2 ประกาศให้รู้
2 ประกาศให้รู้
รักเจ็ดปีของไลลาจบลงเพราะเพื่อนสนิท สิ่งที่ไลลาต้องการในเวลานี้คือการโอบกอดจากใครสักคน ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของไลลาและเป็นสิ่งที่เธอหามาถูกประกาศขายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถ คอนโดหรือบ้านที่ตั้งใจจะเอามาใช้เป็นเรือนหอไม่เหลือเอาไว้สักอย่าง
หลายครั้งที่ผู้ชายหน้าด้านคนนั้นพยายามอ้อนวอนขอร้องให้เธอเห็นใจ แรก ๆ เธอก็รู้สึกใจอ่อนเพราะความผูกพันที่มีร่วมกันมาตลอดเจ็ดปี แต่พอหวนคิดเรื่องวันที่พลพลตบหน้าทำร้ายร่างกายเธอ ไลลาจึงหยุดทุกอย่างและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปพูดคุยดีกับหญิงชั่วชายโฉดพวกนั้นอีกเป็นอันขาด
บริษัทรับจัดดอกไม้ชื่อดังที่ไลลาเป็นเจ้าของ ประกาศงดรับงานโดยไม่มีกำหนด ส่วนงานที่ยังค้างอยู่ให้พนักงานและหุ้นส่วนเป็นผู้ดำเนินการต่อตามกำหนดการเดิม
หญิงสาวหอบหัวใจอันเจ็บช้ำกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด เธอยังจำหน้าบิดาและมารดาของพระพายเพื่อนสนิทได้เป็นอย่างดีและจำได้ว่าคนพวกนั้นมักจะมาพึ่งพิงครอบครัวเธออยู่บ่อย ๆ
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่บ้าน คนตัวเล็กแจ้งกับครอบครัวเอาไว้แล้วว่าจะกลับมาถึงในเย็นวันนี้และตั้งใจจะอยู่ที่นี่สักสองเดือนหรือสามเดือน ให้เธอหายเหนื่อยแล้วจึงค่อยกลับไปสู้งานที่เธอรักต่อในอนาคต
“อ้าว ยายบัว ลูกสาวแกถูกผัวทิ้งมาเหรอ ถึงได้หอบข้าวหอบของกลับมาจากกรุงเทพ” ดาวประกายมารดาของพระพายตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นหน้าของไลลาเมื่อลงมาจากรถ
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่พยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุด นี่น่าจะไม่รู้เลยใช่ไหมว่าลูกสาวตัวดีไปสร้างวีรกรรมเอาไว้บ้าง
“แม่....จ๋า...คิดถึงจัง” เมื่อลงจากรถไลลาก็เดินไปโอบกอดมารดาโดยไม่ได้สนใจว่าดาวประกายจะค่อนแคะเธออย่างไร
“เป็นยังไงเหนื่อยไหมไล” บัวสอนโอบกอดบุตรสาวอย่างรักใคร่ เธอรู้เรื่องนี้แล้ว รู้ทุกอย่างเพราะบุตรสาวไม่เคยมีเรื่องปิดบัง บัวสอนเคยบอกกับเจ้าตัวน้อยของเธอเอาไว้ว่า หากมีเรื่องทุกข์ใจอย่าได้เก็บไว้คนเดียว ช่วยบอกให้พ่อกับแม่แบ่งเบา และไลลาก็ทำแบบนั้นจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกถึงรายละเอียดสาเหตุที่เด็กสองคนเลิกรากัน
“เหนื่อยจังเลยแม่ ไลอยากกินแกงเห็ด” เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมแขนของผู้เป็นมารดา ไลลาถึงกับน้ำตารินเวลาพูดจึงเจือเสียงสะอื้น
“ตายจริงทำไมไม่บอกล่วงหน้าสักหน่อยเล่า พรุ่งนี้ตื่นเช้าก็ออกไปกับพ่อเขาสิ” บัวสอนบอกบุตรสาว
“โอ๊ะ นานมากแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น” ความทรงจำสมัยเด็กของไลลากลับคืนมา เด็กต่างจังหวัดอย่างเธอในสมัยนั้นมีอะไรให้ได้ทำเยอะแยะเต็มไปหมด ตั้งแต่เดินเก็บเห็ดป่าหรือเล่นน้ำตกกับเพื่อน ๆ ในลำธาร
ครั้นคิดถึงเพื่อนใบหน้าของพระพายก็แทรกเข้ามาในหัวสมอง ‘เพื่อน’ ตลกจริง ๆ เพื่อนที่ไหนเขาทำแบบนั้น
“นี่นังไลตาบวมแบบนั้น คือร้องไห้เพราะถูกผัวทิ้งมาเหรอ” ดาวประกายขัดบทสนทนาของสองแม่ลูกอย่างจงใจ เพราะเธอเดาเอาจากการที่อีกฝ่ายดูตาบวม ใบหน้าก็ดูอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนมาหลายวัน สิ่งที่ดาวประกายคิดออกอย่างเดียว นั่นก็คือต้องถูกผัวทิ้งมาแน่ ๆ
ไลลาได้ยินสิ่งที่เพื่อนบ้านของแม่กล่าวออกมา ในที่สุดก็อดทนเอาไว้ไม่ได้อีก เธอตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เงียบ ๆ แล้วเชียวแต่อีกฝ่ายยังทำนิสัยแบบนี้ไม่เลิก
“แม่ แม่จะโกรธไลไหมถ้าไลทำให้แม่เสียเพื่อนไปสักคนหนึ่งน่ะ”
“ไลใจเย็น ๆ นะลูก” บัวสอนรู้นิสัยของบุตรสาวตัวเองดีว่าเป็นอย่างไร รายนี้อย่าให้ได้โมโห อะไรก็ฉุดเอาไว้ไม่อยู่
“แล้วป้าดาวรู้ไหม ว่าใครเป็นคนแย่งผัวหนูไป” ไลลาลุกขึ้นยืนกอดอกประจันหน้ากับผู้หญิงที่อายุมากกว่าเธอ
ดาวประกายเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นอย่างไร ตอนแรกที่เห็นว่าไม่พูดอะไร ก็เพราะคิดว่าอีกฝ่ายไปอยู่กรุงเทพนิสัยบางอย่างที่เคยเป็นน่าจะเปลี่ยนไปบ้าง
“ฉะ...ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าใครแย่งผัวแก” ดาวประกายเริ่มรู้สึกขนลุกแปลก ๆ
“รอแป๊บนะป้า ฉันจะบอกให้ฟัง...แล้วก็จะบอกให้คนทั้งตำบลรู้ด้วยว่าใครแย่งผัวฉันไป”
“อู้ยยย จะไปประกงประกาศทำไม ผัวถูกคนแย่งไปก็อายพอแล้วนะ” ดาวประกายยังคงไม่สำนึกและไม่รู้สึกตัว
ปกติในบ้านของบิดามักจะจัดงานเลี้ยงอยู่บ่อย ๆ เงินที่ไลลาส่งให้คนที่บ้านได้กินได้ใช้ ท่านก็เอาไปลงกับเครื่องเสียงจนมูลค่าไปไกลถึงหลักหลายหมื่น อันที่จริงครอบครัวของเธอก็ไม่ได้จนเป็นครอบครัวที่มีอันจะกินด้วยซ้ำ ไลลายังเคยบ่นบิดาอยู่หลายครั้งเรื่องเครื่องเสียง วันนี้กลับรู้สึกว่ามีประโยชน์ คนตัวเล็กเดินไปเสียบปลั๊กเปิดไมค์และเร่งเสียงของเครื่องเสียงของบิดาจนดังเกือบสุด
“ฮัลโหล ฮัลโหล ทดสอบ!!” ไลลาทดลองไมค์ของบิดาเพื่อดูว่าเสียงมันดังพอหรือยัง
“ไลทำอะไรน่ะลูก” บัวสอนเดินไปเขย่าตัวบุตรสาวให้เธอมีสติ
“แม่ไม่เห็นเป็นไรเลยก็ในเมื่อป้าดาวประกาย...แสด อยากรู้ไลก็จะบอกให้ไงว่าใครที่เป็นคนแย่งแฟนของไลไป”
ดาวประกายอิจฉาริษยาเพื่อนสนิทอย่างบัวสอนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอเคยชอบบิดาของไลลา แต่ฝ่ายนั้นไม่เคยชายตามองเธอเลยสักครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตกลงปลงใจกับบัวสอนเพื่อนสนิทของเธอ ส่วนเธอก็ได้หมั้นหมายกับสามีขี้เหล้าไม่เอาการเอางาน ตั้งแต่นั้นมายิ่งถ้าเธอเห็นครอบครัวนี้ฉิบหายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกสะใจเท่านั้น
“เอาสิ รีบ ๆ พูด ฉันทนไม่ไหวแล้วอยากฟังใจจะขาด” ดาวประกายยิ้มเยาะ ในเมื่ออยากประกาศให้โลกรู้ว่าถูกทิ้งก็เชิญเลย
ไลลายกยิ้มมุมปาก อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าเธอได้พูดออกไปแล้วผู้หญิงคนนั้นจะทำหน้าแบบนั้นได้อีกนานแค่ไหนกัน
“ทุกคนคะ หนูคือลูกสาวยายบัวกับตาอิน เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพเพราะเพิ่งเลิกกับแฟนค่ะ” ไลลาประกาศเสียงดัง ชาวบ้านชาวช่องในบริเวณนั้นเริ่มออกมาจากบ้านของตัวเอง บ้างก็เดินมาที่หน้าบ้านของเธอ บ้างก็ยืนฟังเงียบ ๆ อย่างตั้งใจ “แล้วหนูก็จะประกาศให้ทุกคนทราบว่าคนที่แย่งแฟนของหนูก็คือพระพายลูกสาวยายดาวค่ะ ทั้งสองคนไปเอากันอยู่บนเตียงนอนหนูอย่างหน้าด้าน ๆ ทุกคนก็รู้ใช่ไหมคะ พระพายกับหนูเป็นเพื่อนสนิทกัน เล่นด้วยกัน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ยังเด็ก”
“อีไล มึงพูดอะไร” ดาวประกายได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า “มึงมีหลักฐานอะไรมาใส่ความลูกสาวกู”
แน่นอนว่าเธอมีหลักฐาน โชคดีที่เธอแอบอัดเสียงเอาไว้ด้วย ไลลาจึงเปิดคลิปเสียงวันนั้นจ่อลำโพงใส่ไมค์และเปิดให้ทุกคนได้ฟังพร้อม ๆ กัน