บทที่ 13 ของขวัญหายไป
"นั่นน่ะสิ… พี่ว่าเรารีบไปตามรอยเท้านี้ดีกว่า แต่น่าแปลกนักทำไมเราตามมาตั้งนานแล้ว รอยเท้านี้กลับย้อนมาเส้นทางที่เราเดินเข้าป่ามาทัวร์ล่ะ"
"ผมสงสัยว่าพวกนี้จะถูกคนว่าจ้างให้มาเก็บคุณของขวัญ เพราะผมรู้ว่าคุณของขวัญเป็นถึงลูกสาวนักธุรกิจ แถมเพื่อน ๆ ของเธอก็เหมือนทุกคนจะมีฐานะกันทั้งหมดเลยนะพี่"
"นั่นน่ะสิหรือว่าพวกเขาจะสร้างศัตรูไว้ที่ไหนกันแน่ รอยเท้าพวกนี้กำลังเดินไปตามทางที่เราเดินเข้ามาในป่า แสดงว่าพวกนั้นอาจจะจับตัวคุณของขวัญเดินย้อนกลับไปทางต้นทางแล้วล่ะ"
งั้นเรารีบกลับไปชวนคุณลิลลี่และเพื่อนของเธอทั้งสอง พวกเราทุกคนรีบตามกลับไปเส้นทางเดิม เผื่อบางทีคุณของขวัญอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้นะพี่"
"ฉันก็ว่าอย่างนั้นไปเถอะ"
เมื่อทั้งสองหนุ่มเดินทางมาถึงสองสาวกับหนึ่งชายใจหญิง ก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับเป้ของตนเองเดินเข้ามาหาไกด์ทั้งสองทันที ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือกหวาดกลัวเพราะสายตาของพวกเขามองไม่เห็นของขวัญผู้เป็นเพื่อนสาวของตนเอง มาพร้อมกับไกด์หนุ่มทั้งสองด้วย
"ของขวัญล่ะคะ พวกคุณช่วยของขวัญกลับมาไม่ได้เหรอ หรือว่าพวกคุณหาของขวัญไม่เจอกันแน่"
ทันทีที่ไกด์หนุ่มทั้งสองได้ยินคำถามนี้ ก็ถึงกับนิ่งพูดไม่ออก เพราะพวกเขารู้สึกว่าตนเองกำลังทำงานบกพร่องต่อหน้าที่ จนทำให้ลูกทัวร์ตกอยู่ในอันตราย
"ขอโทษด้วยนะครับคุณแอน พวกผมตามหาอย่างสุดความสามารถแล้ว มีรอยเท้าของผู้ชายสองคนและมีรอยเท้าเล็ก ๆ น่าจะเป็นของคุณของขวัญ ซึ่งห่างจากจุดที่พวกคุณแยกกันไปพวกผมหาจนสองชั่วโมงก็ยังไม่เจอ น่าแปลกอยู่อย่างรอยเท้าของคุณของขวัญก็หายไป เหลือเพียงแค่รอยเท้าของผู้ชายสองคนที่เดินย้อนกลับมาสู่เส้นทางที่พวกเราเข้ามาก่อนหน้านี้"
"จริงเหรอคะ แล้วสองคนนั้นเป็นใครกัน"
"ผมก็ไม่รู้เพราะไม่เห็นตัวคน ผมขอถามพวกคุณหน่อยนะครับ คุณของขวัญมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า"
"ของขวัญไม่มีศัตรูที่ไหนหรอกนะคะ เพราะเธอเพิ่งเรียนจบมายังไม่ได้ทำงานเลย หรือแม้แต่ที่มหาลัยที่พึ่งจบเธอก็ไม่มีปัญหากับใครทั้งนั้น"
"ถ้างั้นผมว่าพวกเราทุกคนรีบเดินตามย้อนกลับไปเส้นทางที่เราเข้ามา เผื่อบางทีคุณของขวัญอาจจะกำลังรอการช่วยเหลือจากพวกเราก็ได้นะครับ"
"งั้นรีบไปกันเถอะค่ะพวกฉันน่ะพร้อมเสมอ ขอเพียงแค่ช่วยของขวัญกลับมาได้พวกเราเต็มใจ ถ้าช่วยไม่ได้พวกเราคงไม่มีหน้ากลับไปเจอพ่อแม่พี่ชายของของขวัญแน่นอนเลยค่ะ"
สามวันต่อมา กรุงเทพมหานคร
"ว่ายังไงนะ พวกเธอบอกว่าของขวัญหายไปงั้นเหรอ"
"ขอโทษด้วยค่ะคุณพ่อคุณแม่ พี่พล พวกเราเองก่อนจะกลับมาก็พยายามตามหาของขวัญแล้วนะคะ แถมยังแจ้งความเอาไว้ที่นู่นแล้วด้วย เจ้าหน้าที่ตอนนี้กำลังเข้าป่าเพื่อไปตามหาและหาเบาะแสของของขวัญ"
"แล้วไอ้ไกด์หนุ่มที่จ้างไปนำทาง มันดูแลพวกเธอยังไงกัน ของขวัญถึงได้หายไป"
"จริง ๆ แล้วแอนกับของขวัญเราไปทำธุระส่วนตัวกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว แต่พอหลังจากนั้นสักพักกลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แอนก็รีบวิ่งมาตรงจุดที่นัดพบกับของขวัญ แต่ไม่เห็นของขวัญกลับมา จนไกด์หนุ่มทั้งสองมาตามและไปออกช่วยตามหาของขวัญแต่ก็ไม่เจอ ไกด์ทั้งสองบอกว่าเจอแต่รอยเท้าของผู้ชายสองคน และรอยเท้าของผู้หญิงหนึ่งคน คิดว่ารอยเท้าของผู้หญิงน่าจะเป็นของของขวัญเพราะจุดที่เห็นนั้นอยู่ในทิศทางเดียวกับที่ของขวัญแยกไปทำธุระส่วนตัวกับหนูค่ะ"
"สรุปแล้วไกด์ทั้งสอง กำลังพาเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาของขวัญในป่าสินะ"
"ใช่ค่ะคุณพ่อว่าแต่คุณพ่อคะ ของขวัญมีศัตรูหรือมีปัญหากับใครหรือเปล่าคะ"
"ศัตรูงั้นหรือ ไม่นะของขวัญไม่มีศัตรูที่ไหนทั้งนั้น"
"คุณพ่อครับ ผมว่าผมจะขึ้นไปที่แม่ฮ่องสอน เพื่อเข้าไปตามหาน้องด้วยดีกว่า"
"แม่เห็นด้วยที่ลูกจะไปช่วยตามหาน้อง งานที่นี่ลูกไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่จะช่วยดูแลให้เอง"
"งั้นผมขอตัวขึ้นไปจัดกระเป๋าก่อนก็แล้วกันนะครับ คุณแอนผมขอเบอร์โทรของไกด์ทั้งสองด้วยนะครับ"
"ได้ค่ะ"
ทันทีที่ชายหนุ่มจัดกระเป๋าเรียบร้อยก็ขับรถออกจากคฤหาสน์เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนทันทีด้วยความร้อนใจ ปนเป็นห่วงน้องสาวเพียงคนเดียวของตนเอง ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร
ภายในคอนโดหรูของสตีเฟน โรมันโต ที่มีมูลค่าราคาแพง มีแต่เศรษฐีหรือผู้มีอันจะกินเท่านั้นจึงจะสามารถซื้อมาอยู่ได้ เครื่องประดับทุกชิ้นมีทั้งของประดับที่เก่าแก่ แต่มีมูลค่าสูงยิ่งนักวางอยู่ในห้องทำงานของสตีเฟน
"พวกมึงทำงานกันประสาอะไรวะ ผีเผลอมีที่ไหน"
"มีผีจริง ๆ ครับเจ้านาย ในป่าแห่งนั้นมันมีผีจริง ๆ ผีตนนั้นยังดูดกลืนสาวสวยคนนั้นเข้าไปแล้วด้วย เหลือแต่พวกเราสองคนที่กราบอ้อนวอนขอร้องชีวิตก่อนที่จะหนีออกมาได้ ป่านั่นน่ากลัวจริง ๆ นะเจ้านาย ชาตินี้พวกผมไม่ขอเข้าไปในป่านั่นอีกเป็นอันขาดแค่พูดถึงก็สยองแล้วครับ"
"พวกแกบอกว่าผีนั่นดูดกินเธอเข้าไปแล้วงั้นหรือ"
"ใช่ครับนายรับรองได้ เธอไม่กลับมารบกวนใจคุณหนูอลิสาอีกแน่นอน"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีสิ พวกแกสามคนเอาเงินนี่ไปหลบหน้าสักพักนึง"
"ครับนาย"
หลังจากทั้งสามคนกล่าวรายงานกับเจ้านายเรียบร้อยแล้วก็รีบหลบหนีออกไปอยู่ทางต่างจังหวัดทันที ด้วยความกลัวว่าเผื่อมีใครจะเห็นหน้าของพวกเขากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่า เพราะอิทธิพลของฝ่ายหญิงนั้นเรียกได้ว่าก็ไม่น้อยหน้าเจ้านายของตนเองเลย เรียกได้ว่าอิทธิพลมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนในประเทศไทยไม่เหมือนเจ้านายของตนเอง ที่เป็นคนต่างประเทศแต่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยเท่านั้น ทั้งสามคนเมื่อเข้ามาในรถแล้วก็นำเงินมาแบ่งกัน และแยกย้ายกันไปเก็บกระเป๋าเพื่อหลบหนีทันที
ทางด้านของดินแดนลึกลับ หญิงสาวเริ่มมีร่างกายที่อ่อนแรงเหนื่อยจากการเดินเท้าที่ยาวนาน แถมยังเต็มไปด้วยก้อนหินของต้นหญ้าโชคดีหน่อยที่เธอสวมรองเท้าผ้าใบมา ไม่เช่นนั้นเท้าของเธอก็คงจะเต็มไปด้วยเเผลแน่นอน
