล้วโยนใส่หน้าหญิงสาว เรียวปากหยักได้รูปแสยะยิ้มเมื่อเสื้อของตัวเองถูกเหวี่ยงกลับมาหา
“แกจะทำอะไรฉัน!!”
นุดีหน้าซีดหวาดกลัวเมื่อวัลลภคว้าเสื้อที่เธอโยนกลับไปให้ ซึ่งชายหนุ่มทำหน้าหื่นกระหายหิว ดมกลิ่นหอมของเธอจากเสื้อตัวเอง
“อย่าแกล้งทำเป็นเด็กไร้เดียงสา ไม่รู้อะไรหน่อยเลยยัยคุณหนูตีนแดง” วัลลภก้าวขึ้นเตียง เขายืนจังก้าตรงหน้าหญิงสาวแล้วเดินตามเธอที่เขยิบก้นถอยหลังหนีจนแผ่นหลังบางไปชนฝาไม้ไผ่
“ถ้าแกทำอะไรฉัน ฉันจะกลั้นใจตายให้ดู” นุดีพูดพร้อมทั้งกลั้นใจจนหน้าแดงตาแดง แต่ทำไปไม่ถึงวินาทีก็อดพ่นลมหายใจออกปากออกจมูกไม่ได้
“หึ!! ผู้หญิงจิตใจชั่วอย่างเธอไม่กล้าฆ่าตัวตายหรอก” วัลลภแสยะยิ้มเมื่อเห็นคุณหนูตีนแดงอ้าปากหายใจเข้าปอดพะงาบๆ
“นายจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันมีพ่อมีแม่นะ ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันสัญญาจะไม่ทำแบบนั่นกับนายอีกแล้ว”
นุดีเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นวิงวอนพลางจ้องหน้าเขา สรรพนามที่ใช้ก็ลื่นหูขึ้น แต่มองหน้าวัลลภได้ไม่นานก็ต้องรีบหลบสายตาสีเข้มที่เปลี่ยนเป็นแดงโรจน์ดุจตาของเสือร้าย จากที่ไม่เคยกลัวชายหนุ่ม แต่ในตอนนี้ เธอหวาดหวั่นจับใจ
“สายไปแล้ว คุณหนูตีนแดง วันนี้แหละ ฉันจะทำให้เธอรู้รสชาติของความเจ็บปวดและอับอายที่สุด” นอกจากคำรามเสียงขึงขัง เขาย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาว มือใหญ่จับข้อเท้ากระชากจนเธอนอนราบบนพื้นเตียง
“ฮืออ ไม่นะ นายลภ นายอย่าทำอะไรฉันนะ”
นุดีครางฮือ ดวงตาไหวระริกเบิกกว้างมองวัลลภกำลังปลดสายเข็มขัดออกจากกางเกง เธอส่ายหน้าปฏิเสธ พยายามเขยิบก้นถอยหลังหนี เท้าสองข้างก็เตะถีบให้หลุดพ้นจากการจองจำจากมือเพชฌฆาต
“ผู้หญิงนิสัยเสีย ชอบทำลายคนอื่น มันต้องเจอแบบนี้ถึงจะสำนึก” กัดฟันพูดพร้อมทั้งจับข้อมือสองข้างของเธอยกขึ้นเหนือศีรษะแล้วใช้สายเข็มขัดหนังชั้นดีมัดติดกับเสาไม้
“ฮืออ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้!! แกจะมัดฉันแบบนี้ไม่ได้นะ!! ฮืออ” เมื่อใช้ไม้นวมไม่ได้ผล นุดีก็ได้แต่ขัดขืนใช้เท้าที่เป็นอิสระเตะสะบัดถีบชายหนุ่ม
“หึ! เธอน่าจะเก็บแรงไว้ตอนที่เราสู้รบกันจริงๆ จะดีกว่านะ”
วัลลภพูดเสียงเรียบพร้อมทั้งจับขาสองข้างของนุดี แล้วใช้เสื้อยืดของตัวเองมัดรวบไว้จนแน่น
“ไอ้บ้า!! แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” ในตอนนี้ นุดีไม่สามารถขยับแขนและขาได้ แต่เธอยังมีปากร้ายกาจด่าทอเขาเสียๆ หายๆ ไม่ยอมหยุด
“อยากให้ฉันใช้ไอ้นี่อุดปากเธอตอนนี้ไหม”
วัลลภยืนเท้าสะเอว แววตาสีเข้มกระด้างจ้องคนตัวบางดิ้นเหมือนงูเหลือมเผือกบิดตัวเป็นเกลียว เขายักคิ้วให้เธอเมื่อได้สบสายตาไหวระริก ชี้บอกให้มองเป้ากางเกงของเขา
“กรี๊ดดด!! ไอ้คนทุเรศ!!” ถึงจะทำอะไรไม่ได้ แต่นุดีก็ยังปากไว เท้าสองข้างที่ถูกมัดยกขึ้นเตะและถีบหน้าขาของชายหนุ่ม
“ฉันจะให้เวลาเธออยู่กับตัวเองและทำใจในเรื่องที่จะเกิดขึ้น ทำตัวดีๆ ไว้นะ เผื่อฉันจะเห็นใจ แล้วไม่รุนแรงกับเธอ”
ชายหนุ่มหน้าโหดคว้าขาเธอไว้ ก่อนโยนอย่างแรงจนเธอกลิ้งไปนอนกลางเตียง เขาชี้หน้างามห้ามไม่ให้เธอด่า แล้วก้าวถอยหลังไปยืนคิดว่าจะจัดการกับผู้หญิงปากดีนิสัยต่ำอย่างไรดี
วัลลภหันซ้ายมองขวาไปรอบห้องแล้วนึกได้จึงเดินไปที่ประตู
“แกจะไปไหน!! อย่าทิ้งฉันไว้แบบนี้นะ!! กลับมาแก้มัดฉันเดี๋ยวนี้!! ไอ้ลภ!! ไอ้หน้าตัวเมีย ชอบรังแกผู้หญิง!!”
นุดียังไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเอง เธอด่าทอหยาบคายเมื่อวัลลภเดินออกจากกระท่อม
“นาย!! ออกมาทำไมครับ ไม่เล่นหนังสดให้พวกผมดูแล้วเหรอครับ”
เสียงร้องกรีดๆ จนแสบแก้วหูทำให้ไอ้สี่คนรีบพากันมายืนออตรงประตูกระท่อม
“วะ!! อดดูนายเล่นหนังสดเลยพวกเรา”
ไอ้ลูกน้องคนหนึ่งพูดพร้อมทั้งเอียงหัวไปด้านข้าง มองเข้าไปข้างในผ่านร่างใหญ่ที่ยืนเต็มประตูกระท่อม
“ผมอุตส่าห์ตั้งกล้องแล้วนะครับนาย”
ไอ้อีกคนก็หันไปมองโทรศัพท์ของมันที่เสียบอยู่ข้างฝาไม้ไผ่
“มึงมีไอ้นี่ไหม”
วัลลภตาแดงก่ำหันหลังไปมองหญิงสาวกึ่งเปลือยนอนดิ้นเหมือนกิ้งกืออยู่บนเตียง แล้วรีบปิดประตูทันทีเมื่อเห็นลูกน้องพากันชะเง้อคอมองเข้าไปในกระท่อม
“ยาบ้า!!” พวกมันทั้งสี่หน้าซีดเป็นไข่ต้ม หันมองตากันปริบๆ แล้วรีบส่ายหัวปฏิเสธว่า ‘ไม่มี’
“กูรู้ว่าพวกมึงเล่นกัน”
วัลลภหน้าเหี้ยม อยากจะยกตีนถีบพวกมันที่กล้าบอกว่าไม่ได้เล่น แล้วยกมือชี้หน้าหมายหัวพวกมันทั้งสี่ไว้ว่า
“เดี๋ยวกูจะคิดบัญชีกับพวกมึงที่เอายานรกเข้ามาในไร่ของกู”
“แหะๆ พวกผมกินเพื่อให้มีแรง มีกำลังวังชาทำงานครับ ไม่ได้กินเพราะติดมันซะหน่อย” มันพูดพร้อมกัน
“จัดการให้กูด้วย...”
“นะ นายจะกินเหรอครับ” เสียงดุดันของเจ้านายทำให้พวกมันกลัว เพราะรู้ว่าวัลลภเกลียดสิ่งเสพติด อุบายมุขแบบนี้
“มึงจะถามกูทำไมวะ รีบไปจัดการมาให้กูเดี๋ยวนี้ ถ้าห้านาที มึงยังไม่เอาของมาให้กู พวกมึงโดนตีนกูแน่!!”
วัลลภยกเท้าใส่ลูกน้องทั้งสี่ พลอยทำให้พวกมันรีบกระโดดหลบหนีไปคนละทิศละทาง
และไม่ถึงนาที ลูกน้องดูจะเป็นหัวโจกก็วิ่งมาหาเจ้านายแล้วยื่นสิ่งของที่ชายหนุ่มต้องการให้
“ผมบดใส่น้ำส้มกับโค้กให้ครับ ไม่แรงเท่าไร แต่ถ้ากินเป็นเม็ดแบบนี้ ผมรับรองว่า วันนี้จนถึงพรุ่งนี้ก็ยังมีแรงสู้ทำงานครับ...”
“มึงกลับไปทำงานได้แล้ว” วัลลภตาขวางเมื่อไอ้ลูกน้องยื่นเม็ดยาสีขาวให้ เขาสองจิตสองใจจะเอาดีหรือไม่เอา แต่ก็เลือกที่จะเอามาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์
“แล้วถ้ามีคนมาถามหานายล่ะครับ นายจะให้ผมบอกว่านายไปไหนครับ?” มันยิ้มเมื่อเห็นวัลลภจิบน้ำโค้ก ทำหน้าตาซื่อๆ ถาม เพราะรู้ว่าถ้ากลับไปที่นา มันต้องเจอคำถามจากผู้หญิงอีกคนที่จะถามหาเจ้านาย
“ไอ้ห่าเอ๊ย!! เรื่องแค่นี้มึงยังให้กูออกความคิดให้อีกเหรอวะ ไปไกลๆ ตีนกูเลยไป!!”
วัลลภจิบโค้กพร้อมทั้งเหลือบตามองลูกน้อง เมื่อเห็นมันเดินไปไกลแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปในกระท่อม...
