บทที่ 1 เด็กจบใหม่
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปนเซ็ง นิด ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล (แฮะ..เว่อร์ไปหน่อย) ที่ตอนนี้ต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดเมืองนอนออกมาเผชิญโลกภายนอก ตั้งแต่จบมัธยมต้นเข้ามาร่ำเรียนในเมืองหลวง... จนบัดนี้จบปริญญาตรีไปหมาด ๆ เป็นที่สมพระทัย เอ๊ย! สมใจคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหมือนพี่ชายก็ตามทีเถอะ
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า จะไม่ให้ถอนหายใจได้อย่างไรเล่า ในเมื่อวันนี้หล่อนจะได้สัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังน้อยเสียเมื่อไหร่ กับธุรกิจด้านโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง ได้ยินมาว่าบริษัทนี้ไม่ค่อยรับเด็กจบใหม่เสียด้วยสิ สามวันก่อนหล่อนได้ไปสมัครงานทิ้งไว้ ตามคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทที่สุดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพื่อนที่แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ล้อมดาว ลูกสาวคนเดียวของตระกูล ก้องกังวาลไกล ซึ่งแค่ได้ยินแค่นามสกุลใคร ๆ ก็รู้ว่า เป็นไฮโซระดับต้น ๆ ของเมืองไทย
โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านโรงแรมที่มีมากกว่าสองสาขา และที่กำลังจะขยายออกไปยังต่างจังหวัดอีกก็หลายแห่ง จะด้วยวาสนา หรือโชคชะตาที่นำพาล้อมดาวลูกสาวไฮโซเข้ามาเรียนที่เดียวกับหล่อนและได้รู้จักเพราะลำดับเลขที่ติดกัน เวลามีกิจกรรมก็ไปด้วยกันตั้งแต่เริ่มเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันจนเกิดความสนิทสนมกลมเกลียว กระทั่งคนที่บ้านทั้งบิดามารดา รวมทั้งบรรดาคนรับใช้ที่มีเกือบ สามสิบคน ของเพื่อนไฮโซ ต่างก็รู้ว่าหล่อนเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณหนูล้อมดาว สามารถเข้านอก ออกใน บ้านเพื่อนได้อย่างสบายใจ และมีบางครั้งหล่อนสามารถไปนอนค้างกับล้อมดาวได้โดยที่ทางบ้านเขาไม่รังเกียจคนโลโซอย่างหล่อน อาจจะเพราะครอบครัวของล้อมดาวเป็นคนไม่ถือตัว
หรือเพราะหล่อนใฝ่สูง อยากคบคนรวย (กันแน่นะ) แต่ก็เคยถามนะว่า 'เธอมาคบเราได้ไงนะล้อม' ก็ได้คำตอบว่า' ก็จอมเป็นคนร่าเริง แจ่มใส เข้ากับคนอื่นก็ง่าย เวลาอยู่ใกล้ ๆ จอมจุ้น แล้วสบายใจ'
จอมจุ้น!ใช่สินะ เพื่อน ๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ชอบเรียกหล่อนว่าจอมจุ้น รวมทั้งยายล้อมเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อน ง่ะ! นึกมาถึงตรงนี้ทีไรก็อดหมั่นไส้นิด ๆ ให้เพื่อนรักไม่ได้ อ้ายเราก็นึกว่า จะลงท้ายด้วย ' แล้วแถมยังน่ารักอีกต่างหาก' น่ะสิ.. เพื่อนสาวไฮโซแนะนำให้ไปสมัครที่บริษัทบิดาตัวเอง เป็นที่รู้กันว่ากิจการของครอบครัวเพื่อน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพื่อนมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้ว..ลองไปสมัครดู ย้ำ!ให้ลองไปสมัครดู ไม่ได้บอกว่าจะฝากให้ซะหน่อย แล้วหลังจากนั้นเพื่อนเลิฟ ก็บินไปเมืองนอก ไปเรียนต่ออย่างที่คนมีตังค์เขาทำกัน ส่วนหล่อนน่ะหรือก็ต้องหางานทำ ประสาคนโลโซตามระเบียบ
จอมขวัญไปสมัครงานตามที่เพื่อนรักบอกไว้ แต่ทว่าทางบริษัทของบิดาเพื่อน ให้หล่อนมาสมัครที่ เอ็ม ไอ พี นัยว่าเป็นเครือเดียวกัน และวันนี้ก็เป็นวันที่จะได้ไปสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ที่ถอนหายใจก็เพราะเหตุนี้แหละ คนที่นี่คงจำหล่อนได้ทั้งบริษัทแล้วกระมัง โดยเฉพาะแผนกบุคคล ก็วันนั้นกับวันนี้ของหล่อนไม่ได้แตกต่างกันเลยกับชุดกลางเก่ากลางใหม่ที่หล่อน ได้มาจากแม่สุดเลิฟ สมัยก่อนแม่ยังรับราชการในกระทรวงกระทรวงหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ท่านได้ย้ายตามพ่อไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอน ที่เมืองเหนือโน่น แต่ยังพอมีชุดทิ้งไว้ให้หล่อนสามารถใช้งานได้บ้าง จอมขวัญนึกขอบคุณแม่อยู่ในใจ ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะชุดของท่านก็ได้นะที่ทำให้หล่อนได้ถูกเรียกตัวไปสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ในวันนี้
หญิงสาวเดินไปส่องกระจกบานยาวที่วางพิงอยู่กับผนังห้องนอน พลางมองดูตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่า ได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้วจริง ๆ ก็พบเงาที่สะท้อนกลับมาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวสีขาวละเอียด ผมสีน้ำตาลอ่อน เหยียดตรงที่ตอนนี้ถูกรวบขึ้นสูงไว้กลางศีรษะกลมมน เพื่อสะดวกในการเดินทางและโดยส่วนตัว หล่อนไม่ชอบปล่อยผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะรู้สึกรำคาญเวลาที่ผมโดนลมพัดจนพันกันยุ่ง ดวงตากลมโตสุกใสที่ต้องใส่คอนแท็คเลนส์ เนื่องจากเป็นคนสายตาสั้น ประมาณ สองร้อยซึ่งส่วนใหญ่แล้วหล่อนชอบใส่แว่นมากกว่า แต่วันนี้ต้องพับเก็บเข้ากล่องไว้ก่อนเพราะถ้าขืนใส่แล้วคงดูแก่เกินไปเมื่อต้องใส่กับชุดนี้
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้สวยเลิศเลอชนิดที่ใครเห็นในแวบแรกต้องปิ๊ง แต่ก็แค่พอไปวัดไปวาได้ล่ะน่า พลางนึกในใจว่าถ้าได้งานนี้คงต้องมีการเพิ่มรายจ่ายอย่างใหญ่โตมโหฬาร และถึงขั้นต้องทุบกระปุกกันเลยทีเดียวแถมอาจจะต้องรบกวนแม่อีกครั้งก็เป็นได้ ก็ไหนจะเสื้อผ้า กระเป๋า แล้วก็รองเท้าอีกล่ะ และที่สำคัญอีกอย่าง เครื่องแต่งหน้า ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญด้วยสินะ อ๊ะ!ไม่สิ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยต่างหากล่ะ ทุกวันนี้คนหน้าตาดีเขามีงานมีการทำก่อนเกือบทั้งสิ้น ขี้เหร่ค่อยว่ากันทีหลัง หรือไม่ก็ ไปหาที่อื่นเถอะ ที่นี่คัดหน้าตาจ่ะน้องอะไรเทือกนี้
จอมขวัญมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง เพื่อเช็คความมั่นใจอีกรอบ ดวงหน้าเกลี้ยงเกลา นัยน์ตาและคิ้วที่รับกัน ถึงแม้คิ้วจะค่อนข้างใหญ่ไปหน่อย เพื่อน ๆ ยังเคยล้อว่า 'ยังกะชินจังในการ์ตูนญี่ปุ่นแน่ะ' หากหล่อนก็พอใจเพราะไม่ชอบที่จะไปทำให้มันเรียวโค้ง เหมือนคนอื่น ว่ากันง่าย ๆ ก็ คือสวยธรรมชาตินั่นล่ะดีที่สุดแล้ว และแม้กระทั่งสีสันบนใบหน้าก็สุดแสนจะธรรมดา ก่อนหน้านี้ก็อุตส่าห์ทาแป้งพับที่ผสมแป้งฝุ่นแบบเด็กแล้ว และลงท้ายด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อน พอให้มีสีสันบ้าง ก่อนจะหย่อนมันลงกระเป๋า พกติดตัวไว้เพื่อจำเป็น จอมขวัญยิ้มให้ตัวเองในกระจกเสียหนึ่งที แค่นี้ก็ โอเค! (แล้วมั้ง) ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายคู่ใจมาคล้องไหล่ พร้อมออกเดินทางแล้ว..