บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ติดเกาะ

คนงานชายหญิงกว่ายี่สิบคนพร้อมอุปกรณ์ในมือเดินตามคันดินมายังจุดที่ณรัณย์รออยู่ และนี่ก็เป็นเรื่องที่ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าคนงานของคุณเกื้อที่ยังอยู่ในไร่มีจำนวนมากถึงขนาดนี้

“ยังไม่หมดนะครับคุณรัน ยังมีคนงานอีกสามคนที่อยู่ในโรงครัว ผมให้ทำกับข้าวเตรียมไว้สำหรับมื้อเที่ยงและให้เตรียมของทำมื้อค่ำไปด้วย แล้วมีสองผัวเมียที่อายุค่อนข้างมากยังเข้ามาในไร่ทุกวัน เพราะบ้านแกอยู่ละแวกนี้ แต่วันนี้คงไม่เข้ามาเพราะน้ำท่วมทำให้ถนนขาดไปแล้ว สองคนนั้นบอกว่าว่างๆ ก็มาทำงานตามหน้าที่เดิม อาศัยเก็บพืชผักกลับไปกินแทนค่าจ้าง”

นอกจากทรัพย์สินในไร่ ณรัณย์ก็รู้ทันทีว่าเขายังต้องเร่งจัดการกับคนงานเก่าของคุณเกื้อให้เข้าที่เข้าทางอีกด้วย

“ความจริงฉันตั้งใจจะคุยกับทุกคน แต่ยังติดงานอื่น เลยไม่ได้เรียกมาคุยสักที แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเราที่ยังอยู่กันในไร่มีกันหลายคน เพราะเข้ามาแต่ละที ฉันก็ไม่ค่อยเจอใคร”

เพียงเท่านั้น กลุ่มคนงานก็หลบสายตาวูบ จนนายวันที่มีโอกาสใกล้ชิดเจ้านายหนุ่มมากกว่าใครต้องรวบรวมความกล้า แล้วพูดออกมา

“พวกนี้ตั้งใจหลบคุณรันครับ”

“ทำไม”

ณรัณย์หันไปทางคนงานไร่วัยกลางคนที่เขาเจอหลายครั้ง เพราะเจ้าตัวรับจ้างทำงานให้เขาผ่านสกลไปเรียบร้อยแล้ว

“ผมกลัวคุณรันจะให้ออกจากไร่ ผมยังไม่มีที่ไป ตอนกลางวันผมไปรับจ้างเข็นผักที่ตลาด ตอนเย็นก็กลับเข้ามา วันไหนไม่มีใครจ้างก็ทำงานในไร่ตามเดิม”

ชายวัยรุ่นที่ยืนปะปนในกลุ่มคนงานตอบขึ้นมาบ้าง เพราะเขาสังเกตท่าทีของเจ้าของไร่คนใหม่แล้วเชื่อว่าคงไม่ใจไม้ไส้ระกำเกินไป...อย่างน้อยก็คงไม่มากไปกว่าที่เขาเพิ่งเจอมา

“แล้วลุงล่ะ”

ณรัณย์ปรายตาไปทางชายชราผิวคล้ำร่างผอมบางที่มีรอยยิ้มฉาบใบหน้าตลอดเวลา

“ผมอยู่ในไร่ ไม่ได้ออกไปไหนครับ” ชายชรายืดกายตรงแล้วตอบอย่างฉะฉาน “ส่วนคนนี้เป็นหลานชาย ผมเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย พ่อแม่มันตายหมดแล้ว มันทำก่อสร้างได้ ช่วงไหนที่มีงานจ้างในเมืองก็ไปทำแล้วกลับมานอนที่บ้านพักในไร่ แต่งานข้างนอกหายาก เพราะหลานผมไม่ใช่แรงงานฝีมือ เดือนนี้ทั้งเดือนก็ยังไม่มีงานจ้างใหม่เลย”

“แล้วเราไม่คิดจะออกไปรับจ้างที่อื่นหรือ” ณรัณย์หันไปถามคนเป็นหลานชายโดยตรง

“ปู่อยู่ที่นี่ ไปด้วยกันไม่ได้ ผมเลยต้องอยู่กับปู่ครับ”

“แล้วคิดจะอยู่อย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน”

ณรัณย์ถามเสียงดังขึ้นเพื่อให้ได้ยินกันทั่ว เขาตั้งใจจะส่งคำถามถึงทุกคน...ไม่เว้นแม้แต่คนหน้านวลที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้!

“อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ มีงานจ้างที่ไหนก็ไปทำ เสร็จจากงานข้างนอกก็กลับเข้ามาอยู่ในไร่ของฉัน”

“ไม่รู้ครับ”

เสียงตอบอุบอิบดังประสานมากกว่าสองเสียง แถมยังจับไม่ได้ด้วยว่าเป็นเสียงของใคร

“ถ้าคุณรันอนุญาต พวกนี้ก็อยากทำงานในไร่ต่อครับ”

เมื่อเห็นบรรยากาศการสนทนาเริ่มอึมครึมไม่แพ้ลมฟ้าอากาศที่ล้อมรอบตัว สกลจึงถือเป็นหน้าที่ของตัวเองที่ต้องบอกเจ้านายหนุ่ม

ณรัณย์กวาดสายตามองกลุ่มคนงานไร่ที่ยืนออทางด้านหลังคนสนิทของเขาอย่างสังเกต แม้ไม่มีคำพูดใดออกมา แต่ชายหนุ่มก็เห็นความกระตือรือร้นที่ส่งผ่านสีหน้าและแววตาของทุกคน

“เอาละ ไว้กลับไปแล้วเราจะคุยกัน วันนี้มาช่วยทำคันป้องกันน้ำไหลเข้าไร่กันก่อน คงต้องใช้เวลาทั้งวัน เพราะฉันตั้งใจจะสำรวจให้รอบเขตไร่”

เมื่อจบคำสั่ง ณรัณย์ก็ได้รับการตอบรับเป็นรอยยิ้ม พยักหน้า หรือกระทั่งรับคำอย่างแข็งขันปะปนกัน และก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปหยิบอุปกรณ์ทำงานประจำตัวที่เพิ่งได้มาจากนายวัน เสียงของชายชราคนเดิมก็ดังขึ้น

“เมื่อเช้าไอ้ทิวพาเมียไปชุมพร มันไปดูที่ทางที่จะย้ายไปอยู่ แต่ถ้านายให้มันทำงานในไร่ต่อ มันกับเมียก็คงดีใจ ใจจริงมันไม่อยากย้ายไปไหนหรอกครับ เพราะมันห่วงคุณขวัญ”

สีหน้าของคนพูดเจืออารมณ์ลุ้นและคาดหวัง ทำให้ณรัณย์ต้องเบือนหน้าไปสบตาสกล หากอีกฝ่ายกลับตีสีหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วเสทำทีเหมือนชมนกชมไม้ จนชายหนุ่มต้องข่มใจที่จะไม่ยกเท้าขึ้นเตะคนสนิทด้วยข้อหาที่ทำท่าทางชวนหมั่นไส้ ก่อนเขาจะหันกลับมาตอบชายชรา

“เอาเป็นว่าฉันรับรู้เรื่องนี้ แล้วจะเรียกพวกเรามาคุยกันอีกที ตอนนี้ช่วยกันทำงานก่อน”

กว่าภารกิจสำรวจเขตไร่จะเสร็จสิ้นลงก็กินเวลาไปจนพลบค่ำ ในช่วงระหว่างการทำงาน สกลต้องสั่งให้คนงานที่โรงครัวนำอาหารมื้อกลางวันมาส่งถึงที่ แค่ไม่กี่ชั่วโมงสำหรับการทำงานและกินข้าวด้วยกัน ณรัณย์กลับได้ใจคนงานในไร่ไปมากโข จนเขาได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมาให้ได้ยิน

“ฉันเพิ่งรู้สึกว่าการที่คุณเกื้อหายไปมันไม่ได้เป็นข่าวร้ายเสียทีเดียว”

“เอ็งหมายความว่ายังไงวะนังแว่น”

“การได้เปลี่ยนเจ้านายจากคุณเกื้อมาเป็นคุณรัน มันเป็นข่าวดีของพวกเราน่ะสิลุง”

“เอ็งก็พูดไป คุณรันรับเอ็งเข้าทำงานหรือยังล่ะ เขาแค่บอกให้เรารอคุย ส่วนเรื่องคนงานของเขา เขาอาจหามาเองจากข้างนอกก็ได้”

ชายชราเบรกความหวังของสาวแว่นจนแทบคะมำหงาย จนเจ้าตัวได้แต่ตีหน้ายุ่งด้วยไม่สบอารมณ์ที่อีกฝ่ายไม่คล้อยตาม

“แต่ผมว่าเขาจะให้โอกาสเราก่อนรับคนนอกเข้ามานะลุง ผมเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนใจร้าย คนเราดูจากภายนอกไม่ได้หรอก บางคนดูท่าทางใจดี พูดจานุ่มนวล แต่เขาก็ใจดำให้เราเห็นหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ”

เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าใครพูดแทรกการสนทนาของสาวใหญ่กับชายชรา ก่อนเจ้าตัวจะก้มหน้าก้มตาล้างดินโคลนตามเนื้อตัวเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านพัก หากสายตาของคนงานที่เหลือซึ่งมองสบตากันทำให้คนที่อยู่นอกวงสนทนารู้ว่ายังมีความนัยอื่นที่เขาไม่ได้พูดออกมา

“เอาละ กลับบ้านพักกันได้แล้ว อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยแล้วไปเจอกันที่โรงอาหารของเรา วันนี้ได้ข่าวว่ามีเมนูเด็ดๆ รออยู่เพียบ”

สกลนั่นเองที่ตะโกนแทรกขึ้นมา ซึ่งณรัณย์ก็พอใจที่จะให้คนสนิทหยุดการสนทนานั้นเสีย ด้วยความที่บริเวณนี้เป็นทุ่งโล่งกว้าง ไร้คลื่นเสียงอื่นรบกวน กลุ่มคนงานจึงไม่รู้ว่าตนได้ยินทุกคำของพวกเขาอย่างชัดเจน

นายวันกับนายแดนขอเดินกลับไปพร้อมกับคนงานกลุ่มใหญ่ ดังนั้นจึงเหลือเพียงณรัณย์กับสกลที่จะนั่งรถจี๊ปกลับไปยังบ้านพักในไร่ที่แต่ละคนได้จัดเตรียมไว้สำหรับตัวเองแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel