2.ไม่อาจลืม 18++

เพื่อให้คนใต้ร่างผ่อนคลายลงกว่านี้ เพราะด้านในนางบีบรัดดุ้นเอ็นเขาจนมันปวดหนึบ มือเรียวเขาก็ไม่ปล่อยให้มันว่าง เลื่อนลงมาปลดอาภรณ์นางออกจนหลุดรุ่ย เผยให้เห็นสองเต้าอวบที่มันใหญ่จนล้นฝามือเขา ดึงความสนใจใต้เท้าหนุ่มให้ผละใบหน้าลงมาสัมผัสมันทันที

“อ๊ะ!..นายท่าน..อื้อ!” เสียงครางเสียวดังขึ้น เมื่อปลายลิ้นสากเลียลงที่เม็ดไตของนาง สัมผัสเปียกชื้นละเลงไปทั่วจนน้ำลายแฉะเต็มสองเต้า ยิ่งเสียงหวานเปล่งออกมา มันก็ยิ่งกระตุ้นกำหนัดของคนตัวโต

กวนซีจึงเริ่มขยับเอวสอบดึงดุ้นเอ็นออกมาแล้วกดเข้าไปอย่างช้าๆ เนิบนาบ เพื่อสร้างความคุ้นชินให้กับสตรีตัวน้อย ซึ่งยามนี้นางยกสองแขนขึ้นมาลูบตามแขนแกร่งของเขา เป็นเหตุให้ใต้เท้าหนุ่มเผยยิ้มออกมา

“อ๊า!..รูของเจ้าแน่นดีเหลือเกิน” เสียงแหบพร่าเปล่งออกมา ก่อนจะขยับเด้าเอวใส่ร่องรักคนใต้ร่างเร็วขึ้น

ตับ! ตับ! ตับ!

เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นสวน กวนซียันกายลุกขึ้นยืนเพื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากตัวจนหมด และยังถอดเอาของนางออกด้วย ยามนี้ทั้งคู่จึงเปลือยเปล่าใต้แสงจันทรา โดยมีร่างสูงยืนกระแทกท่อนลำใส่ร่องรักของสาวงาม ถึงแม้จะมองเห็นไม่ชัดนักเพราะความสว่างไม่เพียงพอ แต่กวนซีก็รู้ว่านางงดงามมาก

“อื้อ!.อ๊ะ!.” ร่างเล็กร้องครางเพียงแค่นั้น เพราะนางรู้สึกกระดากอายที่ทำเรื่องเช่นนี้ในที่ประเจิดประเจ้อ ซ้ำบังเกิดกับบุรุษแปลกหน้าอีก มิหนำซ้ำเขายังตัวโตกว่ามาก จะร้องให้คนช่วยก็ยิ่งเป็นไปมิได้ เพราะยามนี้นางเอาแต่ครางเสียว ยามที่ดุ้นเอ็นใหญ่มันขยับเข้าออกในรู

สะโพกหนาขยับกระแทกท่อนเอ็นใส่ถี่รัว นัยน์ตาคมก็จ้องมองสองเต้าที่มันกระเพื่อมไหว เม็ดเหงื่อก็เริ่มปรากฏจนสะท้อนเป็นแสงระยิบระยับยามต้องกับแสงจันทร์ ด้านบน ซึ่งมันเริ่มสูงขึ้นจนสาดส่องมาให้เห็นร่างของทั้งคู่ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งดึกเสียงหยาบโลนก็ยิ่งดัง

กระตุ้นกำหนัดของหลายๆ คู่ที่กำลังมัวเมากันอยู่มุมใครมุมมัน มีแค่กวนซีกับสตรีไร้นามผู้นี้ ที่อยู่ห่างจากกลุ่มสหายซึ่งอยู่ยังลานกว้าง ทำให้เขาไม่มีคู่แข่ง แต่ถึงกระนั้นเอวสอบก็ไม่แผ่ว ยังคงอัดดุ้นเอ็นใส่เน้นย้ำทุกครั้ง สตรีตัวน้อยก็อ้าขาให้เขาเด้าใส่ดีเหลือเกิน

ด้านในตอดรัดขมิบถี่รัว จนแก่นกายใต้เท้าหนุ่มปวดหนึบ ยามที่เขาดึงมันออกเพื่อเสียบเข้าไปใหม่ รูรักของนางดูดรั้งเอาไว้ราวกับกลัวว่าดุ้นเอ็นเขาจะไม่กลับเข้าไปอีก เป็นเหตุให้ร่างแกร่งโถมตัวเข้าหาทาบทับกดเน้นลงไป

แต่พอได้ก้มลงใกล้เม็ดไตที่ตั้งตระหง่าน ใต้เท้าหนุ่มก็ไม่รอช้า ใช้ลิ้นเลียแตะลงที่จุดเสียวของคนใต้ร่างให้ร้องครางทันที เหมือนเขาจะรู้จุดอ่อนนางแล้ว ยามที่เขาดูดเม้มเม็ดสีแดงสดทีไร ด้านในจะบีบรัดทันทีจนเขาแทบแตก

“อ๊า!..รูของเจ้ามันดูดหัวดุ้นข้า..ซี๊ด!”

“อ๊ะ!..นายท่าน..อื้อ!” เสียงครางดังออกมาโดยไม่อาย เพราะมันเลยเถิดจนยากจะควบคุม ความรู้สึกของสตรีตัวน้อยมันโลดโผนจนกู่ไม่กลับแล้ว นางกดหัวของอีกฝ่ายลงจนจมเต้าใหญ่ เป็นที่ถูกใจของใต้เท้าหนุ่มยิ่งนัก

ลิ้นชื้นและปากหนาดูดเม้มพร้อมทั้งขบเบาๆ ดุ้นเอ็นก็อัดกระแทกจนนางสั่นระริก ยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายเอาไว้ อีกข้างก็ยังใช้มันกดหัวของใต้เท้าเช่นเดิม หญิงสาวชอบความรู้สึกเสียวซ่านนี้เป็นอย่างมาก ยิ่งยามที่สะโพกหนากดเน้นลงมา ความเสียวนั้นยิ่งเพิ่มพูนด้านใน สัมผัสเสียดสีกันถี่รัวทำให้สตรีตัวน้อยทนไม่ไหว

“อื้อ!..ใต้เท้าเจ้าขา..ข้าทนไม่ไหวแล้ว..อ๊าย..ฉี่ข้าจะแตก..อื้อ!..เสียว” เสียงครางราวกับหวีดร้องเปล่งออกมา พร้อมกับเนินเขาที่กระเพื่อมไหวตามแรงหอบถี่ของลมหายใจ ทำให้ใบหน้าคมคายที่ง่วนอยู่กับเต้าอวบต้องเงยขึ้นมอง พร้อมกับยิ้มร้ายส่งให้คนใต้ร่าง

กวนซีเหยียดตนขึ้นมายืน มือเรียวจับที่เอวคอดนางไว้มั่น ก่อนที่สะโพกหนาจะเริ่มขยับดึงดันดุ้นเอ็นเสือกใส่เข้าไปในร่องรักของนาง จากช้าๆ เนิบนาบก็เริ่มเร็วขึ้นและกลายเป็นถี่รัว โต๊ะที่สตรีตัวน้อยนอนอยู่ก็ช่างเหมาะกับช่วงเอวเขาดีเหลือเกิน สามารถยืนอัดกระแทกได้อย่างถนัดถนี่ คนใต้ร่างก็ให้ความร่วมมือด้วยการแหกขาให้

“อ๊า!..แบบนี้แหละเด็กดี” เขาเอ่ยชมเมื่อนางใช้มือจับขาให้อ้าออก จนดุ้นเอ็นของเขามันเข้าไปลึกจนสุดโคน เป็นเหตุให้เสียงครางหวานดังมาให้ได้ยินอีกครั้ง ดูท่าหากเขาซอยเอวรัวไม่หยุดนางคงจะเสร็จสมอีกเป็นแน่

คิดได้เช่นนั้นร่างแกร่งก็อัดกระแทกใส่ไม่ยั้งทันที จนตัวเขาเองนั่นแหละที่ทนไม่ไหว เกร็งกระตุกพ่นน้ำรักจนคนตัวเล็กรู้สึกอุ่นวาบด้านใน “อ๊า!..ดียิ่งนัก ข้าชอบรูของเจ้า”

ไม่เอ่ยเปล่าแต่ใต้เท้าหนุ่มยังกระเตงเอาร่างเล็กขึ้นมาด้วย เขารู้ว่านางยังมีความต้องการอยู่ ซึ่งมันไม่ต่างจากเขาเลย จึงเริ่มขยับเสยดุ้นเอ็นใหญ่ใส่ร่องรูของนางต่อ แล้วก็พาเดินวนอยู่ในสวนจนไปหยุดใกล้กับสถานที่จัดเลี้ยง มันยิ่งกระตุ้นด้านในของคนตัวเล็กให้ขมิบตอดถี่รัว

กวนซียิ้มพอใจก่อนจะพานางกลับมาที่เดิม เขาบรรเลงบทสวาทกับนางครั้งแล้วครั้งเล่าจนอิ่มหนำ ซึ่งสตรีตัวน้อยก็รองรับได้เป็นอย่างดีจนเขาคิดจะเก็บนางเอาไว้บำเรอ แต่พอตื่นเช้ามากลับไม่พบนางอยู่บนเตียงเสียแล้ว จู่ๆ ใต้เท้าหนุ่มก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

“ตื่นแล้วหรือ ได้ยินว่าเมื่อคืนเจ้าแอบกินนักดนตรีของข้าสินะ เจ้านี่ช่างร้ายนัก” เจ้าของจวนตำหนิไม่จริงจัง เขาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะกลางห้อง หันมาหาสหายที่นั่งอยู่บนเตียง ท่าทางดูหัวเสียเป็นอย่างมาก

“นี่น้ำแกงขอรับ” คนสนิทกั่วหลิงยื่นถ้วยให้

“ขอบใจ เจ้าเห็นสตรีที่อยู่กับข้าหรือไม่” เอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า เพราะเมื่อคืนเขาครางเสียวไม่หยุด

“อะไรกัน นี่เจ้าติดใจนางกระนั้นหรือ มีสตรีที่รับความต้องการเจ้าได้ดีเพียงนั้นเชียว” กั่วหลิงเย้าสหาย เพราะรู้ดีว่ากวนซีนั้นกินจุมากกว่าเขาเสียอีก หากได้ลงมือกับสตรีใดแล้วนางจะไม่มีโอกาสได้ลุกออกจากเตียงได้เช่นนี้

“เสียน้ำไปถึงห้ารอบ ยังจะมีแรงลุกหนีไปได้อีก เจ้าคิดว่านางเหมาะที่จะอยู่บนเตียงข้าหรือไม่ล่ะ” ใต้เท้าหนุ่มเอ่ยกับสหาย เขาเผยยิ้มออกมาราวกับเป็นต่อในเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่ต่างก็เฟ้นหาสตรีเช่นนี้เพื่อมารองรับความต้องการที่มีมากของตน มิได้ชอบเปลี่ยนสตรีมากหน้าอย่างที่ผู้คนคิด เพียงแต่ยังไม่มีสตรีเช่นนี้ให้ได้พบพานเท่านั้น

“จริงหรือ? น่าเสียดายข้าก็อยากได้เช่นนี้เหมือนกัน” กั่วหลิงบอกอย่างที่คิด เป็นเหตุให้ได้เห็นสายตาขวางของสหาย ที่ดูไม่ค่อยชอบใจคำพูดของเขาเลย

“ฮ่าฮ่า ดูหน้าเจ้าสิ คงมิใช่แค่ติดใจแล้วกระมัง”

“รู้มาก” สายตาของใต้เท้ายังคงมองสหายเช่นเดิม

หลังจากนั้นกวนซีก็สั่งให้คนของตนสืบหาสตรีตัวน้อยที่หายไป แต่กลับไม่มีร่องรอยเลยแม้แต่น้อย รู้เพียงว่านางมาแทนสหายในวันนั้น ตัวตนที่แท้จริงก็ไม่มีใครรู้ สหายที่ว่าก็สิ้นใจตายเพราะอาการป่วยเสียแล้ว