บทที่ 4 ตัวตายตัวแทน 1.3
“ลูกหว้าจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ นะคะ”
ลลิลพูดอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาวางปากกาลงบนเอกสาร เอนแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้ทรงสูง ปรายตามองร่างเล็กที่ยืนก้มหน้านิ่งอย่างยิ้มหยัน
“เท่าไหร่?”
“สามหมื่นบาทค่ะ”
“จะเอาเงินไปทำไม?”
“อ้อจำเป็นต้องใช้เงินค่ะ”
“ต้องใช้เงินเหรอ?...ใช้เรื่องอะไรตั้งสามหมื่น?”
“คือว่า...คือว่าอ้อเค้าสมัครเรียนภาษาอังกฤษไว้นะคะ ก็เลยต้องเอาไปจ่ายค่าเรียนภาษาค่ะ”
“ค่าเรียนภาษาอะไรตั้งสามหมื่น ค่าเรียนฉันว่าไม่น่าจะเกินหมื่นสามนะ”
“ค่าเรียนภาษาอังกฤษแค่หนึ่งหมื่นสองพันบาทค่ะ ที่เหลือลูกหว้าจะพาแม่ไปหาหมอค่ะ พักหลังนี้แม่ไม่ค่อยสบาย” ลลิลหาข้อแก้ต่างได้อย่างหวุดหวิด รัฐภาคย์มองนักโทษสาวกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เธอรู้หรือเปล่าว่าการที่เธอมาขอเงินฉัน ต้องแลกกับอะไร?” เขาเยาะเย้ยหญิงสาวตรงจุดและจี้ใจดำ
“ระ...รู้ค่ะ” ลลิลตอบเสียงสั่นๆ ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแต่พยายามสกัดกลั้นไว้เต็มกำลัง
“ถ้ารู้ก็เดินเข้ามาหาฉันสิ มาทำหน้าที่ของเธอ อยากได้เงินไม่ใช่เหรอ?”
ลลิลอดสูยิ่งนักที่ได้ยินคำนี้ แต่นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอได้มาซึ่งเงิน...เงินที่จะนำไปรักษาตัวหลานชายเพียงคนเดียว หญิงสาวทิ้งความกระดากอายไว้ด้านหลังเช่นทุกครั้ง วางเศษถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ ก้าวเข้ามาหาบุรุษที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ทรุดกายลงนั่งที่ตักกว้างของเขา ลำแขนบางโอบกอดลำคอหนา โน้มดวงหน้าสวยเข้าใกล้ แนบริมฝีปากบางบดทับริมฝีปากหนาได้รูป
แรงเคล้าเคลียที่นุ่มนวล ไรฟันซี่เล็กๆ ที่ขบกัดกลีบปากของเขาคล้ายกับทักทาย ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเล็กนุ่ม ตวัดไล้กับลิ้นหนาอุ่นร้อน เกี่ยวรัดดูดดึงลิ้นหนาอย่างชำนิชำนาญ ดวงหน้าหวานแดงเรื่อผละออกจากใบหน้าเข้มเพียงนิด ปลดกระดุมเสื้อของเขาออกทีละเม็ดๆ จนกระทั่งสาบเสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดออกจากกัน มองเห็นเสื้อกล้ามที่เขาสวมใส่ทับไว้ด้านใน นิ้วเล็กๆ สัมผัสกับตุ่มไตที่ขึ้นรับนิ้วมือ ออกแรงบดคลึงผ่านเสื้อกล้าม ใช้มืออีกข้างรั้งชายเสื้อกล้ามขึ้นสูงจนกระทั่งมองเห็นยอดอกสีน้ำตาลของเขา
ปากบางที่อุ่นซ่านทักทายกับยอดอกแกร่ง กัดเบาๆ ขบเม้มนิดๆ ใช้ปลายลิ้นตวัดไปมาพร้อมกับดูดกลืน ทำแบบเดียวกันกับอกแกร่งทั้งสองข้าง เรียกเสียงครางฮือให้กับเขาได้ไม่น้อย ริมฝีปากเลื่อนต่ำลงไปตามหน้าท้องแข็งแกร่งที่ขึ้นเป็นลอน ไม่ลืมที่จะตวัดปลายลิ้นลากไล้ตามไปด้วย มือนุ่มทั้งสองข้างเริ่มปลดตะขอกางเกง ก่อนจะเลื่อนลงมากองอยู่ที่ปลายเท้า โดยมีเขาอำนวยความสะดวกให้ ด้วยการยกสะโพกเหนือเก้าอี้
ลมหายใจของเขาสะดุด หัวใจเต้นถี่รัว ความอุ่นที่เพิ่มระดับเป็นความร้อนเร่าจากอุ้งปากของลลิล มันทำให้ร่างกายของเขาแทบจะมอดไหม้ ริมฝีปากของคนที่เขาแสนเกลียด สร้างความเสียวซ่านและความทุกข์ทรมานให้กับชายหนุ่มเหลือเกิน เพราะเธอกำลังกลืนกินความแข็งแกร่งเข้าไปในปาก หากแต่เธอไม่รีบร้อน ใช้ปลายลิ้นเล็กๆ สัมผัสกับปลายสุดของสิ่งนั้น ตวัดไปมารอบๆ จนเขาแทบจะตกเก้าอี้ ร่างกายสั่นขนลุกซู่ สะโพกหนายกขึ้นสูงอย่างเชื้อชวนไม่รู้ตัว
มือใหญ่จับที่เรือนผมของหญิงสาวลูบไปมา บางครั้งจิกด้วยอารมณ์ที่เสียวสยิว ดวงตาของชายหนุ่มหลับพริ้ม ปากร้องครางครวญกระเส่า สูดลมหายใจเข้าปอดราวกับว่าออกซิเจนที่อยู่ในร่างกายนั้นมีน้อยเต็มที่ มวลสารต่างๆ ที่สะสมในกาย กำลังจะระเหยออกจากร่าง ออกทางปากที่เขาเผยอปลดปล่อยเสียงครางอย่างไม่มีอั้น
“โอ๊ะ.....”
เขาสูดปากร้องอืออาซี้ดซ้าดราวกับจะขาดใจ ยามที่เธอเคลื่อนไหวใบหน้าตามจังหวะขึ้นลง โพรงปากนุ่มคับแน่นไปด้วยความยิ่งใหญ่ที่เธอครอบครอง สยบความร้ายกาจของชายร่างใหญ่ให้ไหม้เกรียมด้วยรสของเสน่หา ปลุกปั่นชายหนุ่มให้จมดิ่งกับความต้องการ
แก้มทั้งสองข้างของลลิลตอบลงเล็กน้อย เมื่อเธอกำลังควบคุมจังหวะในการกลืนกินให้สม่ำเสมอ ในขณะที่มือจับโคนความแข็งแกร่งไว้มั่น รูดขึ้นรูดลงไปตามจังหวะของปากที่ขยับเขยื้อนไม่หยุด เพิ่มความกระสันให้กับรัฐภาคย์มากเป็นเท่าทวี ปากหนาที่เคยด่าทอด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ บัดนี้สั่นระริก ยิ่งเขาก้มใบหน้ามองการกระทำของเธอด้วยแล้ว พระเจ้า...เขาร้องเรียกหาพระเจ้าทันที เพราะมันเป็นภาพที่ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เห็น เขาใจสั่น เลือดที่ไหลเวียนในร่างกาย กลับกลายเป็นเม็ดไฟเม็ดจิ๋ววิ่งวนหมุนเวียนแทนกระแสเลือด ร่างกายของเขารวมทั้งอวัยวะทุกส่วนตีกระเพื่อมเป็นเปลวไฟโหมไหม้ร่างกาย
“ลูกหว้า...ดีเหลือเกิน...โอ๊ะ...”
เขาออกปากชมปล่อยเสียงครางออกมาไม่เป็นภาษา ลลิลเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นกว่าเดิม พยายามกลืนกินความอลังการงานสร้างของบุรุษเข้าไปให้ลึกที่สุด แต่ทว่าดูเหมือนมันจะเข้าไปได้เพียงครึ่ง เธอจำเป็นต้องใช้มือช่วยเคลื่อนไหวอีกแรงเหมือนเคย รัฐภาคย์จะรู้ตัวหรือไม่ว่าเสียงครางที่โหยหวนปานขาดใจนี้ ดังเหมือนกับกระบือที่กำลังถูกเชือดในโรงเลี้ยงสัตว์
ลลิลคายสิ่งที่เธอกลืนกินออกมาจากโพรงปาก ใช้ปลายลิ้นแทะเล็มไปทั่วส่วนปลาย มือบางที่กอบกุมโคนของสิ่งนั้นขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างเร็วรัว ในขณะที่ลิ้นของหญิงสาวทำงานอยู่ที่เดิม เท่านั้นเองรัฐภาคย์คิดว่าตัวเองกำลังจะชีวาวาย ใจเต้นถี่รัวยิ่งกว่ากลองชุด หายใจไม่ทั่วท้อง มือหนาอีกข้างจับที่เท้าแขนไว้มั่น อีกข้างจับขยุ้มที่ศีรษะของเธอ ทรมาน...ร่างกายท่อนล่างของเขาเสียวกระสันจนทนไม่ไหว ความรู้สึกตึงเครียดกัดกินไปทั่วร่าง รุนแรงสุดจะประมาณ
หญิงสาวครอบกลืนสิ่งนั้นอีกครั้ง ขยับปากขึ้นลงอย่างถี่เร็ว แก้มทั้งสองข้างตอบเพราะการดึงดูดอมกลืน มือบางเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของปากขึ้นลง สะท้านทรวง เร่าร้อนและหฤหรรษ์ เธอควบคุมร่างกายของชายหนุ่มให้สยบอยู่แทบเท้าและหวังว่าสักวันเธอจะสยบหัวใจของเขา แม้ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม
“โอ๊ะ.....”
ความตึงเครียดทั้งหลายทั้งมวล ความทุกข์ทรมานที่ฝังไปทั่วร่าง ความต้องการที่มีมากเหลือนับคณา ถูกปลดปล่อยออกมาจากความแข็งแกร่ง เป็นสายธาราหยาดนที เสียงครางยาวโหยหวนเป็นทางยาว ร่างกายเกร็งกระตุก ปากห่อเสียวกระสันที่กลางใจ ลามเป็นไฟเผาไหม้ทุ่งโล่งไปที่ท้องน้อย เสียวสะท้านอย่างหนักหน่วงที่ความแข็งขึง จุดที่หญิงสาวยังคงขยับกลืนกินสายธาราทุกหยาดหยดอย่างไม่รังเกียจ...เต็มใจเป็นที่สุด
ร่างของหญิงสาวถูกยกขึ้นไปวางบนโต๊ะทันที ดันร่างกายให้นอนราบไปบนโต๊ะชายกระโปรงถูกถลกขึ้นเหนือเอว กางเกงชั้นในถูกรูดลงมากองที่ปลายเท้า เสื้อเชิ้ตถูกร่นขึ้นเหนือทรวงอก พร้อมกับบราตัวสวย รัฐภาคย์โน้มใบหน้าดื่มด่ำกับดอกปทุมถันอย่างรีบร้อน ราวกับว่ามันจะละลายหายไปต่อหน้า เขาดื่มกินเล้าโลมปทุมถันด้วยปลายลิ้นสากร้อน สะบัดพลิ้วไปมาสร้างความปั่นป่วนในกาย สะท้านไหวในเพลิงอารมณ์