1
Chapter 1
พินท์สุดาสะดุ้งสุดตัวเมื่อคู่หมั้นหนุ่มดึงมือของเธอไปหา ก่อนจะสวมแหวนหมั้นให้เธอ เธอไหว้เขาตามธรรมเนียม ใบหน้าของพัทท์ไร้รอยยิ้ม มันแน่อยู่แล้วที่เขาจะแสดงท่าทีเช่นนี้ เพราะเขาไม่ได้อยากหมั้นหมายกับเธอแต่แรก แต่ตกกระไดพลอยโจนเลยต้องมีวันนี้ เธอสวมแหวนหมั้นให้เขาบ้าง ในขณะที่เขาไม่เต็มใจอยากได้มันเลยสักนิด
ผู้ใหญ่ที่นั่งลุ้นกันอยู่ถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เมื่อก่อนยังดีๆ กันอยู่เลย พัทท์ตามรับตามดูแลพินท์สุดาเหมือนคนเป็นแฟนกัน แต่เด็กทั้งสองก็ไม่เคยพูดหรือบอกผู้ใหญ่ว่าคบกันอยู่ จนพัทท์ไปคบกับอัญชิตาเพื่อนของพินท์สุดานั่นแหละ เรื่องราวเลยเป็นเช่นนี้ แถมยังมีปราชญ์เพื่อนรุ่นพี่ของพินท์สุดาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องราวเลยค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร
พินท์สุดารู้ดีว่าพัทท์จำต้องหมั้นกับเธอเพราะผู้ใหญ่มาเห็นเขาโมโหปลุกปล้ำเธอจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เรื่องราวใหญ่โตจึงเกิดขึ้นเมื่อบิดามารดาของเธอไม่ยินยอม และบิดามารดาของเขาก็ไม่ยินยอมเช่นกัน เขาโดนบังคับทุกทางจนต้องหมั้นหมายกับเธอเอาไว้ก่อน สำหรับฤกษ์แต่งงานจะถูกจัดขึ้นในเร็วๆ นี้เพราะผู้ใหญ่จัดการเอาไว้หมดแล้ว
บิดามารดาของเขากับเธอเป็นเพื่อนกัน แล้วก็อยากดองกันตั้งแต่แรก ผู้ใหญ่จึงอยากให้แต่งงานกันแต่ไม่เคยพูดมันออกมาตรงๆ เท่านั้น เมื่อก่อนเธอก็คิดว่าพัทท์ชอบเธอเหมือนที่เธอชอบเขา แต่หลังกลับจากเที่ยวทะเลวันนั้น พัทท์กลับไปชอบอัญชิตาเสียได้ ทำให้เธอรู้สึกทั้งหึงหวงและเสียใจไม่น้อย
อัญชิตามีฐานะยากจน เธอคบกับอัญชิตาเพราะสงสารอีกฝ่าย และไม่เคยคิดดูถูกใครที่ฐานะ ตอนที่ครอบครัวจะไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เธอชวนอัญชิตาไปเที่ยวด้วย เพราะอยากให้อีกฝ่ายไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แล้วทั้งสองก็ชอบกันขึ้นมาตอนไหนเธอก็ไม่รู้ ทำเอาเธอต้องอกหักเข้าอย่างจังจนเพื่อนรักอย่างพิมพ์พิศยังพูดว่าเป็นเพราะเธอทำให้คนทั้งสองได้ปิ๊งกันที่ทะเล
เธอแอบชอบพัทท์มานานแล้ว พี่ชายข้างบ้านที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก บิดามารดาของเธอกับเขาเคยคุยๆ กันเรื่องจะให้แต่งงานกัน แต่เขาไม่ได้ยินดียินร้ายและเคยพูดกับเธอว่าไม่ชอบการถูกคลุมถุงชน เขายังคงสถานะความเป็นพี่ชายและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวเรื่อยมาก ตามดูแลและกันท่าผู้ชายทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเธอ บอกเธอว่าไม่ควรมีความรักในวัยเรียน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่เรียนหนังสือจนกระทั่งเรียนจบเธอจึงไม่เคยมีแฟนกับใครเขาเลย ถ้ามีผู้ชายมาจีบพัทท์ก็จะเอาเรื่องนี้มาบอกบิดามารดาว่าเธอเหลวไหลมีความรักในวัยเรียน
ใช่แล้ว! พัทท์เลี้ยงสุนัขเอาไว้ในปาก ถ้าเกิดไม่พอใจใครขึ้นมา คนทำฟาร์มสุนัขเอาไว้ในปากอย่างเขาก็พร้อมที่จะจิกกัดทุกคนแทบจะทันที
เขาหวงและห่วง แต่ไม่ให้สถานะเป็นแฟนหรือคนรัก เธอจึงไม่ได้ละความพยายามที่จะเอาชนะใจเขาให้จงได้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอาใจพี่ชายข้างบ้านคนนี้ เธอพอรู้ว่าบิดามารดาของพัทท์ ประสิทธิ์กับสมศิริไม่ชอบอัญชิตาเพราะหมายหมั้นปั้นมือเธอเอาไว้
วันหนึ่งเธอรู้มาว่าอัญชิตานอกใจไปมีผู้ชายคนอื่น คบซ้อนหลายคน เธอมาบอกเรื่องนี้กับพัทท์ แต่เขาไม่เชื่อ
“อัญชิตาน่าสงสาร ไปว่าเขาทำไม เขาไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น” พัทท์รู้ดีว่า อัญชิตาทำเช่นนั้นทำไม เขาพร้อมที่จะเข้าใจเธอ
“พี่พัทท์เชื่อพินท์นะคะ อัญเขาคบผู้ชายหลายคน”
“ถึงขนาดใส่ความเพื่อนเลยเหรอพินท์สุดา”
“พี่พัทท์คะ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ แล้วมันยังไง หรือเธอหึงหวงพี่” เขาเดินเข้าหาด้วยท่าทีคุกคาม
“พี่พัทท์จะทำอะไรคะ”
“เธออยากได้พี่เป็นสามีไม่ใช่เหรอ” เขาถามยั่ว
“อุ๊ย! ว้าย! พี่พัทท์” พินท์สุดาสะดุ้งสุดตัว เมื่อโดนกระชากเข้าไปหา เขาปล้ำกอดเธอแนบอกกว้าง
“ปล่อยนะคะพี่พัทท์”
“พี่จะจัดให้สมใจยังไงเล่า ที่แกล้งดิ้นนี่ อยากให้ปล่อยจริงๆ เหรอ” เขากระซิบชิดริมหู
“พินท์ไม่ได้ อื้อ...” เธอตกใจเมื่อโดนเขาบดจูบอย่างรุนแรง จูบแรกของเธอมอบให้กับคนที่แอบรัก แต่ต้องไม่ใช่ในแบบนี้ เธออยากได้จูบหวานๆ ดูดดื่มแสดงความรักที่มีให้แก่กันและกันฉันคนรักมากกว่า
พินท์สุดายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อเขากดเธอลงบนโซฟาตัวยาวในบ้าน ของเขา เธอดิ้นรน ในขณะที่เขาบดจูบเข้าหาอย่างดูดดื่ม กระชากเสื้อผ้าของเธอออกจากกาย หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่เขาไม่เชื่อเธอ หาว่าเธอใส่ร้ายอัญชิตา เธอเสียใจด้วยที่แนะนำให้อัญชิตาได้รู้จักกับพัทท์ อัญชิตามีผู้ชายมากมาย อีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์กับพัทท์เลยสักนิด
ร่างหนาคลุกเคล้าเข้าหาด้วยอารมณ์อยากเอาชนะล้วนๆ เขาถอดดึงเสื้อผ้าของเธอจนหลุดลุ่ย เธอดิ้นหนีเขาก็ตามมาบดจูบ มือหนาบีบเคล้นไปทั่วเรือนกายสาว พินท์สุดาหายใจหอบรุนแรง แทบตกจากโซฟาเมื่อโดนเบียดอัด เข้าหา ทุกอย่างกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงบิดามารดาของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน
พินท์สุดาลนลานลุกขึ้นสวมใส่เสื้อผ้าแทบไม่ทัน อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วเขากับเธอก็โดนจับหมั้นกันในตอนนั้น เขาไม่ปฏิเสธเลยสักคำ ในขณะที่เธอพยายามอธิบายแทบตาย
“สาแก่ใจแล้วสินะ ในที่สุดก็ได้หมั้นกับพี่” น้ำเสียงหาเรื่องของเขาทำให้เธอสะดุ้ง ก่อนจะถอยหนี
“ไม่ต้องทำเป็นหนีหรอก จริงๆ เธอก็อยากได้พี่ไม่ใช่เหรอ” เขาชอบเน้นย้ำประโยคนี้ บางครั้งก็ทำให้เธออยากจะบอกว่าอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย
“พี่พัทท์น่าจะอารมณ์ไม่ดี เอาไว้เราค่อยคุยกันนะคะ ว้าย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อโดนกระชากเข้าไปหา เขากอดเธอเอาไว้แนบอก สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิด
“จะรีบไปไหนล่ะ หรือว่าจะไปหาไอ้ปราชญ์” เขาถามเสียงดุเข้มชิดอยู่ริมหู
“พินท์เจ็บนะคะพี่พัทท์” เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อเขาบีบท่อนแขนของเธออย่างไม่ปรานี ท่าทีของเขาเหมือนกำลังโกรธหรือไม่พอใจอะไรสักอย่าง ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธอะไรเธอนักหนา เธอรู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบหน้าปราชญ์เพราะไม่ถูกชะตากัน แต่ก็ไม่ควรมาลงที่เธอไม่ใช่เหรอ เขาไม่ชอบก็ไม่ควรมาบังคับเธอให้คิดเหมือนเขาไม่ใช่เหรอ
“เจ็บสิดี จะได้สำนึกว่ามีคู่หมั้นอยู่แล้ว จะได้ไม่ไปยิ้มระรื่นกับผู้ชาย คนอื่น” ท่าทีของเขาเหมือนหึงหวง ถ้าไม่บอกว่าเขามีอัญชิตาอยู่ก่อนที่จะมาหมั้นกับเธอ เธอคงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้
“แล้วทีพี่พัทท์ยังไปเป็นแฟนกับแฟนชาวบ้านเลย”
“หมายถึงใคร”
“ก็ใครล่ะคะ แฟนเยอะ แล้วพี่พัทท์ก็เป็นแฟนเขาอีกคน”
“ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า อัญเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
“บางทีพี่พัทท์ก็โง่นะคะ”
ชอบพูดถึง พี่ปราชญ์นักคะ” พัทท์ชอบรวน ถ้าเขาไม่พอใจอะไร ก็จะรวนเธออยู่แบบนั้น บางทีเธอก็อยากตบปากเขานัก สมัยก่อนถ้าอยากทำให้เขาหายรวนคือนิ่งเงียบเสีย เขาก็เลิกรวนไปเอง
“เมื่อไหร่จะตาสว่างสักทีคะ”
“พี่ตาสว่างตั้งแต่ที่เธอทำให้พี่ต้องหมั้นกับเธอแล้ว ตาสว่างว่าเธอเองก็ หึงหวงพี่ แต่กลับไปยิ้มหน้าระรื่นกับไอ้ปราชญ์มันอีก”
“พี่ทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจผิดเอง ถึงได้จับเราหมั้นกัน แล้วทำไมถึง
“นี่เธอ!” เขาบีบแขนเล็กจนเจ็บ คงไม่พอใจที่โดนเธอด่าว่าโง่
“พินท์รู้จักกับอัญก่อนพี่พัทท์อีก เธอคบผู้ชายตั้งหลายคน”
เธอช่วยเหลืออัญชิตาด้วยความสงสาร เรื่องส่วนตัวนั้นไม่ได้ยุ่งวุ่นวายเพราะคิดว่าทุกคนย่อมมีชีวิตเป็นของตัวเอง
“ที่พูดนี่เป็นห่วงพี่ หึงพี่ หรืออะไร” เขาเอ่ยถามอย่างยียวน ปกติพัทท์ก็กวนโมโหเธอแบบนี้บ่อยๆ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอเติบโตมากับเขาเลยรู้จักนิสัยของเขาดี พัทท์เป็นคนอยากเอาชนะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ถึงแม้ว่าเขาจะร้ายกาจไปบ้างแต่เธอก็หลงรักเขาตั้งแต่เด็ก เขาคอยดูแลปกป้องเธอมาตลอด ไม่มีใครกล้ารังแกเธอก็เพราะเขานี่แหละ