6 ความอ่อนแอ
ร่างของมูมู่ถูกนำออกไปแล้ว ตอนนี้ลู่ฟานนั่งอยู่ในห้อง โดยที่แม่ของฝ่ายหญิงกำลังร้องห่มร้องไห้และต่อว่าเขาอย่างหนักพร้อมกับเรียกร้องเงินจากเขาถึง5,000,000หยวน ทั้งๆที่สินสอด3,000,000หยวนและโฉนดที่ดินบนเกาะส่วนตัวในฮ่องกง ลู่ฟานก็ยกให้ครอบครัวของฝ่ายหญิงไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทำเอาแม่ของลี่ฟานไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงได้โต้แย้งและมีปากเสียงกัน เมื่อตกลงกันไม่ได้ แม่ของลู่ฟานจึงเรียกทนายส่วนตัวมา ซึ่งที่แม่ยอมไม่ได้นั้นเพราะลู่ฟานไม่ได้มีความผิดอะไรที่จะต้องรับผิดชอบมากมายขนาดนี้จึงจะให้เงินชดเชยแค่ 800,000 หยวนเท่านั้น แต่ถ้าถึงขั้นเรียกทนายขึ้นศาลฟ้องร้อง แม่ฝ่ายหญิงจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่หยวนเดียว เมื่อแม่ของลู่ฟานขู่ไปแบบนี้ แม่ของฝ่ายหญิงจึงยอมรับ เงิน800,000หยวนแล้วจากไป
"คนอะไรห่วงเงินจนหน้ามืด ลูกนอนอยู่ในห้องดับจิตแทนที่จะไปดูลูกเป็นครั้งสุดท้าย ที่ยืนร้องห่มร้องไห้เป็นชั่วโมงเนี่ยพูดออกมามีแต่เรื่องเงินทั้งนั้นเลย" แม่ของลู่ฟานบ่น
"ช่างเถอะครับ " ลู่ฟานพูด
"ลูกโอเคนะ" แม่นั่งลงข้างๆลู่ฟานและจับมือของเขาไว้
"ไม่ครับ" ลู่ฟานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม่จึงกอดเขาเอาไว้แล้วลูบหลังเบาๆ "แม่รู้ว่าลูกเสียใจ เรื่องแบบนี้มันกะทันหันเกินไป ลูกคงตั้งตัวไม่ทัน เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากพบเจอมีพบก็ต้องมีจาก ฟ้าคงกำหนดมาให้ลูกกับมูมู่คู่กันแค่นี้ ทำใจยอมรับเถอะนะ "
ลู่ฟานน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเร็วเกินไปมาก เกินกว่าที่ใจจะรับไหว ทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเขาขนาดนี้ ลู่ฟานรำพึงรำพันอยู่ในใจ
คอนโดซ่วนหย่วนใจกลางเมือง ห้องที่นี่ถือว่ามีระดับและราคาสูงเอาการ ซึ่งจินเซี่ยพักอยู่ที่นี่ ในห้องนั่งเล่น ในระหว่างที่เหม่ยลีนั่งกินบะหมี่และดูทีวีอยู่นั้น ถัดไปที่ห้องน้ำ จินเซี่ยก็กำลังเอาแหวนออกจากนิ้วอย่างยากลำบาก "แหวนบ้านี่ทำไมถอดยากขนาดนี้นะ" เธอบ่นหลังจากพยายามอยู่หลายนาที ใช้ทุกวิธีตามที่อินเตอร์เน็ตบอก แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งถอดนิ้วก็ยิ่งอักเสบและบวมมันก็ยิ่งถอดไม่ออกไปอีก เธอจึงเช็ดมือและเดินออกมา เหม่ยลี่หันไปมองหน้าที่สิ้นหวังของเพื่อนก็รู้ว่าไม่สำเร็จ "พยายามจนนิ้วบวมขนาดนี้แล้วยังไม่ออกอีกเหรอ"
จินเซี่ยส่ายหัวหน้าม่อยและทิ้งตัวลงข้างๆเหม่ยลี
" ชั้นจะทำยังไงดี"
"ใจเย็นๆ รอให้นิ้วหายบวมแล้วค่อยหาวิธีถอดใหม่ก็ได้ "
"แล้วชั้นจะไปทำงานได้ยังไงล่ะแบบเนี้ย"
"นั่นสิ เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ต้องเป็นที่สะดุดตาผู้คนแน่ๆ งั้นช่วงนี้เธอใส่ถุงมือไปก่อนไหม เพราะเวลาเธอทำงานก็ต้องใส่ถุงมืออยู่แล้วนี่"
"ใส่ถุงมือมันจะไม่เป็นจุดสนใจมากกว่าเหรอแล้วเวลาว่างเวลากินข้าวล่ะ จะทำไง"
"อืมมมม นั่นก็ยากไปอ่ะเน๊อะ งั้นเอางี้ ถ้าใครถามเธอก็บอกว่า เธอแต่งงานแล้ว จบ ! "
"แต่งงานเนี่ยนะ แฟนยังไม่มีเลย จะแต่งงานกับใครล่ะหะ"
"แต่งหลอกๆไง อ้างว่าแฟนอยู่ต่างประเทศหรือนอกโลกอะไรก็ได้ คนฉลาดอย่างเธอทำไมเรื่องแค่นี้ถึงคิดไม่ได้หะ"
"เธอก็รู้ว่าเรื่องแฟนมันเป็นเรื่องที่เซ็นซิทีฟสำหรับชั้นน่ะ"
"เสี่ยวจินเพื่อนรัก งั้นเธอเลือกเอาแล้วกันว่าระหว่างใส่ถุงมือออกไปไหนมาไหนจนคนมองว่าเธอเพี้ยน กับ โกหกว่าแต่งงานแล้ว เธอจะเลือกอะไร นี่ฟังชั้นนะ คนนอกที่ไม่รู้จักเธอน่ะ ไม่มีใครมาสนใจแหวนของเธอไม่มีใครสนใจว่าเธอจะโสดหรือมีสามีแล้วหรอก จะมีก็แค่คนในโรงพยาบาลเท่านั้นแหละ และส่วนมากคนที่รู้จักเธอก็มีไม่กี่คน ระหว่างตอบคำถามแค่ไม่กี่คนกับใส่ถุงมือ ออกไปอะไรมันเป็นจุดน่าสนใจมากกว่ากัน "
