บทที่ 5 หึง 1.1
ร่างของกัญติญาถูกกระชากอย่างแรง เธอพยายามเอาตัวรอดจากเงื้อมือของราชสีห์ที่โกรธจัด ไม่ว่าจะเป็นหมัดหรือว่าเท้า กัญติญาพยายามสาดใส่ร่างของรัฐศาสตร์ แรงโกรธที่ถูกผู้หญิงตบหน้ามีมากกว่าความเจ็บปวดที่กัญติญาทำร้าย เขายังคงเดินนิ่งและลากร่างของเธอเข้าไปภายในห้องนอน เมื่อกัญติญารู้ว่าเขาจะลงโทษเธอยังไงจึงพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากมือของเขา เธอสามารถสะบัดหลุดออกในที่สุดและรีบวิ่งไปที่ประตูห้องนอนทันที แต่วิ่งไปไม่กี่ก้าวเขาก็เข้ามาถึงตัวเธอ กัญติญาจึงหันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะใช้กำปั้นกระแทกที่กึ่งกลางจมูกของเขาสองครั้ง จนเลือดไหลออกมาจากจมูก
“โอ๊ย!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจากที่เธอกระแทกกำปั้นตรงกลางจมูกยังไม่ทันจางหาย กำปั้นบางแต่แสนหนักของเธอก็กระแทกเข้าที่หน้าท้องแข็งแกร่งของเขาสองครั้ง ก่อนจะถีบเขาออกไปห่างจากตัวของเธอ ร่างของรัฐศาสตร์ล้มลงอยู่ที่พื้นโดยที่เขาไม่ได้ทันตั้งตัว
“ฤทธิ์มากนักนะ” รัฐศาสตร์พูดเสียงลอดไรฟันก่อนจะเดินไปกดปุ่มล๊อคเพื่อไม่ให้ประตูด้านหน้าเปิดออกได้ กัญติญาจึงหมดทางหนีไปจากห้องนั้นได้ ถ้าไม่กดปุ่มคลายล๊อคเสียก่อน
รัฐศาสตร์เดินเข้ามาหาร่างของกัญติญาที่กำลังง่วนกับการเปิดประตู มือหนาจับที่หัวไหล่เธอไว้แน่นพร้อมกับยึดเสื้อยืดพอดีตัวของเธอทางด้านหลัง จากนั้นกระชากจนขาดเป็นสองส่วน ด้านบนของร่างกายเธอจึงเหลือเพียงบราตัวเดียวเท่านั้น
“ว้าย!!..” กัญติญาร้องเสียงหลงเมื่อเสื้อของเธอถูกกระชากด้วยมือของเขา เท่านั้นยังไม่พอรัฐศาสตร์จับเรียวแขนของเธอทั้งสองข้างไขว้ไว้ที่ด้านหลัง ใช้เสื้อของเธอที่ขาดติดมือมามัดที่ข้อมือบาง ใช้ผ้าอีกชิ้นหนึ่งปิดที่เรียวปากของเธอ ร่างของกัญติญาจึงหมดสิ้นหนทางต่อสู้ เพราะตอนนี้เธอเหลือเพียงเท้าที่จะป้องกันตัวเท่านั้น รัฐศาสตร์เหมือนรู้ความคิดของเธอ เขาจึงจับเธอพาดไปที่บ่ากว้างของเขา จับมั่นที่เรียวขาเรียวทั้งสองข้าง จนขยับไม่ได้
ร่างของกัญติญาถูกโยนลงบนเตียงอย่างแรง มือที่ถูกไขว้ไว้ที่ด้านหลังแถมโดนมัดเสียแน่นหนา ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนแนวขาอ่อนทั้งสองข้างก็ถูกเขาทุบเบาะๆ เพื่อตัดทอนกำลัง ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างของเธอไร้เรี่ยวแรงต่อสู้
“เธอจะต้องได้รับโทษที่เธอทำไว้กับฉัน วันนี้เธอจะต้องจดจำไปชั่วชีวิตแน่นอน” กางเกงตัวสวยของเธอถูกถอดออกจากร่างกายตามด้วยอันเดอร์แวร์ โดยกัญติญาไม่ทีทางต่อสู้ได้เลย เธอไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตน
“เธอเตรียมตัวรอรับโทษจากฉันได้เลย” เขาพูดจบพร้อมกับลงโทษให้เธอรู้สำนึกว่าอย่าบังอาจมาทำร้ายคนอย่างเขา ถ้าเขาเจ็บเธอจะต้องเจ็บยิ่งกว่า และมันก็เป็นอย่างที่เขาตั้งใจไว้จริงๆ
“อี๊ดดดดดดดดด..” เสียงกรีดร้องที่ไม่สามารถดังออกมาได้เพราะเธอถูกเสื้อที่เขากระชากติดมือมาอุดไว้ที่ปาก ความเจ็บปวดที่แสนทุกข์ทรมานที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน น้ำตาของเธอรินไหลออกมาไม่ขาดสาย
ร่างกำยำเริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่แทรกเข้ามาในกลีบกุหลาบของเธอ ในภาวะที่เธอยังไม่พร้อมทำให้ร่างกายของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด กลีบกุหลาบที่ไร้ซึ่งน้ำหวานมาชโลมให้ชุ่มฉ่ำ ร่างทั้งร่างเจ็บปวดจนไม่อาจทานทนได้ มีเพียงน้ำตาที่รินไหลออกมาบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น
“โอ้ว...” เขาคำรามครางเสียงดัง ยามที่กระชั้นร่างกายสาดใส่ร่างสาวด้วยความรุนแรงและสะใจ กลีบสาวที่ไร้ซึ้งน้ำหวานยามที่เสือกกายเข้าหาแต่ละครั้ง มันเสียวแทบขาดใจ คับแน่นจนเขาเจ็บร้าวไปทั่วกายแกร่ง แต่นั่นมันคือความสุขอย่างหนึ่งที่รัฐศาสตร์ไม่เคยพบเจอ เขายังคงคับเคลื่อนร่างกายต่อไป ไม่นำพาเสียงร้องครางที่ดังก้องในลำคอสาว ไม่นำพาน้ำตาที่ไหลหยดลงมาทางหางตา เขาสนใจเพียงแต่ว่า ได้มองเห็นความร้าวรานใจ ความเจ็บปวดใจของเธอเท่านั้น
ขาเรียวสวยถูกแยกออกให้มากขึ้นกว่าเดิม กว้างพอที่จะทำให้เขากระชั้นกายได้อย่างล้ำลึกและเพิ่มความแรงได้อย่างถนัด โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกกายอัดเข้าไปแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น เร็วรี่และถี่ยิบ
“อื้อ...อื้อ” เสียงครางที่ไม่สามารถเปล่งออกมาได้ยังคงก้องอยู่ในลำคอ เธอเจ็บปวดกับการกระทำของเขาในครั้งนี้เหลือเกิน เจ็บจนเธอไม่คิดว่าตนเองจะทนต่อไปได้ เขาออกแรงโถมกายอย่างบ้าคลั่ง ราวกับพายุร้ายที่สาดซัดชายฝั่ง อานุภาพรุนแรงทำร้ายล้างถึงขีดสุด ร่างสาวสั่นสะท้านตามแรงรักที่มีกำลังแรงสูง
“มิโกะ...โอ้ว” เสียงคำรามยังคงดังกระหึ่ม เสียงนั้นอัดแน่นไปด้วยความทรมานที่มาพร้อมกับความสุขใจยามที่ได้เคลื่อนไหวบนร่างกายอวบอิ่มของกัญติญา แต่สาวเจ้านั่นเล่ามีความรู้สึกที่ต่างกันราวฟ้ากับดิน
ทรวงอกอวบลูกใหญ่ถูกมือแข็งแรงทั้งบีบและขยำ จนเธอระบมไปหมด เธอรู้สึกเหมือนกับว่า มันกำลังหลุดออกมาจากร่างกาย ปลายถันสีสวยกำลังเผชิญความเจ็บไม่ต่างกันเลย ถูกปลายเล็บที่ยาวเล็กน้อยของเขาจิกลงไปเต็มแรง ก่อนที่สิ่งนั้นจะถูกดึงรั้งด้วยปลายนิ้ว และถูกดีดสะบัดอีกที
“อื้อ...อื้อ” เธอยังคงครางเจ็บที่ตอนนี้มีความกระสันว่านเดินทางเข้ามาปะปนไปด้วย เมื่อเขาผ่อนจังหวะการกระชั้นลง มือใหญ่ที่ขยำเปลี่ยนมาเป็นเคล้นคลึง ปลายนิ้วที่ดีดสะบัดปลายถันเปลี่ยนมาเป็นหมุน ปากหนาอ้าอมจุดที่ปลายนิ้วมือทำงานอยู่ ดูดกลืนโลมเลียอย่างสำราญ โบกสะบัดจนร่างสามสั่นสะท้าน
น้ำหวานถูกผลิตแทรกซึมออกมาจากผนังเนื้อด้านใน ความคล่องตัวในการกระชั้นร่างกายเข้าใส่จึงมีมากขึ้น และแน่นอนความมันที่เกินบรรยายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
“โอ้ว พระเจ้า มันสุดยอดเลย” รัฐศาสตร์เงยหน้าจากเต้าทรวงเปียกชื้น ปล่อยเสียงครางและคำพูดที่เขาไม่เคยเปล่งออกมาขณะที่กำลังบรรเลงเพลงกาม กัญติญาเป็นคนแรกที่ทำให้เขาเกิดความบ้าคลั่ง เกิดความปั่นป่วนในช่องท้อง ลามไปถึงหัวใจที่เริ่มจะแปรปรวนไปทุกนาที
“อื้อ...อือ” ความเจ็บที่ทุเลาเบาบางลงไปได้ไม่กี่นาที บัดนี้มันวกกลับมาหาเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว ขาทั้งซ้ายขวาของกัญติญาถูกมือใหญ่รวบเข้าหากัน ก่อนจะกำรอบข้อเท้าทั้งสองข้างไว้เพียงมือเดียว ก่อนจะโย้ขาคู่นั้นไปข้างหน้าจับขาของเธอให้แยกออกจากกัน วางหัวเข่าขนาบศีรษะทั้งซ้ายขวาของเธอ การที่เขาทำเช่นนี้ทำให้เขาต้องเลื่อนลำตัวตามไปด้วย
“โอ้ว...โอ้ว” เสียงแห่งความกระสันถูกขับออกมาจากปากของรัฐศาสตร์ยามที่กระแทกอัดลงไปในกลีบกุหลาบงามที่ลอยขึ้นสูงเป็นแนวตั้งฉาก ความหนักหน่วง ความแรงและความเร็วทำให้กลีบสาวช้ำบวม เจ็บจากการกระโจนจ้วงที่ไม่ผ่อนกำลังนี้เหลือคณา ความเสียวสะท้านที่อาบไปทั่งร่างสาวเมื่อครู่ ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สาวใต้ร่างรับรู้ก็คือ ความโหดร้าย ป่าเถื่อนของบุรุษรูปงามคนนี้เท่านั้น
เวลาเคลื่อนตัวผ่านไปอย่างเชื่องช้า ราวกับเวลากำลังกลั่นแกล้งเธอก็ไม่ปาน บทลงโทษครั้งแล้วครั้งเล่ายังคงดำเนินผ่านไปด้วยความเร่าร้อนหากไม่ถึงเส้นชัย คำหยุดคงไม่มีในความรู้สึกของผู้ชายที่ชื่อ รัฐศาสตร์ อัครธนากุล
กัญติญาร้องไห้แทบจะเป็นสายเลือดเพราะความเจ็บระบมกับสิ่งที่เกิดขึ้น บทลงโทษของเขาทำให้เธอจดจำไม่มีวันลืมจริงๆ เขายังคงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง แรงถาโถมที่เขาสาดใส่อย่างแรงอย่างไม่กลัวเธอเจ็บปวด เขาทำตามอารมณ์และจินตนาการที่อยู่ในใจของเขา เสียงสะอื้นและกรีดร้องผ่านเสื้อที่ปิดเรียวปากของเธอ ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาหาสนใจไม่ยังคงเคลื่อนไหวบนร่างของเธออย่างไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งได้ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดใส่ร่างสาว
รัฐศาสตร์นอนหอบหายใจแรงอยู่ข้างกายเปลือยเปล่าของเธอ หลังจากเสพสมครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น เขาตะแคงหันร่างมาหาเธอที่นอนร้องไห้อยู่ มือหนาไต่ไปตามแนวลำแขนของเธอที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและรอยเขียวจ้ำกระจายอยู่เต็มไปทั่ว
“ฉันจะไม่ฆ่าไอ้เคนจิมัน..แต่ฉันจะไล่มันลงเรือแทน และต่อไปนี้ห้ามติดต่อกับมันอีกไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ถ้าฉันรู้เธอเจอหนักกว่านี้แน่ แต่ถ้าเธอคิดหนี พ่อของไอ้เคนจิมันจะต้องหัวใจวายเพราะลูกชายมันแน่นอน” รัฐศาสตร์ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย แต่ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากเตียงเขาปลดเสื้อที่มัดข้อมือและเรียวปากของเธอให้เป็นอิสระ และดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายให้
กัญติญานอนร้องไห้กับการกระทำของเขา ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเธอแบบนี้ เคนจิโร่ทำร้ายเธอทั้งคำพูดและร่างกายเป็นบางครั้ง แต่เธอสามารถทนได้เพราะรักเขาและนึกถึงทางาดะบิดาของเคนจิโร่ที่มีบุญคุณกับเธออย่างใหญ่หลวง แต่สำหรับรัฐศาสตร์เธอเองไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทนและทนไปเพื่ออะไร หญิงสาวนอนร้องไห้จนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและเจ็บปวด นอนเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเพื่อต่อสู้กับเขาในวันพรุ่งนี้
รัฐศาสตร์เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดลำลอง เขาเดินมาหยุดนิ่งที่ข้างเตียง ยืนมองร่างที่หลับใหลของเธอ ใบหน้านวลยังคงมีหยาดน้ำตาแห้งกรังติดอยู่ เสียงสะอื้นดังออกมาเป็นระยะ เขาบอกตัวเองไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากระทำลงไปกับเธอเพราะเหตุใด แต่ที่แน่ๆ คือเขาหวง ไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน ยิ่งเป็นเคนจิโร่ด้วยแล้ว ความหวงของเขามากเป็นเท่าทวีคูณ รัฐศาสตร์เดินออกไปจากห้องนอนทันที เพื่อจัดการบางอย่างให้เรียบร้อย