3-ไม่เป็นไร(แต่ข้างในโคตรเจ็บ)
(ด็อจ)
"......" สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมนิ่งทันที มันเจ็บปวดตรงอกข้างซ้าย เหมือนใครเอาฝ่าเท้ามาเหยียบหัวใจของผมซ้ำ ๆ ไปมา เจ็บปวดกับภาพตรงหน้าที่เห็น เหมือนมีใครเอาน้ำแข็งเย็นมาถูจนผมหน้าชา คนที่บอกว่ารักผม คนที่มักบอกผมว่าทำงานยุ่ง จนหลัง ๆ เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็เชื่อในคำปากนั้นและไว้ใจ เพราะหน้าที่การงานของเขามันยุ่งจริง ๆ เพราะผมเคยเห็นมาก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเพียงคำลวง
"เป็นอะไรวะด็อจ"
"....."
"ไอ้ด็อจ!"
"หา ห๊ะ!"
แล้วผมก็ต้องรีบคืนสติกลับมาอยู่กับตัว เมื่อเพื่อนเขย่าแขนและตะเบ็งเสียงดังร้องถาม สิ่งที่เห็นนั้นทำให้ผมแทบช๊อก แทบลืมหายใจไป
"พี่ด็อจเป็นอะไรไหม ทำไมสีหน้าพี่ดูไม่โอเคเลย" เป็นขนมปังที่ถามผมต่อ ด้วยสีหน้าที่เธอดูกังวล จ้องมองหน้าผมอย่างพิจารณา
"พี่ไม่เป็นไรครับ ...(แต่ข้างในโคตรเจ็บเลย)..." ผมยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตัวเล็ก ให้คำตอบในสิ่งที่เธอถาม ก่อนจะพร่ำพูดลำพังในใจด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่หัวใจแทบแหลกสลาย
"แน่ใจนะคะ" คนตัวเล็กที่ยืนข้างไอ้ยอนมินถามย้ำผมอีกครั้ง
"ครับ" ผมตอบแค่นั้นแล้วเดินนำหน้าเข้าไปข้างใน ไม่อยากพูดอะไรต่อให้มากความ ไม่อยากให้ใครถามอะไรมากมายต่อจากนี้ เพราะผมคงจะพูดไม่ออกและคงจะบอกไม่ถูก มันจุกมันเจ็บไปทั้งขั้วหัวใจ
(ยอนมิน)
"ปังว่าพี่ด็อจแปลก ๆ" ขนมปังที่ยืนมองตามหลังของเพื่อนแฟน เธอหันมาพูดกับเพื่อน ๆ ของเธอด้วยความสงสัย
ผมก็ได้แต่ยืนรอฟังเงียบ ๆ ผมรู้ดีว่าที่ไอ้ด็อจเป็นอะไร เมื่อเห็นกับใครคนหนึ่งที่มันเคยพาไปแนะนำให้รู้จัก นั่งคลอเคลียทั้งจูบทั้งหอมกับผู้ชายอยู่
"นั่นสิ ดาวเรืองเห็นจ้องมองไปตรงนั้นแล้วพี่เขาก็เงียบ" ดาวเรืองว่าเสริมอย่างออกความเห็นครับ ตอนนี้ทั้งสามสาวยืนสุมหัวพูดคุยกัน เหมือนกับผมไม่มีตัวตน
"ลูกแก้วว่าพี่ด็อจเหมือนคนอกหัก" และนั่นก็เป็นเสียงของเพื่อนอีกคน หวังว่าคงไม่ยืนคุยกันตรงนี้หรอกนะ แต่ผมว่าท่าจะยาว เพราะผู้หญิงถ้าได้เม้านี่ค่อนข้างออกนอกทะเล
"อะแฮ่ม พี่ว่าเราไปนั่งข้างในดีไหม คุยตรงนี้เดี๋ยวเมื่อยขาเอานะ" ผมต้องรีบแทรกบทสนทนาครับ ไม่งั้นยาว~~
"ปะ ๆ เราเข้าไปกันดีกว่า" เป็นเสียงของแฟนตัวแสบของผม ที่เดินจับมือเพื่อนทั้งสองเข้าไปด้านในด้วยความรีบร้อน ส่วนผมนั้นก็ได้แต่เดินตามหลัง คิดห่วงเพื่อนที่ต้องมาเจอเรื่องราวที่คงทำมันเจ็บไม่น้อย
"มาช้าว่ะ" เป็นเสียงของไอ้ศิลาที่ทักพวกผม
"พวกกูมาช้าหรือมึงมาเร็ว พูดให้เคลียร์" ผมย้อนเพื่อน พร้อมกับดึงขนมปังให้นั่งลงข้าง ๆ ส่วนเพื่อนผมอีกคนนั้นเงียบกริบ มาถึงก็จัดการสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียว ซึ่งผมก็รู้ดีว่าเพราะอะไร
"พี่ศิลานี่เพื่อนปังค่ะ ดาวเรืองกับลูกแก้ว จำได้ไหมที่เคยเอารูปให้ดู" แล้วแฟนผมก็แนะนำเพื่อนของเธอกับไอ้ศิลา ส่วนผมเหรอนั่งคลอเคลียเมียอย่างเดียวครับ
"สวัสดีค่ะพี่ศิลา" ทั้งสองสาวทักทายเพื่อนผมพร้อมรอยยิ้มสวย ๆ และสายตาที่จับจ้องมองหน้าเพื่อนของผม
"ครับ" ไอ้ศิลามันตอบแค่นั้นจริง ๆ ครับ แต่มันก็โปรยรอยยิ้มที่แสนจะละลายใจสาว
"เห้ย ๆ เบา ๆ ไอ้ด็อจ" เมื่อเครื่องดื่มที่สั่งมาถูกวางลงตรงหน้า ไอ้ด็อจที่เสียใจเหมือนอกหัก จัดการกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รอใคร จึงทำให้ผมนั้นรีบร้องปรามไว้
"มันเป็นอะไรวะ" ไอ้ศิลาที่ไม่รู้เรื่องราว หันมาถามผม
"เสือก!" แล้วไอ้ด็อจก็ตอบแทรกอย่างหงุดหงิด ซึ่งผมน่ะเข้าใจความรู้สึกของมันดี
"เอ้าไอ้นี่ กูแค่ถามไหม?" ไอ้ศิลามันรีบสวนทันทีด้วยความหัวเสียเลยครับ
"ใจเย็น เพื่อนกันบางทีไอ้ด็อจอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจก็ได้ มา ๆ ชนดีกว่า" ผมรีบแย้งเมื่อเห็นไอ้ศิลาเหมือนเคืองเพื่อน
"ขอชนด้วยได้ไหมคะ...ขอวันหนึ่งได้ปะ?" นั่นไงยัยตัวแสบของผม เริ่มออดอ้อนขอดื่มอีกแล้ว
"ดื่มแค่นั้นพอครับ น้ำสีสวยกับคนสวย ๆ เดี๋ยวคืนนี้หนูไม่มีสติ มันจะ..." ผมกระซิบลงข้างหูเธอที่ได้ยินเพียงสองคน
"อย่ามา..." เธอเขม็งตาใส่ผมเหมือนจะรู้ทันว่าผมหมายถึงอะไร
"ไม่มีข้อแม้ครับ ผัวให้ดื่มแค่นั้น หรือไม่งั้นก็กลับบ้านดีไหม?" ผมแข็งข้อครับเพราะเป็นห่วงเธอ
"เหมือนพวกกูไม่มีตัวตน เป็นธาตุอากาศไว้ประดับโต๊ะมึงเนาะไอ้ยอนมิน" ผมหันไปตามเสียงที่พูดแซว และมีสายตาหลายคู่มองมาที่ผมกับขนมปังแล้วยิ้ม สองสาวเพื่อนของเธอก็เช่นกัน
"อิจฉานะคะ เห็นใจคนโสดอย่างลูกแก้วบ้าง" เป็นลูกแก้วครับที่แซวผมกับขนมปัง
"ถ้าไม่อยากโสด มาลองคบกับพี่ดูไหมครับ"
((!!!))