บท
ตั้งค่า

5. ขอหย่า

“เช่นนั้นพี่จะไปเป็นเพื่อนนะเจ้าคะ”

“ขอบคุณพี่เสี่ยวจู คงมิใช่เรื่องยากหรอกแค่ไปส่งจดหมายหย่าเอง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น นางยิ้มสดใสส่งให้ เสี่ยวจูยิ้มตามก่อนจะหันไปถอนหญ้าช่วยอีกแรง

สายของวันใหม่ สตรีสองนางยืนอยู่ที่หน้าจวนใหญ่ ซึ่งนานแล้วที่จิวซูไม่ได้มาเหยียบที่นี่ตั้งแต่แต่งงาน นางไม่รู้ด้วยซ้ำเหตุใดถึงถูกผลักไสจากสามี และวันนี้ก็ถึงเวลาที่จะมาขออิสระภาพจากเขาแล้ว

“มือเย็นเฉียบเชียว กลัวหรือเจ้าคะ”

“ใจมันหวั่นๆ อย่างไรมิรู้ เกรงว่าเขาจะไม่ยอม” เสียงสั่นเปล่งออกมา ทำเอาพี่เลี้ยงถึงกับอดขันมิได้

“หากกลัวเช่นนั้นพี่เข้าไปคนเดียวก็ได้เจ้าค่ะ คุณหนูนั่งรอแถวนี้แล้วกัน” ว่าแล้วเสี่ยวจูก็ดึงเอาจดหมายหย่ามาถือเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในจวนโดยไม่ฟังเสียงท้วงเลย

จิวซูเดินเตร่ไปมาอยู่บริเวณหน้าจวน และมัวแต่มองเข้าไปด้านในจึงไม่ได้สังเกตว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลัง และยิ่งไปกว่านั้นตัวนางก็ลอยขึ้นเหนือพื้น

“ว๊าย!..ปล่อยข้าลงนะ ท่านเป็นใครกัน” นางร้องเสียงหลงพร้อมกับยกมือทุบตีไหล่แกร่ง แต่กลิ่นบางอย่างมันก็ทำให้นางสงบลง พร้อมกับเสียงทุ้มของเขา

“หึ! ห่างกันแค่เดือนเดียวเจ้าก็ลืมสามีแล้วหรือ” กั่วหลิงเอ่ยขึ้น ทำเอาใจดวงน้อยวูบไหวทันที นางดันตัวเพื่อมองว่าใช่คนที่คิดหรือไม่ พลันหัวใจก็เต้นรัวเมื่อเห็นใบหน้าชัด

จิวซูกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไม่คิดว่าจะพบเจออีกฝ่ายที่นี่ โชคชะตาช่างเล่นตลกยิ่งนัก ทั้งที่เก็บตัวมานานนับเดือนแล้วแท้ๆ “เขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน” นึกในใจแล้วก็มองใบหน้านี้นิ่ง ก่อนจะตาโตเมื่ออีกฝ่ายแบกเข้าไปในจวน ทำให้นางรีบดิ้นหนีเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของเขา แต่ไหนเลยแรงเพียงนิดจะสู้ได้

“นายท่าน! ปล่อยข้าลงนะ!!” นางแผดเสียงดังลั่น

“ข้าตามหาเจ้ามานาน คิดหรือว่าข้าจะยอมปล่อย จากนี้จะไม่ยอมให้หนีไปไหนอีกแล้วเด็กน้อย” เสียงหนักแน่นเปล่งออกมา มันทำให้ผู้ที่อยู่บนบ่าถึงกับนิ่งไป แต่ก็ดิ้นรนอีกครั้งเพราะเกรงว่าจะต้องเจอกับสามี เกรงว่าเขาจะไม่ยอมหย่าให้หากรู้ว่านางเคยหลับนอนกับบุรุษอื่น มิหนำซ้ำอาจจะถูกท่านโหวส่งเข้าคุกหลวงโทษฐานคบชู้ก็เป็นได้

“นายท่านกลับมาพอดี คนของฮูหยินเอาจดหมายหย่ามายื่นให้ขอรับ รอแค่นายท่านประทับตราเท่านั้น” พ่อบ้านรายงานทันที กั่วหลิงเผยยิ้มดีใจออกมา ก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กลงยืน แต่ยังคงรั้งแขนนางให้เดินตามมา

ซึ่งยามนี้จิวซูเหมือนคนไร้วิญญาณ เพราะสิ่งที่ได้ยินมันหมายถึงคนตัวโตที่แบกนางเข้ามาคือสามีที่ทอดทิ้งมานานหลายปี ใจดวงน้อยเริ่มสับสนและตื่นกลัว เกรงว่าเขาจะรู้ว่านางเป็นใคร ดีที่เสี่ยวจูไม่ได้อยู่ตรงนี้

แต่!..ชีวิตของนางมิได้โชคดีมาตั้งแต่ต้น เมื่อพี่เลี้ยงร้องเรียกผู้เป็นนายซึ่งยืนอยู่ข้างบุรุษตัวสูง เสี่ยวจูอดเป็นห่วงมิได้เกรงว่าจะถูกเขารังแก

“คุณหนู ไหนว่าจะรออยู่ข้างนอกเจ้าคะ” ใบหน้าหวานหันควับ พร้อมกับยกนิ้วส่งสัญญาณไม่ให้อีกฝ่ายเอ่ยอันใด เพราะคนตัวโตกำลังประทับรอยนิ้วมือลงกระดาษ ทำให้เขาหยุดชะงักการกระทำ แล้วหันมามองทั้งคู่สลับไปมา

“ใครคือคุณหนูเจ้า” เสียงเข้มเปล่งออกมา พร้อมกับสายตาคมดุ แต่สตรีทั้งสองนางก็ไม่เอ่ยสิ่งใด “ข้าถามว่าใครคือคุณหนูเจ้า!!” เจ้าของจวนตวาดเสียงดัง เสี่ยวจูถึงกับรนรานแต่ก็ไม่เอ่ยบอกสิ่งใด นางเกรงว่าจะมีผลต่อผู้เป็นนายที่ยืนอยู่ข้างกายท่านโหว

“หึ!..มิยอมเอ่ย เช่นนั้นก็เอาตัวนางไปโบยเสีย” ออกคำสั่งเสียงเหี้ยม ทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างกายสะบัดมือออกทันที ก่อนจะวิ่งมาขวางคนของกั่วหลิงเอาไว้

“หยุดนะ!! ห้ามแตะต้องนาง ญาติที่เหลืออยู่ของข้าก็มีแค่พี่เสี่ยวจู ข้าไม่ยอมให้ใครทำร้ายอีกเด็ดขาด” สตรีตัวน้อยตวาดเสียงลั่น พร้อมกับกอดพี่เลี้ยงเอาไว้แน่น

กั่วหลิงชะงักยืนนิ่ง ไม่คิดว่าสตรีที่เขาตามหา แท้จริงแล้วจะเป็นฮูหยินของตนที่เขาทอดทิ้งมานานหลายปี ร่างสูงเดินเข้ามาหมายจะรั้งนางให้ลุกขึ้น แต่คนตัวเล็กกลับปัดมันออก ก่อนจะก่นด่าเขาอีกรอบ

“อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ท่านรังเกียจข้ามิใช่หรือ รีบประทับจดหมายหย่าเสีย เราจะได้รีบออกไปจากที่นี่” เสียงสั่นเครือดังขึ้นมา พร้อมกับหยดน้ำใสไหลริน ทำเอาใจแกร่งของท่านโหวถึงกับวูบไหว

เขายืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะรั้งเอวคอดให้ลุก แล้วแบกนางขึ้นบ่าอีกรอบ “ฉีกจดหมายหย่าทิ้งเสีย พ่อบ้านหาห้องพักให้สาวใช้ฮูหยินข้าด้วย” ประมุขจวนเอ่ยจบก็แบกเอาร่างเล็กหายออกไปจากห้องโถง

“ปล่อยนะ! ท่านจะพาข้าไปไหน เหตุใดไม่หย่าให้ข้า”

“มันจะไม่มีวันนั้นจิวซู ข้าไม่มีทางหย่ากับเจ้า” ตอบกลับทันที เขาเดินมาจนถึงห้องนอนใหญ่ของจวน ใจดวงน้อยเต้นรัวเมื่อถูกวางลงบนเตียง พร้อมกับร่างแกร่งที่ทาบทับลงมาไม่ให้นางตั้งตัว

“ข้าคิดถึงเจ้า ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่ลำพังมานาน จากนี้ข้าจะใส่ใจเจ้าให้มาก” เสียงทุ้มอ่อนโยนเปล่งออกมา ทำเอาใจดวงน้อยวูบไหวดวงตาสวยหลุบต่ำลง ไม่กล้าสบกับเขา เพราะยามที่เขาอ่อนโยนนางก็นึกถึงวันนั้นขึ้นมา

“ท่านก็แค่คิดถึงร่างกายนี้เท่านั้น ปล่อยข้าไปเถอะนะ” เสียงสั่นกล่าวกับอีกฝ่าย ทำให้กั่วหลิงหน้าถอดสี เพราะส่วนหนึ่งมันก็จริงอย่างที่นางเอ่ย

“ข้าไม่เถียงเรื่องที่ชอบร่างกายเจ้า แต่ก็ใช่ว่าข้าจะไม่เคยพบสตรีเช่นนี้ แต่เจ้าต่างออกไป ข้าอยากให้เราอยู่ด้วยกันทุกวัน จากนี้ข้าจะไม่ทำตัวเสเพลอีกแล้วนะ”

น้ำเสียงนี้จริงจังเป็นอย่างมาก แต่คนฟังก็ไม่อาจเชื่อได้ เพราะนางถูกทิ้งมานานเกินไป แต่คนตัวโตไม่ได้สนใจสิ่งใดแล้ว เขาเห็นนางเหม่อก็รีบประกบปากสอดลิ้นอุ่นเข้าไปทันที ทำให้คนตัวเล็กไม่อาจต่อต้าน

เพราะในใจนางก็โหยหาอ้อมกอดนี้อยู่เช่นกัน จึงไม่ยากที่จะตอบสนองเขา ด้วยการตวัดลิ้นตอบกลับ และยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่าย เป็นที่พอใจของท่านโหวเป็นอย่างมาก มือหนาจึงเลื่อนลงมาปลดเชือกผูกเอวนางออก รวมถึงของเขาด้วยอย่างรีบร้อน

เมื่อมีเพียงเนื้อสัมผัสกัน ความวาบหวามก็เกิดขึ้นกับทั้งคู่ แต่กั่วหลิงไม่ได้รีบร้อนเหมือนทุกครั้ง เขาอยากปรนเปรอให้นางไม่คิดหนีไปไหน อยู่กับเขาเป็นสามีภรรยากันอย่างที่ควรจะเป็นมานานแล้ว นัยน์ตาคมสำรวจทุกสัดส่วนของคนใต้ร่าง นางช่างงดงามจนหาที่ติไม่ได้จริงๆ 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel