ตอนที่ : 11 ที่พึ่ง 3
ทุกคนต่างเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงธาวิศที่ยังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ตนสงสัยอยู่ ใจจริงเขาอยากจะลงไปถามนิภาให้รู้เรื่องกลางดึกนี่ด้วยซ้ำ แต่ก็ทำได้แค่เพียงเปิดหน้าต่าง มองไปยังบ้านพักแม่บ้านเท่านั้นเอง คืนนี้เขาคงจะหลับไม่ลงอย่างแน่นอน
แต่ว่าเช้าขึ้นมา เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้านิภาอีกอยู่ดี จะเอ่ยปากถามตรง ๆ ก็เกรงคนอื่นจะสงสัย ได้แต่รอจนบิดามารดาออกไปทำงานก่อน ถึงได้กล้าถามยายหนึ่ง
“ทำไมไม่เห็นน้องภาเลยครับยายหนึ่ง” เขาถามระหว่างที่ยายหนึ่งนำกาแฟมาให้
“วันนี้หนูภามาช่วยทำกับข้าวแล้วกลับไปซักผ้า ตากอยู่หลังบ้านต่อค่ะ”
“เหรอครับ” ธาวิศยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ นี่นิภาจงใจเลี่ยงไม่พบหน้าเขาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาคิดไปเองอย่างแน่นอน เขาตั้งใจจะไปหาหญิงสาวที่หลังบ้าน แต่โทรศัพท์ของคนรักก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ครับลิล”
“แย่แล้วค่ะภูมิ ลิลงานเข้าด่วนเลยค่ะ” น้ำเสียงร้อนรนของคนรัก ทำให้เขาคิดว่าหญิงสาวต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่
“ใจเย็น ๆ ครับลิลค่อย ๆ เล่า”
“ก็พี่อรน่ะสิคะดันไปรับงานโชว์ตัวเอาไว้ แล้วลืมบอกลิล แกเพิ่งนึกได้โทรมาหาลิลเมื่อกี้นี่เองค่ะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับให้คนอื่นไปแทนก็ได้”
“มันไม่ได้สิคะภูมิ งานนี้เขาระบุตัวลิลมาเลยค่ะ มีสัญญาพร้อม ตอนลิลเซ็นลิลก็ไม่ได้ดูอะไรมากค่ะ ตอนนั้นกำลังง่วง ๆ พี่อรเอามาให้เลยเซ็น ๆ ไป ที่ไหนได้ถ้าไม่ไปตามนัด เขาจะเรียกค่าเสียหายสามเท่าของค่าจ้างเลยค่ะ”
“ส่วนนั้นผมจ่ายให้ก็ได้นี่ครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ลิลจะไม่ผิดสัญญา แล้วทำให้ภูมิต้องเดือดร้อนเด็ดขาดค่ะ ตอนนี้ลิลออกมาจากโรงแรมแล้วนะคะ ให้รถที่โรงแรมไปส่งที่สนามบินค่ะ คงไม่ได้กลับพร้อมภูมิ หรือแวะเที่ยวระหว่างทางตามที่เราแพลนกันไว้แล้วนะคะ ลิลขอโทษภูมิด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นครับ เอาที่ลิลทำแล้วสบายใจเถอะครับ ผมเข้าใจ”
“ภูมิน่ารักที่สุดเลยค่ะ งั้นลิลไปก่อนนะคะ”
“ครับ” ธาวิศวางสายจากคนรัก พร้อมกับอาการเซ็งเต็มที่ นี่เขาวางแผนมาเที่ยวกับลลิสา ซึ่งกว่าจะมาได้ ก็แทบจะแย่งคิวงาน กับผู้จัดการส่วนตัวของหญิงสาวกันเลย
‘นางร้ายหน้าสวย อีกหน่อยพี่อรจะดันให้เป็นนางเอกหน้าสวยแทนนะคะน้องลิล’
คำพูดของผู้จัดการส่วนตัวของลลิสาเมื่อหลายเดือนก่อน มีวี่แววว่าจะเป็นจริงขึ้นมา หากนางร้ายกลายเป็นนางเอกขึ้นมา ไม่แน่ชีวิตของเขา อาจเป็นแค่ตัวประกอบ ที่เพียงแค่เดินผ่านมา แล้วก็ผ่านไป
เสียงยายหนึ่งกำลังล้างจานดังอยู่ในห้องครัว ธาวิศก็ลุกขึ้นเดินออกจากประตูหน้าบ้าน อ้อมออกไปด้านข้างก่อนจะวกไปด้านหลัง ซึ่งเป็นบริเวณตั้งเครื่องซักผ้าพร้อมกับราวตากผ้า เขาชะงักเล็กน้อย กับภาพของนิภาในชุดคลุมท้อง หญิงสาวกำลังสะบัดผ้า แล้วนำไปใส่ไม้แขวนขึ้นราว รูปร่างดูมีเนื้อมีนวลขึ้นจากเดิมค่อนข้างมาก ธาวิศยืนกอดอกมองคนตั้งใจทำงานอย่างเงียบ ๆกระทั่งเจ้าตัวหิ้วตะกร้า แล้วเดินกลับมาทางเขา
“พี่ภูมิ โอ๊ย !” ตะกร้าในมือหล่นกระแทกปลายเท้าจนเจ็บ ธาวิศรีบเข้าไปพยุง คนที่กำลังทำท่าจะนั่งลงจับเท้าตัวเอง
“มานั่งนี่ก่อนน้องภา” เขาพยุงหญิงสาวไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ร่มไม้ด้านข้าง
“เจ็บมากไหม”
“เจ็บค่ะ” ตะกร้าหวายอย่างดี หล่นทีก็เล่นเอาเท้าที่สวมร้องเท้าแตะบวมขึ้นมาได้
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยกับอีแค่เห็นหน้าพี่ ยิ่งท้องอยู่ด้วยแบบนี้ ทีหลังต้องระวังมาก ๆ รู้ไหม” เขาดุแกมสงสาร ระหว่างนั่งคุกเข่าลง ดูรอยช้ำบนหลังเท้าของนิภา
“นั่งรออยู่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปหายาทามาให้ดูซิบวมเขียวทันตาเลย” บอกแล้วก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ทางประตูหลังที่ใกล้ที่สุด รีบเดินเข้าไปขอยาทาแก้ฟกช้ำกับยายหนึ่งในห้องครัว
“คุณภูมิไปโดนอะไรมาคะ” คนที่เอื้อมมือไปเปิดตู้ยาหันมาถาม
“ไม่ใช่ผมหรอกยายหนึ่ง โน่นน้องภาทำตะกร้าหล่นใส่เท้าตัวเองทั้งบวมทั้งเขียว”
“ตายจริง แล้วเป็นอะไรมากไหมคะ เดี๋ยวยายจะไปดูแลเองค่ะ” ดูเหมือนยายหนึ่งจะตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนเจ็บคือนิภา
“ไม่ต้องครับยายหนึ่ง ผมเอาไปให้เอง ยายหนึ่งก็ทำงานต่อเถอะครับ”
“เอางั้นเหรอคะ”
“ครับ มีเรื่องจะคุยกับน้องภาพอดีด้วย” เขาจำต้องบอกตรง ๆ ไม่อย่างนั้นยายหนึ่งได้ตามไปอีกแน่
“นี่ค่ะยาทาแก้ฟกช้ำ ทำไมซุ่มซ่ามอย่างนี้นะหนูภา ยิ่งท้องกำลังโตอยู่ด้วย” ยายหนึ่งบ่นระหว่างยื่นหลอดยาให้ธาวิศ
“ขอบคุณครับ ทำงานต่อเลยครับ ไม่ต้องห่วงน้องภาผมดูแลเอง”
“ฝากด้วยนะคะยายเป็นห่วง”
“ครับ” เขารีบนำยากลับไปทาให้คนเจ็บ
“ไม่ต้องค่ะพี่ภูมิ ภาทาเองได้ค่ะ” นิภาตกใจที่เห็นเขายกเท้าของเธอขึ้น
“จะก้มลงทายังไงน้องภาติดท้องแบบนี้” เขาดุแล้วมองหน้าท้องที่นูนขึ้นพอประมาณ
“นั่งนิ่ง ๆ”
นิภาพูดไม่ออกได้แต่มองเขาหมุนหลอดยา บีบเนื้อครีมป้ายตรงที่บวมช้ำ
“โอ๊ะ !”
“พี่ขอโทษเจ็บใช่ไหม” ธาวิศเผลอออกแรงทายามากไปหน่อย นิภาถึงกับสะดุ้งเมื่อครู่นี้
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะพี่ภูมิ ลุกขึ้นมานั่งเถอะค่ะ” เห็นเขาคุกเข่าทายาให้แบบนี้ นิภาเองก็รู้สึกละอายใจเหมือนกัน แต่ไหนแต่ไรมาเธอกับเขาไม่เคยจะได้มาใกล้ชิดกันแบบนี้ เว้นก็แต่เรื่องคืนนั้น คิดมาถึงจุดนี้ ก็เผลอยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเอง
“ถ้าไม่หายหรือบวมกว่าเดิม ก็ไปหาหมอนะ ไม่รู้กระดูกร้าวหรือเปล่า”
“ไม่มั้งคะ อะไรจะร้าวง่ายขนาดนั้น”
“ประมาทจริงเลยเรา”
“งั้นภากลับไปทำงานต่อนะคะ”
“นั่งลง !”
นิภาที่ลุกขึ้นยืนถึงกับชะงัก ค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งตามเดิม สีหน้าของธาวิศไม่เหมือนก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาจ้องเธอแบบคาดคั้นอะไรบางอย่าง
“มีอะไรกับภาคะ”
“จงใจหลบหน้าพี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วใช่ไหม”
“เปล่าค่ะภาไม่ได้หลบหน้า ภาไปฝากท้องมาแล้วก็ปวดหัวเลยขอนอนพัก มีอะไรอีกไหมคะภาจะได้ไปทำงาน”
“เด็กนั่นใช่ลูกพี่ไหม”
คนถูกถามหน้าชาเล็กน้อย จะบอกตามตรงได้ยังไง ในเมื่อเขามาที่นี่พร้อมกับคนรัก ถ้าบอกไปก็เท่ากับทำลายชีวิตของธาวิศในทันที
“ภาก็เคยบอกแล้วนี่คะว่าไม่ได้ท้อง” หญิงสาวเลี่ยงคำตอบตรง ๆ
“ไม่ใช่ลูกพี่ถูกไหม” แต่ธาวิศก็ย้ำคำถามให้ตรงจุด
“ค่ะ ไม่ใช่ลูกพี่ภูมิแน่นอนค่ะ”
‘ขอโทษนะคะพี่ภูมิ ภาไม่อยากให้พี่ต้องมาลำบากใจในเรื่องนี้ ภาขอโทษค่ะภาทำไม่ลงจริง ๆ’
“แสดงว่าสำส่อนจริง ๆ”
สะอึกและก็เจ็บจุกไปถึงทรวง นิภาหันหน้าหนีไปทางอื่น เธออุตส่าห์หวังดีกับเขาถึงไม่บอก แต่เขามาด่าแบบนี้มันน่าเจ็บใจนัก
“ไม่พอใจเหรอที่พี่พูดตรง ๆ ถามจริงเถอะน้องภา ไปมีอะไรกับใครเมื่อไหร่ ในเมื่อพี่เป็นคนแรกของน้องภาแท้ ๆ นับอายุครรภ์ก็ไม่ห่างกับตอนนั้น นี่แสดงว่าหลังจากพี่ปุ๊บ ก็เจอคนใหม่ปั๊บเลยน่ะสิ”
“จะคิดแบบนั้นก็ได้ค่ะพี่ภูมิ ภาขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” นิภาไม่อาจทนฟังคำดูถูกของเขาได้อีกต่อไป หญิงสาวลุกขึ้นเดินกะเผลก ๆ ไปในบ้าน
ลับตาเขาแล้วน้ำตาของหญิงสาวก็คลอเบ้าขึ้นมา ต้องทำใจแข็งเอาไว้ อย่าไปทำลายความสุขของเขาเลย
‘อย่าทำนะยัยภา พี่ภูมิไม่ใช่คนผิดไม่ควรต้องมาถูกเรื่องนี้ทำร้ายเอา’
แต่ธาวิศก็อยู่สร้างความอึดอัดใจให้นิภาไม่นาน รุ่งขึ้นเขาก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ไป คนที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากก็คงจะเป็นนางเมธาวี
“พอหนูลิลไม่อยู่ก็แจ้นตามเขากลับไปทันที มันใช้ได้ที่ไหนคุณนุ” เสียงบ่นดังไปถึงคนที่กำลังเช็ดถูห้องรับแขกอยู่
“เอาน่าคนมันกำลังรักกำลังหลง ก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลานั่นแหละ”
“คุณก็เข้าข้างแต่ตาภูมินั่นแหละ ฉันล่ะเหนื่อยใจจริง ๆ กะจะพาลูกไปไหว้พระที่วัดสักหน่อย ดูซิผิดแผนหมดเลย”
นิภากำผ้าในมือเอาไว้จนแน่น ในใจอดนึกไม่ได้ว่าเธอทำถูกแล้วที่ไม่บอกความจริงกับเขา คนอย่างลลิสามีทั้งชื่อเสียงเงินทอง คงรับไม่ได้หากรู้ว่าธาวิศกับเธอมีลูกด้วยกันแล้ว
‘แบบนี้แหละถูกต้องแล้วยัยภา คุณยายต้องเห็นด้วยกับเธอแน่’