บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในยามค่ำคืน คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากสถานบันเทิง ที่เปิดร้านรอต้อนรับนักท่องราตรีทั้งชายและหญิง เพื่อให้มาผ่อนคลาย สนุกสนาน เฮฮาเพื่อคลายความทุกข์และหาความสุข อย่างหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์คนนี้ก็เหมือนกัน

"เบาๆ ยัยเนตรนั่นเหล้านะไม่ใช่น้ำเปล่า เดี๋ยวก็เมากันพอดี คอยิ่งอ่อนๆ อยู่" ภัสสรพูด พลางยื่นมือจับแก้วเหล้า ที่อยู่ในมือเพื่อนสาวลงมาวางไว้ที่เดิม

“ก็เพราะว่าอยากเมาไงเลยต้องกิน พอเมาจะได้จำอะไรไม่ได้ พอจำไม่ได้ก็จะไม่ต้องรู้สึกอะไรพอไม่รู้สึกอะไรจะได้ไม่ต้องเจ็บ”

“แล้วเป็นอะไรถึงอยากเมา ไหนลองเล่ามาให้ฟังหน่อยสิ” ภัสสรเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เพราะตั้งแต่เข้ามาในร้าน เพื่อนของเธอก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลย เอาแต่ยกแก้วเหล้าอย่างเดียว

“วันนี้ฉันกับพี่คิมไปกินข้าวด้วยกัน แล้วอยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงจากไหนก็ไม่รู้โผล่เข้ามาหอมแก้มพี่คิม เรียกพี่คิมที่รักอย่างนั้น ที่รักอย่างนี้ แถมจะชวนกันไปทำเรื่องอย่างว่าด้วย ที่สำคัญนะลูกศร ยัยนั่นมาหาว่าฉันท้องกับพี่คิม ก็เลยจับพี่คิมแต่งงาน และที่สำคัญไปอีกนะ พอฉันจะด่ายัยนั่น พี่คิมก็ดันปกป้องผู้หญิงคนนั้นอีก ฉันเสียใจอะลูกศร ฉันเจ็บตรงนี้” เนตรทรายพูดพร้อมกับเอามือชี้ที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง และหันไปบอกบาร์เทนเดอร์

“น้องคะ เอาเหมือนเดิมมาอีกสองแก้ว”

“สรุปก็คือแกหึงพี่คิมกับผู้หญิงคนนั้น และแกก็โกรธ ที่พี่คิมปกป้องผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะปกป้องแก” เนตรทรายพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกแก้ว โดยมีภัสสรนั่งถอนหายใจออกมาดังๆ กับอาการของเพื่อนรัก

“เนตรแกก็ต้องเข้าใจนะ ว่าก่อนหน้านั้นพี่คิมของแกเนี่ย เป็นเสือตัวพ่อ คาสโนว่าเรียกพี่ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า มันก็ไม่แปลกที่จะมีผู้หญิงเข้าหาเขา แกก็ต้องให้เวลาพี่คิมเขาปรับตัวบ้าง แกเข้าใจที่ฉันพูดมั้ย” เนตรทรายพยักหน้ารับ แต่อีกสักพักก็ส่ายหน้าไปมา

ภัสสรยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองทันทีแล้ววันนี้จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย

“ลูกศรฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“ไหวมั้ยแก ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย”

“ไหวๆ สบายมาก” คนบอกไหวแต่พอลุกขึ้นกับเซไปมาจนภัสสรต้องรีบจับแขนไว้

“ไหนบอกไหว ดื้อ”

“ไม่ดื้อ ไหวจริงๆ เดี๋ยวรีบไปรีบมานะ” เนตรทรายพยายามตั้งสติ สะบัดหน้าไปมาสองสามครั้งก่อนจะพาตัวเองเดินมาถึงห้องน้ำได้ก็แทบแย่

“นี่แก เมื่อกี้ฉันเห็นคุณคิมหันต์ ที่เป็นเจ้าของบริษัทเครื่องประดับมาเที่ยวที่นี่ด้วยแหละ ตัวจริงนี่หล่ออย่างกับเทพบุตร แต่เสียดายฉันเห็นเขาหิ้วผู้หญิงมาด้วย” ได้ยินประโยคนี้ มือที่กำลังจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา เป็นอันต้องชะงัก เปลี่ยนมาเป็นกำลูกบิดประตูห้องน้ำไว้แทน

“แฟนเขาหรือเปล่าแก ฉันได้ยินข่าวมาว่าเขากำลังจะแต่งงานกับน้องสาวบุญธรรมนี่”

“แต่ฉันว่าไม่น่าใช่ เพราะผู้หญิงที่คุณคิมหิ้วมานะ ทั้งเบียดทั้งเกาะแทบจะเข้าไปสิงในตัวคุณคิมอยู่แล้ว”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าสงสารว่าที่เจ้าสาวเนาะ ป่านนี้จะรู้หรือเปล่า ว่าว่าที่เจ้าบ่าวมาคั่วอยู่กับผู้หญิงอื่น ทั้งๆ ที่กำลังจะแต่งงานกัน” เนตรทรายนั่งลงบนโถชักโครกอย่างหมดแรง สองมือยกขึ้นปิดหน้าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ

ทำไมมันถึงได้เจ็บแบบนี้ ทำไมเธอถึงได้เจ็บคนเดียวอยู่แบบนี้ ทำไมเขาถึงทำอะไรไม่นึกจิตใจเธอบ้างเลย

เนตรทรายปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาเงียบๆ จนรู้สึกดีขึ้น ก่อนจะพาตัวเองออกมาจากห้องน้ำ ด้วยหัวใจที่เหี่ยวเฉา พ

อมาถึงปุ๊บ ก็จัดการกับแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าทันทีเหมือนกัน ขอเมาสักวันเถอะ เมาเพื่อลืมเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองวันนี้

“เอ้าๆ เบาๆ มาถึงก็กินเลย ไหวมั้ยเนี่ย” ภัสสรเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“ไหวสิ แค่นี้จิ๊บๆ ... ไปเต้นกันมั้ย ไปเป็นเพื่อนหน่อยลูกศร ปะ” พูดจบก็จับมือภัสสรให้เดินออกมาทันที

เนตรทรายปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้ล่องลอยไปกับเสียงเพลง ไม่อยากเอาสิ่งที่ได้ยินมาคิดให้ปวดหัว แต่ยิ่งพยายามไม่คิด คำพูดที่เธอได้ยินในห้องน้ำก็ยิ่งลอยเข้ามาในหู

ร่างบางเต้นไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้างเลยสักนิด แม้จะมีผู้ชายพยายามเข้ามาเต้นเบียดเสียด เพื่อต้องการทำความรู้จักกับเธอก็ตาม แต่เนตรทรายก็ไม่ได้สนใจ

จนกระทั่งสายตาของเธอ ไปสะดุดเข้ากับสายตาคมคู่หนึ่งที่มองมาที่เธอ ด้วยความไม่พอใจ โดยที่ข้างกายของผู้ชายคนนั้น มีผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่นั่งเบียดจนแทบจะขึ้นไปนั่งบนตักอยู่แล้ว

จากที่ไม่ได้สนใจผู้ชายที่เข้ามาเต้นใกล้ๆ ในตอนแรก เนตรทรายกลับหันไปให้ความสนใจผู้ชายคนนั้นแทน และไม่รู้เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป หรืออารมณ์ที่อยากจะเอาชนะ ทำให้เนตรทรายเอนตัวเข้าไปซบกับอกแกร่งนั้นทันทีอย่างออดอ้อน

ทำเอาผู้ชายคนที่เนตรทรายดึงเข้ามาเล่นเกมยั่วประสาท ถึงกับยิ้มกริ่มออกมาอย่างดีใจ เพราะผู้หญิงที่หมายปองไว้ในตอนแรก ก็มีท่าทีสนใจและเข้าหาเขาเช่นกัน ลำแขนแกร่งไม่รอช้ารีบยกขึ้นโอบรอบเอวบางไว้แทบจะทันที

“คนหรือนางฟ้าครับเนี่ยทำไมสวยจัง” เสียงทุ้มกระซิบลงข้างหูของเนตรทราย ทำให้หญิงสาวเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย

แต่พอเห็นผู้หญิงคนนั้น เริ่มจะลูบไล้ไปตามแผงอกของคิมหันต์ แถมริมฝีปากก็ยังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของคิมหันต์ อารมณ์น้อยใจและโกรธก็กลับเข้ามาอีกครั้ง

ได้! ในเมื่อทำอะไรไม่ไว้หน้าไม่สนใจความรู้สึกเธอแบบนี้ เธอก็จะทำแบบนั้นบางเหมือนกัน

“แล้วคุณคิดว่าเป็นคนหรือนางฟ้าล่ะคะ” เนตรทรายก็กระซิบข้างหูของชายหนุ่มเหมือนกัน ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าผู้ชายตรงหน้าเล่นอย่างยั่วยวน เลยถูกชายหนุ่มจับมือบางที่เริ่มจะซุกซนนั้นไว้ และจูบไปที่หลังมือหนักๆ หนึ่งทีอย่างชอบใจ

แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้สานสัมพันธ์อะไรมากไปกว่านี้ จู่ๆ คนในอ้อมกอดก็ถูกผู้ชายที่เข้ามาใหม่กระชากออกไปทันที

“เฮ้ย! คนนี้ของกู มึงอย่ามายุ่ง” ผู้ชายที่ถูกแย่งของถูกใจไป พูดขึ้นอย่างโมโหมองหน้าคิมหันต์อย่างเอาเรื่อง

“งั้นเหรอ มึงแน่ใจ” คิมหันต์ยกยิ้มมุมปากเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ แต่สายตาที่มองคนตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ

“พี่คิมปล่อยเนตรเดี๋ยวนี้เลยนะ” เนตรทรายพูดพร้อมกับ พยายามแกะมือคิมหันต์ออกจากมือของตัวเอง

“มึงปล่อยคนของกูเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่าหาว่ากูไม่เตือน” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับชี้หน้าคิมหันต์ให้ปล่อยมือเนตรทราย

“คิมคะ ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปเถอะค่ะ อย่าไปมีเรื่องกับคนพวกนี้เลย” ผู้หญิงที่มากับคิมหันต์พูดขึ้น พร้อมกับพยายามแกะมือของคิมหันต์ออกจากมือของเนตรทราย

“พี่คิมเนตรบอกให้ปล่อยยังไงคะ พี่กลับไปกับผู้หญิงของพี่เลย ไม่ต้องมายุ่งกับเนตร ปล่อย” เนตรทรายพูดเสียงห้วน ด้วยความโมโหสะบัดมือออกจากมือของคิมหันต์

จนคิมหันต์ต้องหันกลับมามองคนต้นเรื่องด้วยสายตาไม่พอใจ พูดเสียงลอดไรฟันด้วยความโกรธ

“ไม่ปล่อย และก็อย่าดื้อกับพี่ พี่ไม่ชอบ... ส่วนมึง ผู้หญิงคนนี้คือว่าที่เมียกู รู้แบบนี้แล้วคนที่ควรไปคือมึงมากกว่ากูนะ” คิมหันต์หันกลับมาพูด กับผู้ชายที่กำมือแน่นตรงหน้าด้วยความสะใจอย่างคนเหนือกว่า

“ปั๊ดโธ่โว้ย เสียอารมณ์ฉิบหาย” ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงหนีออกมาทันที ที่รู้ว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นมีเจ้าของแล้ว

“คิมคะ...”

“คุณกลับไปก่อนนะ วันนี้ผมมีธุระต้องจัดการ” คิมหันต์หันมาพูดกับผู้หญิงที่ตัวเองควงมา ก่อนจะดึงเนตรทรายให้เดินตามออกมา

“คิมคะ คิม นี่คุณจะทิ้งฉันแบบนี้ไม่ได้นะ” หญิงสาวที่ถูกทิ้งกลางทางร้องเรียกตามหลังชายหนุ่มไป ตั้งท่าจะเดินตามออกไปแต่ถูกภัสสรเข้ามาดักหน้าไว้

“นี่เธอ ไม่ต้องตามเขาไปหรอก ไม่ได้ยินหรือไง ว่าผู้หญิงคนนั้นคือเมียของพี่คิม ปล่อยให้ผัวเมียเขาไปปรับความเข้าใจกันดีกว่า คนนอกอย่างเธออย่าเข้าไปยุ่งเลย” พูดจบภัสสรก็เดินหนีออกไปจากตรงนั้นทันที

รถหรูวิ่งบนท้องถนนที่มืดมิดในยามค่ำคืนด้วยความเร็วสูง ตามอารมณ์ของเจ้าของรถในยามนี้ บรรยากาศภายในรถตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบ ต่างคนก็ต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งนั้น

ก่อนที่รถจะหยุดลงที่ลานจอดรถของคอนโดหรู ร่างสูงเปิดประตูรถลงไปทันที ก่อนที่จะเดินมากระชากประตูรถอีกฝังเปิดออก

“ลงมา” บอกอีกคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่คิดจะขยับลงมาจากรถอย่างเคืองๆ

“เนตร! พี่บอกให้ลงมา” เสียงเรียกเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง ด้วยอารมณ์โมโห กับความดื้อของคนตรงหน้า

“จะกลับบ้าน” ตอบออกมาสั้นๆ พร้อมกับสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

และนั่นจึงทำให้ความอดทนของคนตัวสูงหมดลง มือหนาคว้าแขนเล็กลากให้ร่างบางลงมาจากรถ ก่อนจะช้อนร่างบางอุ้มพาดบ่าเดินดุ่มๆ เข้าไปในลิฟต์ โดยมีเสียงร้องโวยวายของเนตรทรายดังขึ้นเป็นระยะตลอดทาง

“พี่คิม ปล่อยสิ พี่คิมเนตรบอกให้ปล่อย พี่คิมไม่มีสิทธิ์มาทำกับเนตรแบบนี้นะ” สองมือบางทุบรัวๆ ไปที่แผ่นหลังนั้นเต็มแรง แต่มีหรือที่แรงเท่ามดของเนตรทรายจะทำให้คิมหันต์สะทกสะท้าน ยังคงอุ้มคนที่โวยวายเดินเข้าห้องไปหน้าตาเฉย

ก่อนจะโยนเนตรทรายลงบนเตียงนอน จนคนที่ถูกโยนถึงกลับร้องออกมาอย่างตกใจ ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความโกรธ

“ทำบ้าอะไรเนี่ย โยนลงมาได้เจ็บนะ”

“ดี! เจ็บแล้วจะได้จำ ว่าอย่าทำอะไรบ้าๆ เหมือนตอนที่อยู่ที่ผับอีก”

“ทำอะไร เนตรทำอะไรเหรอคะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เนตรทรายเชิดหน้าตอบออกมาอย่างต้องยั่วประสาทคิมหันต์ และก็ดูจะได้ผล เมื่อเห็นคนตรงหน้าขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน

“เนตร” คิมหันต์เรียกเนตรทรายเสียงเรียบ อย่างข่มอารมณ์ไว้เต็มที่

ยิ่งคิดไปถึงตอนที่ผู้ชายคนนั้นจูบที่มือของเนตรทราย อารมณ์โมโหก็ยิ่งทวีขึ้น ทำไมถึงได้ปล่อยตัวให้ผู้ชายมาลวนลามง่ายๆ แบบนี้ได้นะ

ส่วนเนตรทรายก็โมโหและน้อยใจไม่แพ้กัน เวลาอยู่กับเธอเขาก็เอาแต่นิ่งเงียบต่อว่าเธอ แต่เวลาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น พูดจาดีอ่อนหวานไม่เหมือนอยู่กับเธอสักนิด เธอเป็นคนเธอมีความรู้สึกเธอก็เจ็บและน้อยใจเสียใจเป็นนะ

“พี่คิมไม่มีสิทธิ์มาห้ามเนตร เนตรอยากจะกอด จูบ หรือทำอะไรที่มากกว่านั้น กับผู้ชายคนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ที่เนตรอยากทำ เข้าใจมั้ยคะ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ที่ทำให้เนตรทรายพูดออกไปแบบนั้น

อาจจะด้วยอารมณ์โกรธและน้อยใจ ที่เห็นคิมหันต์มากับผู้หญิงคนอื่น หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป ทำให้สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนหาย ทำให้เผลอพูดอะไรออกมา โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา

และก็ดูว่าเหมือนจะได้ผล เพราะสิ่งที่พูดออกมานั้นมันทำให้คนฟังถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที

ได้! ไม่มีสิทธิ์ใช่มั้ย อยากมากใช่มั้ย ไอ้กอดจูบเนี่ย เดี๋ยวเขานี่แหละจะสนองให้เอง จะได้ไม่ต้องออกไปหาผู้ชายอื่นให้เสียเวลา

“แน่ใจเหรอที่บอกว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ เดี๋ยวก็ได้รู้ว่าพี่มีสิทธิ์มากน้อยแค่ไหน” ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าช้าๆ

ด้วยสัญชาตญาณ ทำให้เนตรทรายขยับถอยหลังหนีไปทีละก้าวเช่นเดียวกัน

“พี่คิมจะทำอะไร” คิมหันต์ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก

มันยิ่งทำให้เนตรทรายกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คิมหันต์ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากราชสีห์ที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ และเธอก็คงจะเป็นเหยื่อให้เขาขย้ำเป็นแน่ และไม่ต้องรอนาน ราชสีห์ก็จัดการเหยื่อตรงหน้าทันที

แขนแกร่งดึงร่างบางเข้าประชิดตัว พร้อมกับประกบริมฝีปากบนเรียวปากของเนตรทราย อย่างรุนแรงจาบจ้วงและเอาแต่ใจ แม้จะมีแรงดิ้นขัดขืนจากคนในอ้อมกอด ก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

มือหนาสอดเข้าไปที่ท้ายทอย บังคับให้ใบหน้าสวยอยู่นิ่งๆ ลิ้นสากรุกไล่ซอกซอนเข้าไปในโพรงปากชื้น ไล่ตวัดรัดรึงเรียวลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาอย่างหนักหน่วง และรุกเร้าขึ้นเรื่อยๆ

ทำเอาคนที่เพิ่งจะเสียจูบแรกไปหมาดๆ แทบจะขาดใจตายเสียให้ได้ ถ้าขืนชายหนุ่มยังไม่ปล่อยให้เธอได้สูดเอาอากาศเข้าปอดไปบ้าง

เมื่อได้สติมือบางเริ่มทุบตีลำแขนแกร่งนั้นเป็นพัลวันอีกครั้ง เพราะมวลสารในท้องเริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ รับรู้ได้ถึงของเหลวบางอย่างที่กำลังไล่ขึ้นมา จวนเจียนจะถึงลำคออยู่รำไร

เนตรทรายใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักคิมหันต์ออกทันที ก่อนจะปล่อยของเหลวออกจากปากอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ ทรุดตัวลงนั่งทันทีอย่างหมดแรง พร้อมกับอาการปวดหัวที่เข้ามาจู่โจมอย่างติดๆ

ร่างบางนั่งพิงหัวเตียงมองชายหนุ่ม ที่กำลังเช็ดทำความสะอาดพื้นห้องด้วยใบหน้าบึ้งตึง แม้จะรู้สึกผิด ที่ทำให้เขาต้องมาลำบากเช็ดถูทำความสะอาดอาเจียนของเธอก็เถอะ แต่ก็ถือซะว่าเป็นการทำโทษ ที่เขาจูบเธอก็แล้วกัน

คิมหันต์เช็ดถูทำความสะอาดเรียบร้อย แล้วก็เข้าไปจัดการชำระล้างร่างกายของตัวเองบ้าง ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง คนที่นั่งอยู่ที่เตียงเมื่อสักครู่ตอนนี้นอนหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ชายหนุ่มยืนมองคนที่หลับ ด้วยความรู้สึกที่ตัวเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ว่ารู้สึกยังไง ตอนอยู่ที่ผับและเห็นเนตรทรายอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนอื่น เขายอมรับเลยว่าไม่พอใจ ยิ่งเห็นผู้ชายคนนั้นจูบมือเนตรทรายยิ่งโมโห และยิ่งเนตรทรายพูดว่าอยากจะไปกอด ไปจูบ หรือไปทำอะไรกับผู้ชายคนอื่น มันก็ยิ่งโมโหหนักเข้าไปอีก ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร หรือว่ามันจะเป็นความรู้สึกของพี่ที่เป็นห่วงน้องสาว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel