...รักนี้...อยู่ในใจ… บทที่1.....
เสื้อยืดผ้านุ่มแขนยาวและกางเกงเนื้อผ้าแบบเดียวกัน ฉันใช้งานคุ้มค่าทุกชิ้น
ฉันถือขนมขบเคี้ยวติดมือมาด้วย และตอนที่ฉันโผล่หน้าขึ้นไป ฉันนึกอยากเปลี่ยนใจเสียเหลือเกิน
“เห้...นอกจากผมแล้ว คุณยังมีแขกคนอื่นอีกหรือไงบรูโน่” ฉันรู้ว่าคนคนนั้นจงใจแขวะ เขาไม่เคยมองว่าฉันอยู่ในระดับเดียวกับเขาสักหน่อย
“คุณต่างหากที่ผมไม่ได้เชิญนะเติร์ก” ฉันพอรู้แหละว่าเจ้าของบ้านของฉัน กับคนคนนั้นรู้จักและเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันไม่เคยเจอเขาที่นี่เลย คงเพราะก่อนหน้านั้นฉันยุ่งวุ่นวายทุกนาทีก็ได้
“อะไรกัน คุณเห็นแม่นั่นดีกว่าผมหรือบรูโน่” ฉันเม้มปาก เริ่มลังเล ฉันควรเดินหน้าต่อ หรือยอมเสียมารยาทเดินกลับไปตอนนี้เสียเลย
“มีเหตุผลหน่อยสิ...มาสิธาร ผมกับคุณนัดกันไว้แล้ว ส่วนหมอนี่ เสนอหน้ามาเอง ผมไม่ได้เชิญ”
น้ำเสียงจริงจังของบรูโน่ ฉันเลยไม่กล้าหักหาญน้ำใจเขา ฉันเดินตัวลีบ ไปนั่งข้างๆ เขา พยายามไม่สนใจเสียงกระแหนะกระแหนที่ลอยตามลมมา
“ไม่ยักรู้ว่ารสนิยมของคุณเป็นแบบนี้”
“ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกเติร์ก หากผมกับคุณชอบเหมือนกัน โลกนี้คงไม่น่าอยู่”
เสียงตอบโต้ดังอยู่ในหูฉัน แต่ฉันก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาตรงๆ ฉันชินกับการแอบมองเขามาตลอดสามปีแล้วสินะ
“ดีแล้วล่ะ ผมก็ไม่อยากสู้กับคุณเท่าไหร่หรอก”
“อารมณ์เสียอะไรมาล่ะ หรือเดตไม่สนุก” ฉันกลายเป็นอากาศเสียละมั้ง ในสายตาหนุ่มๆ ทั้งสองคน เขาเลยคุยกันโดยไม่สนใจว่าฉันนั่งฟังอยู่ด้วย
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ผมก็แค่เบื่อ” ฉันขมวดคิ้ว เริ่มเป็นห่วงปุณิกาขึ้นมาจับใจ
ผู้ชายคนนี้เนื้อหอมและฮอตไม่เบาเลย ฉันยังแปลกใจเลย เพราะอะไรผู้หญิงเรียบร้อยอย่างปุณิกาถึงตกลงปลงใจกับเขาได้ ในเมื่อมันมีความเสี่ยงสูง เขาเปลี่ยนคู่ควงแทบนับไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบอิตาลี ใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเสเพลเต็มที่ด้วย
“อย่าเบื่อเร็วนักสิ สงสารผู้หญิงบ้าง”
“สงสารทำไมล่ะ พวกหล่อนก็รู้จุดจบดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ผมไม่เคยโกหกใครเลยนะ”
ฉันพยายามทำความเข้าใจ แต่ฉันไม่รู้ไงว่าระหว่างเขากับเพื่อนของฉันตกลงอะไรกันก่อน
“ระวังกรรมตามทันนะเติร์ก คุณล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงมากเกินไปแล้ว” ข้อนี้ฉันเห็นด้วยกับบรูโน่ และเริ่มเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมาตงิดๆ ฉันอยากเตือนปุณิกานะ แต่ฉันไม่ได้สนิทกับเธอถึงขั้นตักเตือนกันได้ เราสองคนเป็นแค่คนที่มาจากถิ่นเดียวกัน พูดภาษาเดียวกันเท่านั้น
คงเป็นเพราะฉันหมกมุ่นกับความคิดของตัวเองมากเกินไป ตอนที่บรูโน่ส่งแก้วเครื่องดื่มให้ฉันเลยไม่ได้ดูให้ดีก่อน ฉันยกแก้วจ่อปากและดื่มเครื่องดื่มในแก้วนั้นรวดเดียว รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เครื่องดื่มนั่นไหลผ่านลำคอฉันไปแล้วนั่นแหละ ช่องท้องฉันร้อนวาบ รู้สึกร้อนไปทั้งตัว ฉันสะบัดหน้าแรงๆ ไล่อาการมึนๆ ในหัวให้หลุด แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย
ฉันนั่งคอตก รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับอยู่บนบ่า
จนไม่สามารถผงกศีรษะให้ตั้งตรงได้...
จุดหักเห
“ตายล่ะ ผมลืม คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมธาร” เสียงของบรูโน่เหมือนอยู่ไกลเสียเหลือเกิน ฉันพยายามยกศีรษะขึ้น และพยายามเผยอปาก เพื่อพูดบางอย่างให้เขาคลายความกังวล ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย ฉันคงเหนื่อยเกินไปและใกล้หมดแรง ฉันยกศีรษะตัวเองไม่ขึ้นเลยสักนิด
“เกิดอะไรขึ้น” ฉันเอียงหน้ามองด้านข้าง
ใครบางคนชะโงกหน้ามาใกล้ฉัน ใครคนนั้นที่ฉันแอบเก็บไว้ลึกแสนลึก ฉันเผยอปากพยายามคลี่ยิ้ม และมองเขาด้วยดวงแววตาที่ฉันซ่อนเอาไว้ตลอด
“ยัยนี่เมาเหรอไง อะไร... กินไปแค่แก้วเดียวนี่นะ” เสียงเขาพึมพำบางอย่างที่ฉันจับใจความไม่ได้เลย
“ธารไม่ใช่ผู้หญิงเหลวไหลนะเติร์ก จะได้ดื่มเก่ง”
“มันก็ไม่น่าอาการหนักแบบนี้สิ แค่แก้วเดียวเองนะ”
“หากเทียบกับคุณที่ดื่มทุกวันแล้ว จะเอาอะไรไปเทียบได้ล่ะ” บรูโน่บ่นพึมพำ มองหาผ้าสักผืนเพื่อชุบน้ำเช็ดหน้าธาริกา เขาไม่น่าลืมตัวเลย คนที่ไม่เคยดื่มแบบธาริกาเลยสติหลุด