๑
๑
ภายในโกดังร้างที่มืดสนิทได้กลิ่นสนิมของเหล็ก เสียงฝนตกกระทบหลังคากระเบื้องดังไปทั่วสถานที่แห่งนี้หากคนที่อยู่ภายในกลับไม่ได้ยินเสียงฝนเลยสักนิด สายตาทั้งสองคู่มองตรงไปยังผู้หญิงวัยสามสิบแปดปีที่ตอนนี้ถูกมีดจี้คออยู่อย่างน่าหวาดเสียว ชายผู้ถือมีดยิ้มเหี้ยมเกรียมราวกับคนเสียสติ ดวงตาสั่นคลอนหากดูโหดร้ายเหมือนสัตว์ป่า
“ปล่อยเมียฉันเถอะณกร” มังกร เดชดำรงกุลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มที่ทรงอำนาจเอ่ยอย่างอ้อนวอน หัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นภรรยาที่รักตกอยู่ในอันตราย ข้างกันนั้นมีลูกชายวัยสิบห้าปีที่มองดูแม่ตนเองด้วยแววตาสั่นไหว เขากลัวจับใจว่าคนที่รักจะจากไป มารดาสบตาเขาพร้อมยิ้มให้อย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยรอยช้ำจากการถูกตบตี
“กูไม่ปล่อย กูจะฆ่าเมียมึงให้มึงกับลูกดูจะได้รู้ว่าการเสียของรักมันเป็นยังไง” เอ่ยออกมาราวคนบ้า ณกรเคยเป็นเพื่อนสนิทของคุณมังกรร่วมลงทุนธุรกิจด้วยกันแต่แล้วก็ถูกเพื่อนรักหักหลังหุบเอาหุ้นทั้งหมดของเขาไปเป็นของตนเองอย่างโหดเหี้ยมจนเขาสิ้นเนื้อประดาตัว มีดคมกดลงไปที่ลำคอขาวระหงจนมีเลือดไหลออกมา สิงห์ เดชดำรงกุลมองมารดาแววตาแห่งความกลัวฉายชัดขึ้นมา
“แม่” เสียงที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มเรียกแม่เสียงเบา เขาอยากจะก้าวออกไปดึงแม่ออกมาแต่ก็ไม่กล้า คุณมังกรมองคนรักอย่างเจ็บปวดอดโทษตนเองไม่ได้ที่ไม่ให้คนติดตามมาจนคนรักเป็นอันตรายด้วยไม่คิดว่าเพื่อนรักจะกล้าทำร้ายผู้ที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้
“ฉันไม่เคยโกงนาย นายกำลังเข้าใจผิด วางมีดแล้วมาคุยกันก่อน” อีกฝ่ายส่ายหัวทันที เสียงหัวเราะดังออกมาราวกับคนคุ้มคลั่ง
“ไม่คุย กูกับมึงไม่มีอะไรต้องคุยกัน ถ้าอยากคุยก็ไปคุยในนรก!” เสียงกรีดร้องของคุณวิไลลักษณ์ดังขึ้นเมื่อณกรตัดสินใจใช้มีดปาดคอเธออย่างแรงและเร็วจนเลือดพุ่งไปโดนสองพ่อลูกทันที สิงห์มองแม่ตนเองอย่างตกใจหัวใจเต้นรัวเร็วพร้อมกลิ่นเลือดที่กระเด็นมาถูกหน้าเขา หนุ่มวัยรุ่นสั่นอย่างไม่เคยเป็นมองมารดาที่ทรุดลงกับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลนอง
“แม่!!/วิไล!!” ทั้งสองคนตะโกนลั่นดังกลบเสียงฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงหัวเราะของณกรดังลั่นก่อนจะจ้องมองสองพ่อลูกด้วยความสะใจ ยิ่งเห็นแววตาที่สะท้อนความเสียใจทำให้เขาแสยะยิ้มออกมาเดินไปนั่งข้างคุณวิไลลักษณ์ที่ตอนนี้หมดลมหายใจไปแล้ว เขาชูมีดขึ้นเหนือศีรษะและแทงลงไปที่หน้าท้องของเธออย่างแรง
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัดพร้อมกับร่างของณกรที่ล้มลงกับพื้น ดวงตายังคงลืมขึ้นราวกับยังไม่พร้อมที่จะจากไป มือหนาลดมืนในมือลงอย่างสั่นๆ เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องมายิงเพื่อนรักที่คบหากันมานาน คุณมังกรเดินเข้าไปหาภรรยาหลังจากวางปืนลงแล้ว สิงห์วิ่งไปกอดร่างที่ไร้วิญญาณของมารดา
“วิไลพี่ขอโทษ” เขาควรจะตัดสินใจยิงณกรก่อนที่มันจะลงมือฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยม สิงห์ร้องไห้กอดแม่เอาไว้ไม่ปล่อย พยายามเขย่าตัวเพื่อเรียกให้อีกฝ่ายตื่น “แม่ตื่นมาคุยกับสิงห์ก่อน แม่ครับ” คุณมังกรมองลูกชายอย่างสงสารเพราะรู้ว่าตลอดมาลูกสนิทกับมารดามากแค่ไหนหัวใจของหนุ่มวัยรุ่นแตกออกเป็นเสี่ยงเมื่อเสียบุคคลที่รักมากที่สุดไปต่อหน้าต่อตา
“แม่!” ร่างสูงสะดุ้งตื่นจากฝันอันโหดร้ายแม้เวลาจะผ่านไปแล้วกว่า 16 ปี แต่เขาก็ยังจำภาพนั้นได้ติดตา ภาพของมารดาที่ถูกปาดคออย่างเลือดเย็น กลิ่นเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เสียงฝนตกกระทบหลังคาและความหนาวที่โอบล้อมบรรยากาศโดยรอบ จำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนแม้คนที่ทำร้ายแม่เขามันจะตายไปแล้วก็ตาม
สายตาคมมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลที่ตั้งอยู่โต๊ะเล็กข้างเตียงเมื่อเห็นเป็นเวลาตีห้าเขาจึงลุกขึ้นเดินไปใส่เสื้อกล้ามเพื่อไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้านทันที สิงห์ เดชดำรงกุล ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มเต็มตัวทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอกด้วยความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบหก มัดกล้ามสมชายที่มีจากการฝึกซ้อมกีฬา ผิวแทนจากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใบหน้าคมมีไรหนวดสมชายชาตรี ดวงตาเรียวยาวที่หากมองใครอีกฝ่ายเป็นอันต้องหลบตาทันที เขากลายเป็นหนุ่มรูปหล่อที่ถูกยกให้เป็นนักธุรกิจกำลังมาแรงแห่งปี
เดินลงมาข้างล่างก็พบกับผู้ติดตามยืนโค้งให้ทั้งสองฝั่งบันได เนื่องด้วยธุรกิจที่เขาทำมีทั้งสุจริตและใต้ดินที่ไม่ถูกกฎหมายทำให้ต้องมีคนคุ้มกันตลอดเวลา ร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยทั่วไปเดินออกไปหน้าบ้านก่อนจะเริ่มวิ่งไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าคมนิ่งขรึมเช่นเดิมราวกับไร้ความรู้สึก เพราะยังเช้ามากจึงแทบไม่มีคน สิงห์ให้คนติดตามเฝ้าดูห่างๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเขาเอง
“ป้าช้อยมีอะไรให้พระพายช่วยไหมคะ” สาวน้อยวัยยี่สิบสองปีเดินลงมาจากบนบ้านในเวลาตีห้าครึ่งก่อนจะเลี้ยวมายังห้องครัวที่ตอนนี้กำลังเริ่มทำอาหารเช้าเพื่อเสิร์ฟในเวลาหกโมงครึ่ง ฟ้ายังไม่ทันสว่างแต่คนตื่นเช้าเป็นกิจวัตรกลับอยู่ในชุดเรียบร้อย ผมยาวถูกรวบไว้อย่างเป็นระเบียบใบหน้าหวานทาด้วยแป้งอ่อนๆ และปัดสีเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา ปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนยามแย้มยิ้มราวกับดอกไม้บานยามเช้าจนคนมองต้องยิ้มกลับ
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ใกล้เสร็จแล้ว” ป้าช้อยแม่บ้านเก่าแก่ที่อยู่มานานหันมาเอ่ยกับหญิงสาวที่เลี้ยงมาแต่เด็กด้วยความรัก
“วันนี้ทำอะไรกินคะ” ชะโงกไปดูหม้อต้มก็พบข้าวต้มกุ๊ยของโปรดคุณลุงกับเบรคฟัสของพี่สิงห์ ส่วนเธอนั้นชอบทานแซนด์วิชในตอนเช้าแม่บ้านจึงต้องทำทั้งสามอย่าง หากบางวันก็ทำข้าวต้มเพียงอย่างเดียว
“ยังไม่ทำแซนด์วิชใช่ไหมคะ เดี๋ยวพระพายทำเอง” มองดูจนทั่วก็เห็นแผ่นขนมปังวางอยู่เธอจึงเดินไปยังอาหารเช้าของตนเอง
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวยายทำ” ยายดาวเรืองแม่นมอีกคนที่ดูแลเธอมาแต่เด็กเดินเข้ามาพร้อมถุงส้มที่ฝากเด็กในบ้านไปซื้อ แม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูแข็งแรงอยู่
“ของพระพายเดี๋ยวพระพายทำเองค่ะ นะคะ ตื่นเช้ามาไม่มีอะไรทำเลย” หล่อนวางพลางเดินไปกอดแขนคุณแม่นมที่เลี้ยงมา หญิงสูงวัยทั้งสองมองหน้ากันก่อนยิ้มให้กับความน่ารักของคุณหนูคนเดียวของบ้าน
“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณหนูทำแซนด์วิชแล้วยายจะทำน้ำส้มคั้นให้” พยักหน้าอย่างเร็ว “ตกลงตามนั้นค่ะ” เมื่อทุกอย่างเป็นที่พอใจแล้วพระพายจึงลงมือทำแซนด์วิชอาหารเช้าของตนเองทันที เวลาผ่านไปทั้งสามทำอาหารเสร็จพอดีกับที่สิงห์กลับเข้ามาภายในบ้านพร้อมเหงื่อที่ท่วมตัว เขาเดินขึ้นไปบนบ้านทันทีก่อนจะพบคมิก กุลโรจน์เลขาด้นการบริหารงานต่างๆ
กิจการของบ้านเดชดำรงกุลมีมากมายทั้งโรงแรมและคาสิโน เปิดเช่าเรือยอร์ชกว่าหนึ่งพันลำและเป็นที่กล่าวขานกันอย่างกว้างขวางคือเรือเฟอร์รี่คาสิโนขนาดใหญ่ที่เขาสั่งทำโดยเฉพาะเพื่อโกยเงินจากนักเสี่ยงโชคจากทั่วสารทิศ เดือนหนึ่งจะมีเพียงหนึ่งครั้งทุกคนจึงเฝ้ารอกันเพราะหากใครได้ก็กลายเป็นเศรษฐีในชั่วค่ำคืนทันที
“วันนี้คุณสิงห์ต้องไปตรวจ Variete Hotel ตอนแปดโมงถึงสิบเอ็ดโมง แล้วก็มีนัดคุยขยายกิจการคาสิโนที่พม่ากับคุณชิโนกิจนถึงบ่ายสาม ตรวจ Lumiere Pub จนถึงสองทุ่มแล้วไปรับคุณพระพายครับ” เขาชะงักเสื้อที่กำลังจะถอดออก
“วันนี้พระพายเลิกเรียนสองทุ่มหรือ” ใบหน้าคมฉายแววฉงนจน เลขาที่มาทำงานในเวลาหกโมงต้องตอบอย่างละเอียด
“ครับ เธอมีเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสครับ” พูดจบคมิกก็วางเอกสารทั้งหมดลงที่โต๊ะทำงานของเขาก่อนจะออกไปจากห้องเพื่อให้เวลาส่วนตัวกับผู้เป็นเจ้านาย สิงห์เดินมาดูเอกสารโดยหยิบข้อมูลตารางเรียนของ พระพาย คณานนท์ ขึ้นมาอ่านเกี่ยวกับวิชาที่เรียนในแต่ละวันและอาจารย์ที่สอน เขาตรวจดูทุกอย่างของหญิงสาวก่อนจะวางลงเมื่อละความสงสัยแล้ว ร่างสูงถอดกางเกงออกแล้วพันผ้าขนหนูรอบเอวเดินไปเข้าห้องน้ำทันที
โต๊ะอาหารพร้อมในเวลาหกโมงครึ่งโดยมีพระพายนั่งรอก่อนแล้ว วันนี้เธอเรียนสิบโมงครึ่งจึงไม่ต้องรีบ ที่จริงแล้วจะตื่นสายก็ได้แต่ด้วยความเคยชินที่ตื่นเวลานี้เป็นปกติจึงลงมาช่วยแม่บ้านทำอาหารเช้า คุณมังกรนั่งหัวโต๊ะ สิงห์เดินลงมาจากบนบ้านด้วยชุดสูทเรียบหรูนั่งฝั่งซ้ายมือของบิดา ส่วนพระพายนั่งฝั่งขวามือของคนเป็นประมุขแห่งบ้านหลังนี้ เมื่อทุกคนพร้อมแล้วจึงเริ่มลงมือทานอาหารเช้า
“ใกล้จบแล้วหนูจะไปเรียนต่อปริญญาโทเลยไหม” คุณมังกรเอ่ยถามหลานสาวที่เขารับมาเลี้ยงตั้งแต่เธอยังอายุเพียงสิบสองปีด้วยความเอ็นดู
“พระพายอยากอยู่ทำงานที่ไทยก่อนค่ะ” ความตั้งใจจริงของเธอคือการได้ไปศึกษาปริญญาโทที่ประเทศฝรั่งเศส อยากจะไปดูโลกภายนอก ทำงานแปลภาษาหรืองานบริษัทที่ต้องติดต่อกับผู้คน หากแต่เมื่อมองไปพบคนตรงหน้าแล้วความงันของเธอกลับมลายไปหมด เธอเพียงแค่อยากอยู่ตรงนี้ อยากอยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปช่วยงานที่โรงแรมพี่สิงห์เขาแล้วกัน ช่วงนี้ต้องติดต่องานกับทางฝรั่งเศสไม่ใช่หรือ” เขาตั้งใจว่าจะไปตีตลาดฝั่งยุโรปโดยเริ่มจากฝรั่งเศสหากก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักเพราะต้องเริ่มดำเนินการที่ประเทศพม่าก่อน
“ผมแค่คิดไว้ยังไม่ได้เริ่มวางโครงการครับ” ใบหน้าหวานหมองลงทันทีเมื่อได้ฟังอย่างนั้น สิงห์ก้มลงทานอาหารของตนเองต่อไป คุณมังกรเองเห็นหลานสาวหงอยลงก็ยิ้มให้แล้วถาม
“ถ้าอย่างนั้นไปตีกอล์ฟกับลุงก็ได้ เป็นแคดดี้สาวให้ลุง ดีไหม” พระพายพยักหน้าพลางตอบผู้มีพระคุณ “ได้อยู่แล้วค่ะ พระพายเก็บลูกกอล์ฟเก่งนะ” สองลุงหลานเอ่ยแซวกันโดยที่สิงห์ไม่ได้ร่วมวงด้วยหากก็นั่งฟังโดยไม่ได้เอ่ยขัด คุณมังกรเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ปลดระวางจากกิจการทั้งหมดให้ลูกชายดูแลแต่ก็ยังมีบารมีอยู่มากโข เป็นมังกรเฒ่าที่ยังมีเขี้ยวเล็บหากแต่เก็บเอาไว้เท่านั้น กับหลานสาวที่รักท่านก็ทำทุกอย่างให้เธอมีความสุขแทนน้องคนสนิทของเขาที่จากไปโดยทิ้งของล่ำค่าให้เขาดูแล
“คุณลุงคะ พรุ่งนี้พระพายจะไปทำบุญให้คุณพ่อนะคะ” เมื่อนึกขึ้นได้จึงรีบบอกทันที บิดาของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน เมื่อครบรอบวันจากไปของท่านเธอมักจะไปทำบุญให้และดูแลอัฐิของท่านเสมอ
“เดี๋ยวพี่ไปด้วย” สิงห์เอ่ยขึ้นพระพายจึงยิ้มให้เขาแม้จะไม่ได้รอยยิ้มกลับมาก็ได้ เธอชินเสียแล้วล่ะ
“ลุงก็จะไปเหมือนกัน ไม่ได้ไปตั้งสองปีแล้ว ไปหาน้องชายที่รักเสียหน่อยเดี๋ยวจะน้อยใจเอา” บิดาของพระพายหรือคุณจักรีวุธ คณานนท์เป็นน้องรักของมังกรที่รู้จักกันมานับยี่สิบปีก่อนอีกฝ่ายจะนำลูกมาฝากเขาไว้พร้อมกับจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“คุณพ่อคงดีใจที่มีคนไปหาเยอะขนาดนี้” ดวงตากลมโตฉายแววแห่งความสุขจนสิงห์ต้องก้มลงมองจานตรงหน้า เขาไม่อยากยอมรับว่าตนเองหลงรักสาวน้อยตรงหน้าหากก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจของเขามีเธอจับจองเต็มไปหมดแล้ว ใบหน้าหวานที่ยามยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน เสียงเล็กที่ไพเราะจนอยากฟังซ้ำ ริมฝีปากบางสีชมพูที่เคยคิดอยากจะลองชิมสักครั้งหากก็ได้เพียงแค่คิดเพราะเขาไม่กล้า ไม่กล้าที่จะดึงเธอเข้ามาในชีวิตของเขาไปมากกว่าสถานะพี่น้อง