บทที่ 3
“ลองไปคุยกับผู้จัดการดีกว่าครับ” เขาเอ่ยแนะซ้ำ “บางทีเพื่อนชายของคุณอาจจะย้ายไปพักที่อพาร์ตเมนท์อื่นแล้ว หรือมิฉะนั้นก็อาจจะหาที่อยู่ที่ราค่างวดมันถูกกว่านี้อยู่ก็ได้”
“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้” แชนนอนก็คาดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมริคไม่บอกให้เธอรู้เล่า ?
“ผมจะคอยคุณอยู่ก่อนครับ...เผื่อว่าบางทีคุณอาจจะต้องใช้รถอีก” เขาอาสาขึ้น
“ขอบใจมากเลยค่ะ” แชนนอนตอบเสียงเบาเดินตัดห้องโถงตรงไปยังห้องผู้จัดการ กำจดหมายของริคไว้แน่น ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องแรง ๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาเปิดรับ
ผู้ชายในวัยสูงอายุคนหนึ่งเป็นผู้เดินมาเปิดประตู จ้องหน้าสาวน้อยผ่านแว่นสายตาหนาเปอะกวาดสายตาไปยังกระเป๋าเดินทางที่ตั้งอยู่ในห้องโถง ก่อนที่จะเบือนกลับมามองเธออีกครั้งด้วยสายตาคมปราบ
“ฉันชื่อแชนนอน เฮย์ ค่ะ...” เธอรีบแนะนำตัวออกไปก่อน
“เสียใจด้วยครับคุณ” ผู้ชายซึ่งมีท่าว่าคงจะเป็นผู้จัดการขัดขึ้นทันที เดาสุ่มเอาเองถึงเหตุผลที่ว่า ทำไมเธอจึงต้องมายืนอยู่ตรงหน้า “เวลานี้ห้องพักของเราไม่ว่างเลยสักห้องเดียว แต่ผมก็ยินดีที่จะใส่ชื่อของคุณไว้ในบัญชีก่อน แต่ยังมีคนอื่นก่อนหน้าคุณอีกตั้ง 4 คนแน่ะ”
“เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คุณยังไม่เข้าใจ ฉันมาตามหาริค แฟริสต่างหากค่ะ ฉันเป็นคู่หมั้นของเขาเอง” แชนอนรีบอธิบายเพื่อมิให้เขาเข้าใจผิด ๆ อีกต่อไป
“อ้าว...นี่เขาเล่นงานคุณเข้าด้วยแล้วสินะ” ผู้จัดการอพาร์ตเมนท์ผู้นั้นคำรามใส่เธอทันที “เอาละ ถ้าอย่างนั้น...สมมุติว่าคุณไปพบเขาเข้าละก้อ ช่วยบอกเขาด้วยก็แล้วกันว่าเขายังค้างค่าเช่าอยู่อีกอาทิตย์หนึ่ง จ่ายเมื่อไหร่ก็คืนข้าวของที่ทิ้งไว้ให้ทันทีเหมือนกัน”
“เอ๊ะ...ก็หมายความว่าริคไม่ได้อยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือคะ ?” แชนนอนรู้สึกสะท้านเยือกขึ้นมาตลอดไขสันหลัง ความไม่สบายใจกำลังขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ
“ผมคิดว่าเพิ่งจะบอกคุณไปหยก ๆ นะ” ผู้จัดการเอียงคอตอบอย่างไม่ใคร่พอใจนัก
“แล้วเขาให้ที่อยู่ใหม่ไว้กับคุณหรือเปล่าคะ ?” สัญญาณอันตรายเริ่มกริ่งเตือนขั้นแล้ว เพราะทั้งหลายแหล่ที่เกิดขึ้นนี้ เหมือนไม่ใช่นิสัยของริคเลยจริง ๆ เพราะริคเป็นคนที่รอบคอบสุขุม และมักจะไตร่ตรองก่อนที่จะทำอะไรลงไป เขาจะวางแผนล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง เหมือนการขับเครื่องบิน ซึ่งจะต้องศึกษาลู่ทางก่อนที่จะลงมือบินจริง ๆ แต่นี่ เขาส่งตั๋วเครื่องบินไปให้เธอ แต่แล้วก็ไม่ได้ไปรับที่สนามบินตามกำหนดที่เธอได้แจ้งมาไว้ล่วงหน้า และเมื่อมาถึงเวลานี้ เธอก็ยังได้พบอีกว่าเขาได้ย้ายจากอพาร์ตเมนท์แห่งนี้ไปแล้ว
“เปล่าเลย ไม่เห็นบอกอะไรไว้นี่จะไปอยู่ที่ไหน” ผู้จัดการตอบ “ตอนจะไปยังไม่บอกให้รู้ด้วยซ้ำ ผมเองก็ไม่ได้คิดสงสัยว่าเขาจะไปเหมือนกัน จนกระทั่งเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ก่อนหน้าที่จะถึงกำหนดจ่ายค่าเช่าสัก 2 วันเห็นจะได้ เขาก็เดินถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาผมก็เตือนเขาเหมือนกันว่าจะถึงเวลาจ่ายค่าเช่าแล้วนะ แต่เขาก็ยังบอกว่าจะกลับมาจัดการให้ทันเวลา แต่ก็ไม่ได้เห็นหัวอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น มันก็ไอ้ฉ้อฉลแบบเก่า ๆ นั่นแหละ ในที่สุดผมก็ต้องยอมรับว่าตัวเองถูกโกงเข้าแล้วจริง ๆ ถ้าจะว่าไปท่าทางของเขาก็ไม่ใช่คนอย่างนั้นนะ ผมยังคอยอยู่อีกตั้งอาทิตย์กว่าจะให้คนอื่นมาเช่าต่อน่ะ”
“หมายความว่าริคออกไปจากที่นี่ตั้ง 2 อาทิตย์แล้วอย่างนั้นหรือคะ ?” แชนนอนพยายามจะให้ตัวเองตระหนักในความเป็นจริง “ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเขาจะต้องไม่ได้รับโทรเลขที่ฉันส่งมาแน่ เพราะฉันบอกมาด้วยว่าจะมาถึงเวลาไหน”
“โทรเลขใช่ไหม ?...อือ..จริงสิ เมื่อ 2-3 วันก่อนมีโทรเลขฉบับหนึ่งส่งมาถึงเขาเหมือนกัน” ผู้จัดการวัยกลางคนยืดร่างขึ้น มองแชนนอนอย่างจะพิจารณาอีกครั้ง “ผมไม่รู้จะส่งต่อไปที่ไหนได้ ก็เลยเก็บมันไว้ที่นี่ เพราะคิดว่าเขาจะต้องกลับมาเอาเข้าของอยู่เหมือนกัน”
“ริคทิ้งอะไรไว้ที่นี่บ้างล่ะคะ ?... ขอดูหน่อยได้ไหม ?”
ท่าทางของผู้จัดการดูจะลังเลขึ้นมา
“จะดูก็ได้ แต่ผมเห็นจะมอบให้คุณไปไม่ได้หรอกนะ” เขายอมตกลงด้วยในที่สุด หลีกทางให้เธอเดินเข้าไปในห้อง “ผมเก็บรวมๆ ใส่กล่องไว้ 2 ใบ ที่จริงมันไม่ใช่ข้าวของมีค่าอะไรนักหรอก” เขาชี้ให้เธอดูกล่อง 2 ใบที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องนั่งเล่น “ถ้าในอีกวันสองวันนี้ยังไม่มา ก็เห็นจะต้องเอาขึ้นไปเก็บในห้องเก็บของชั้นบนเสียแล้ว จะได้พ้น ๆ ทางเสียที”
แชนนอนคุกเข่าลงเปิดกล่องใบหนึ่งดู ข้าวของในนั้นส่วนใหญ่เป็นของเหลือใช้ มีเสื้อผ้าปนอยู่ไม่กี่ชิ้นเป็นเสื้อเชิร์ตกับกางเกงยีนส์เก่า ๆ ที่ใช้สวมใส่อยู่ทุกวัน, ในกล่องใบที่ 2 มีรูปของเธอเองบรรจุอยู่ในกรอบสีทองเรียบร้อยปนอยู่ด้วย เป็นรูปที่เธอเซ็นมอบไว้ให้กับเขาด้วยความรักสนิทใจ มือของสาวน้อยกระชับกรอบรูปนั้นแน่น
“ริคไม่น่าจะทิ้งข้าวของพวกนี้ไว้เลย” เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ สีหน้าของผู้จัดการบอกความเห็นใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “วันที่คุณเห็นเขาถือกระเป๋าเดินทางเข้ามา ริคบอกหรือเปล่าคะว่าเขาจะไปไหน”
“ไม่เลย” ผู้จัดการอพาร์ตเมนท์ส่ายศีรษะ “แล้วผมก็ไม่ได้ถามด้วย เพราะตอนนั้นคิดเสียว่ามันไม่ใช่ธุระอะไรของผมนี่”
“แต่นี่มันไม่ใช่ลักษณะนิสัยของริคนะคะ” อีกครั้งหนึ่งที่แชนนอนปรารถ คล้ายจะพูดกับตัวเองมากกว่า
“คนเรามันก็เปลี่ยนแปลงกันได้ทั้งนั้นละ” เขายักไหล่อย่างไม่แยแสด้วย
“ไม่จริงหรอกค่ะ” แชนนอนไม่อาจจะยอมรับในความคิดเห็นนั้นได้ วางกรอบรูปลงในกล่องก่อนที่จะยืนขึ้น “เรื่องนี้จะต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังแน่ ซึ่งเวลานี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันควรจะเป็นอะไรแต่จะต้องหาให้ได้...จะด้วยวิธีใดก็ตาม”
“ก็ขอให้คุณโชคดีก็แล้วกัน” ผู้จัดการวัยสูงอายุดูเหมือนจะพูดได้แค่นั้น
“ขอบคุณค่ะ” แชนนอนเปิดกระเป๋าถือ หยิบกระเป๋าหนังใส่เงินขึ้นมา “ริคเป็นหนี้คุณอยู่เท่าไรล่ะคะ ?...ฉันจะจ่ายแทนให้เอง แล้วก็ขอรับของพวกนี้ไปด้วย
คราวนี้ดูเหมือนผู้จัดการอพาร์ตเมนท์ จะชะงักงันไป
“ผมไม่ต้องการจะทำให้คุณต้องเสียเงินเสียทองหรอกคุณผู้หญิง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” แชนนอนยืนยัน “เพราะถึงอย่างไรริคกับฉันก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว”
ท่าทางของเธอออกจะลังเลใจอยู่ แต่ในที่สุดก็ยอมบอกจำนวนเงินอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะมันคล้ายจะขัดกับคุณธรรมในใจอยู่ที่จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายชำระหนี้ให้แทนผู้ชาย ขณะที่ผู้จัดการอพาร์ตเมนท์เขียนใบเสร็จรับเงินอยู่บนโต๊ะทำงานเล็ก ๆ เพื่อเป็นหลักฐานการจ่ายเงินแชนนอนก็แบกกล่องใบหนึ่งเดินออกมายังห้องโถงของโรงแรม ซึ่งขณะนี้ คนขับแท็กซี่คนเดิมยังยืนคอยอยู่ใกล้กองกระเป๋าเดินทาง
“ได้เรื่องอะไรบ้างไหมครับ ?” เขาเอ่ยถามขึ้นเรียบ ๆ
แชนนอนส่วยศีรษะ
“มีกล่องอีกใบอยู่ข้างใน ช่วยเข้าไปยกมาหน่อยได้ไหมคะ ?”
“ได้สิครับ” คนขับรถตอบอย่างเต็มอกเต็มใจเดินเข้าไปในห้องของผู้จัดการ ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ผู้ชายคนนั้นเดินสวนเอาใบเสร็จออกมาให้แชนนอนพอดี
“ถ้าคุณได้ข่าวจากริค...หรือว่าถ้าบังเอิญเขาแวะมา ช่วยกรุณาบอกเขาด้วยได้ไหมคะว่าฉันจะพักอยู่ที่...” แชนนอนชะงัก ประโยคคำพูดปล่อยให้ค้างไว้แต่นั้น มองเลยไปยังคนขับรถซึ่งกำลังเดินกลับมาพร้อมกับกล่องในอ้อมแขน...เธอมั่นใจว่าริคจะต้องเช่าห้องในโรงแรมไว้ แต่ขณะนี้จำเป็นจะต้องหันไปถามเขาแทน “เออ...โรงแรมที่ดีที่สุดในแอนโชเรจนี่ชื่ออะไรนะ เอาที่เป็นศูนย์กลางรู้จักกันดีที่สุดน่ะ ?”
“เวสท์เวิร์ดสิครับ” คนขับรถเอ่ยชื่อโรงแรมหนึ่งออกมา แต่แล้วก็รีบบอกอีก 2 ชื่อเพื่อให้แชนนอนได้มีโอกาสเลือก “แล้วก็ยังมี แคปเท่น คุ๊ก กับเชฟฟิลด์ เฮ้าส์อีก 2 แห่ง”
“ฉันจะพักที่เวสท์เวิร์ดก็แล้วกัน” แชนนอนเลือกแห่งแรก
“ได้...ฉันจะบอกเขาให้” ผู้จัดการให้คำมั่นแต่ท่าทางของเขาคล้ายจะยังสงสัยว่าจะมีโอกาสแจ้งข่าวนี้ไปถึงผู้รับหรือไม่