บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

ยามเช้าวันจันทร์แรกของสัปดาห์ เส้นทางจราจรในกรุงเทพฯ ที่ปกติก็หนาแน่นอยู่แล้ว ยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อมีอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิท เสียงดีเจรายงานข่าวจราจรผ่านวิทยุยิ่งทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะหน้าถึงกับขมวดคิ้วด้วยความรำคาญใจ

“จะติดอะไรนักหนานะ... ขอแค่ไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชก็เท่านั้นเอง” หญิงสาวบ่นออกมาเสียงเบา พลางก้มลงดูนาฬิกาข้อมือของเธอ ซึ่งบอกเวลา 7.30 น. เข้าไปแล้ว

“บ่นเป็นคนแก่ไปได้ รถมันก็ติดแบบนี้ทุกวัน” ชายสูงอายุที่ทำหน้าที่ขับรถพูดล้อเลียนเบาๆ

“แหม...เนยต้องรีบไปทำงานนะคะ เมื่อวานก็ไปสายทีนึงแล้ว ที่สำคัญคุณพ่อไม่ต้องทำงานแล้วนี่คะ” เนยตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

พ่อของเนยเป็นข้าราชการที่เพิ่งปลดเกษียณเมื่อปีที่ผ่านมา และในช่วงนี้เขามักมีเวลาว่างพอจะทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต รวมถึงการขับรถไปส่งลูกสาวสุดที่รักที่สถานีรถไฟฟ้า ห่างจากบ้านไม่ถึง 5 กิโลเมตร แต่วันนี้การจราจรกลับหยุดนิ่งเนื่องจากมีเหตุคนปีนขึ้นไปบนอาคารที่ทำงานของสถานีตำรวจพระโขนง ทำให้มีผู้คนมุงดูและการจราจรติดขัดอย่างหนัก

“โห...แบบนี้เนยไปทำงานไม่ทันแน่เลยค่ะ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ดีกว่า” หญิงสาวเริ่มกังวลกับเวลาที่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอมีนัดสำคัญกับลูกค้าช่วงเช้าด้วย

“จะเอางั้นเหรอ?” พ่อของเธอถาม พลางปลดล็อคประตูรถให้

“ไปก่อนนะคะ คุณพ่อ” เนยกล่าวพร้อมยกมือไหว้ ก่อนจะลงจากรถและโบกเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

การนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงไม่ถึง 5 นาที เนยก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช เธอโดดลงจากรถพร้อมยื่นเงิน 20 บาทให้กับคนขับ แม้จะเป็นราคาที่สูงสำหรับระยะทางแค่ร้อยเมตรกว่าๆ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเวลาที่ประหยัดได้

เนยรีบเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้า หยิบบัตรโดยสารรายเดือนออกมาและสอดมันเข้าสู่ช่องทางเดินเข้าอย่างรวดเร็ว เธอเหลือบมองนาฬิกาข้อมือด้วยความวิตก การไปทำงานสายเป็นวันที่สองในสัปดาห์ไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอมีนัดสำคัญกับลูกค้าตอน 8 โมงเช้า หัวหน้างานของเธอคงไม่พอใจนักหากเธอไปสายอีกครั้ง

เพียงสามนาที รถไฟฟ้าก็เคลื่อนเข้าสู่ชานชลา เนยยืนรอจนรถไฟจอดสนิทก่อนจะก้าวขึ้นไปข้างในอย่างเร่งรีบ เธอมองหาที่นั่งริมสุดของเก้าอี้ที่ว่างอยู่เพียงไม่กี่ตัว แม้จะไม่ค่อยชอบนั่งติดกับใคร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนักในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้

เมื่อรถไฟเคลื่อนขบวนอีกครั้ง เนยลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดในใจว่าเธอคงไปทันนัดลูกค้าสำคัญเช้านี้อย่างแน่นอน

“เนย!” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องรับรองของบริษัทชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันไปตามเสียง

“อ้าว! แพร สวัสดีจ้ะ” เนยทักทายเพื่อนสาวซึ่งกำลังเดินตรงเข้ามาหาเธออย่างรีบร้อน

“สวัสดีอะไรล่ะ มานี่เลย แม่คุณ!” แพร เพื่อนสาวผมสั้นซอยเข้ารูป รีบดึงแขนของเนยให้เดินตามอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรเหรอ?” เนยพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทีจริงจังเกินเหตุของเพื่อน

“ยังจะมาถามอีก วันนี้เธอมาสายอีกแล้วนะ!” แพรขมวดคิ้ว ส่งสายตาดุใส่เนยที่ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้นัก

“ก็รถมันติดนี่นา มีคนบ้าปีนตึกสถานีตำรวจพระโขนงเลยทำให้ฉันมาสายน่ะ...แต่ก็แค่ 10 นาทีเองนะ” เนยยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ พลางอธิบายให้เพื่อนฟัง

“ฉันไม่ว่านะ แต่คนที่จะว่าน่ะ...”

“นางสาวอมลวัทน์ ภานิชกุล!” เสียงดุของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังแพร ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้ง

“นั่นไง คนที่จะว่าเธอน่ะ มาแล้ว!”

แพรกระซิบเบาๆ พลางส่งสายตาเตือนเพื่อนว่าระเบิดลูกใหญ่กำลังจะลง เนยหันไปมองก็พบกับพี่เหมย หญิงร่างท้วม ผิวขาว กำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“แหม...ฉันขอตัวไปกู้ระเบิดก่อนนะจ๊ะ”

เนยหันไปกระซิบกับแพร พร้อมทำหน้าทะเล้น ก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาพี่เหมย

“สวัสดีค่ะ พี่เหมย” เนยกล่าวทักทายพร้อมส่งยิ้มหวานอย่างประจบ

“ไม่ต้องมายิ้มแบบนี้เลย ตามฉันมาเดี๋ยวนี้” พี่เหมยเอ่ยเสียงแข็งดักทาง ก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้องทำงาน เนยหันไปยิ้มแหยๆ ให้แพร ก่อนจะตามหลังเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ

“พี่เหมยมีอะไรกับเนยหรือคะ?” เนยถามอย่างเกรงๆ ทันทีที่เข้าไปในห้องทำงาน หญิงสาวร่างท้วมยืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ

“ยังจะถามอีกเหรอ? นี่เธอมาสายเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์แล้วนะ แถมวันนี้เธอยังมีนัดสำคัญกับลูกค้า แล้วเธอยังมาสายอีก!” พี่เหมยต่อว่าด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สะท้อนความอ่อนใจ

“ก็...ถึงเนยจะมาสาย แต่เนยก็คุยกับลูกค้าทันนะคะ แถมเขายังสมัครบัตรเครดิตกับเนยด้วย”

เนยพยายามแก้ตัวเสียงอ่อน เพราะแม้จะมาสาย แต่เธอก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจสมัครบัตรกับเธอได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มยอดขายให้ทีม

“เพราะแบบนั้นฉันถึงไม่อยากจะลงโทษเธอ แต่การที่เธอมาสายจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับพนักงานคนอื่นน่ะสิ... เฮ้อ ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ อมลวัทน์” พี่เหมยถอนหายใจยาว น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงกว่าตอนแรก

“เนยไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะคะ เพียงแต่ว่า...”

“เอาล่ะ ไม่ต้องอธิบายเหตุผลร้อยแปดของเธอหรอก ฉันเห็นเธอมาสายทีไรก็มีเหตุขัดข้องทุกที เอาเป็นว่าคราวหน้าอย่ามาสายแบบนี้อีก เพราะมันส่งผลต่อการประเมินสิ้นปี ถ้าเธออยากเลื่อนตำแหน่งเป็น Senior แต่ยังมาสายบ่อยๆ แบบนี้ หัวหน้าคนอื่นคงไม่มองเธอในทางที่ดี เข้าใจไหม?”

พี่เหมยโบกมือไปมาอย่างไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเนยอีก ก่อนจะเตือนเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“รับทราบแล้วค่ะ พี่นภกานต์” เนยตอบเสียงใส พร้อมส่งยิ้มประจบเล็กน้อย จากนั้นก็โค้งศีรษะให้เบาๆ แล้วเดินออกจากห้องทำงาน พี่เหมยมองตามด้วยสายตาอ่อนใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel