บทที่ 4 เด็กแสบ
ณ แคว้นหงส์
นางมาอยู่แคว้นหงส์ได้ห้าวันแล้วแต่ท่านแม่กับนางยังเลือกซื้อบ้านไม่ได้เนื่องจากนางไม่ถูกใจในราคาที่มันแพงแสนแพงก็จะให้นางกับท่านแม่ซื้อได้ไงเล่า บ้านไม้หลังเก่าที่ดินก็มีพอหยิบมือดมจะให้นางกับท่านแม่ซื้อมาเผาเล่นหรือไง หากยังไม่เจอที่ๆพอใจนางก็จะไม่มีทางซื้อให้เสียดายเงินเป็นอย่างเด็ดขาด
“ท่านแม่ลูกว่าที่ดินติดภูเขาดูดีไม่น้อยเลยเจ้าคะ”ถึงจะเห็นราคาที่โคตรแพงจนคนไม่กล้าซื้อแต่มันไม่ใช่กับนาง หากนางจะเอาก็ต้องได้
“คุณหนูท่านนี้ช่างตาถึงจริงๆเรือนเหมยฮวาเป็นคฤหาสน์มีพื้นที่ติดภูเขาทั้งลูกข้าขายในราคา 120,000 ตำลึงทองขอรับ”
“50,000 ตำลึงทอง!”นางไม่ได้งกแค่ราคานี้มันถูกต้องแล้วต่างหาก
“ลี่เอ๋อร์"
“ท่านแม่คฤหาสน์หลังใหญ่แถมติดภูมิเขาทั้งลูกจะให้จ่ายในราคาแพงเหมือนจะเอาเปรียบกันเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ หากภูเขาลูกนั้นเกิดมีสัตว์อสูรดุร้ายขึ้นมาจะไม่เท่ากับว่าเราสองคนเอาชีวิตไปทิ้งหรือเจ้าคะ”หึ! นางก็แค่พูดไปงั้นและไม่รู้ว่ามันจะมีจริงๆอย่างพูดไปซะหน่อย?
“จริงด้วย"
“เอ่อ งั้นข้าขายให้ในราคา 50,000 ตำลึงทองก็ได้”
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”
เมื่อทำการซื้อขายเสร็จสิ้นนางก็ขอท่านแม่ไปเดินเล่นในตลาดระหว่างรอรถม้าให้ไปส่งยังบ้านหลังใหม่ของนางกับท่านแม่ แต่เพราะนางเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นจึงวิ่งเข้าวิ่งออกร้านนู้นร้านนี้ที จนไปถึงร้านขายอาภรณ์แห่งหนึ่ง
“ระวัง!”
“ห๊ะ!”
พรึ่บ!
มีชายชุดดำคนหนึ่งเข้ามาช่วยชีวิตของนางเอาไว้ไม่ให้โดนป้ายไม้ล้นใส่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ตั้งแต่เกิดมาพึ่งจะเจอคนรูปหล่อขนาดนี้ แถมยังช่วยชีวิตของนางเอาไว้อีกช่างเป็นวาสนาอะไรเยี่ยงนี้
“เด็กน้อยเป็นอะไรไหม?”ไม่ๆ นางคงได้แค่ฝันก็อยู่ในร่างของเด็กหญิงห้าขวบนิเนอะความหล่อไม่มีทางทำให้นางหลงได้หรอก เชอะ! หากจะเป็นท่านพ่อของนางก็ต้องเก่งกาจอีกสักนิด! ใจเย็นไว้ๆ
“มะ…ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”
“ทีหลังเดินดูระวังๆด้วยเข้าใจไหม”
“เจ้าค่ะ”
“เด็กน้อยเหตุใดจึงมาเดินอยู่คนเดียวแล้วพ่อแม่ไปไหน”
“ข้าเกิดมาอาภัพนักท่านพ่อตายส่วนท่านแม่ก็ต้องกลายเป็นหญิงหม้ายมีลูกติดเช่นข้าท่านแม่ข้างดงามมากเลยเจ้าค่ะ”ทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้เพื่ออนาคตที่สดใสๆ
“หื้อ!”
“ท่านผู้มีพระคุณลี่เอ๋อร์ขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตเจ้าค่ะ”นางประสานมือทำความเคารพผู้มีพระคุณ
“ไม่เป็นไร?”
“ลี่เอ๋อร์หิวหากท่านผู้มีพระคุณจะกรุณาเลี้ยงข้าวลี่เอ๋อร์สักมื้อได้หรือไม่เจ้าคะ”นางเอียงคอถามทำท่าให้ดูน่ารักที่สุด
“ฮึ ฮึๆ เอาซิข้าจะเลี้ยงข้าวลูกแมวแสบอย่างเจ้าสักมื้อ”เขาไม่เคยเจอเด็กที่ไหนแสบขนาดนี้มาก่อนเลย เขาเป็นคนช่วยชีวิตเด็กหญิงเอาไว้แท้ๆแต่กลับต้องมาเลี้ยงข้าวลูกแมวแสบแทน จะว่านางน่ารักก็ไม่เชิงเพราะดูจากภายนอกก็แค่เด็กหญิงทั่วไปหากไม่สังเกตดีๆก็จะไม่รู้ว่าเด็กหญิงคนนี้ช่างดื้อรั้นอย่างมีแผนการบางอย่าง
เพราะระบบปิดปรับปรุงนางเลยไม่มีตัวช่วยหรือทางเลือกอะไรมากมายคงต้องได้แต่รอว่าเมื่อไหร่ระบบจะกลับมา เรื่องเงินทองนางก็ยังพอมีอยู่บ้าง เนื่องจากระบบปิดปรับปรุงมันจึงทำให้นางไม่สามารถถอนเงินรางวัลออกมาใช้จ่ายได้ เรียกได้ว่าตอนนี้นางก็คือยาจกดีๆนี้เอง ทรัพย์สินที่นางนำมาจากตระกูลต้าก็ถูกนำไปแลกเปลี่ยนกับโฉนดที่ดินมาแล้วเรียบร้อย ทางเลือกเดียวในตอนนี้ก็คือขอร้องไห้ชายชุดดำยอมเลี้ยงข้าวนางอย่างช่วยไม่ได้ ขอท่านแม่มาเดินตลาดทั้งทีจะมาเสียเที่ยวได้ไงจริงไหม
ณ โรงเตี๊ยมเหิงเยว่
“ท่านมีนามว่าอะไรหรือเจ้าคะ”เด็กหญิงถูกพามายังโรงเตี๊ยมขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในแคว้นหงส์ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครมาจากไหนพอเดินเข้ามาภายในโรงเตี๊ยมต่างก็มีคนมากมายให้ความเคารพเขาไม่เว้นแม้แต่เถ้าแกเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ยังต้องทำความเคารพเขา
“เยว่เทียน เจ้าสำนักธารา”เขาตอบคำถามของเด็กหญิงตรงหน้าด้วยความจริงใจไม่คิดปกปิดตัวตนว่าเป็นใครมาจากไหน
“เจ้าสำนักธารา!”แย่จริงๆเลยนี่นางมาเจอตัวอันตรายหมายเลข 1 ได้ไงเนี่ย แถมคนตรงหน้าก็ดูจะเป็นคนดีมากกว่าคนเลวระบบก็ดันมาปิดปรับปรุบแล้วทีนี้นางจะใช้ตัวช่วยอะไรได้อีก
“ข้าดูไม่เหมือนหรือ”
“เปล่าเจ้าคะลี่เอ่อร์แค่สงสัยว่าคือที่ใดกัน”พูดออกไปได้ไม่อายปากมีหรือนางจะไม่รู้ว่าสำนักธารานั้นคือสำนักในโลกเซียนที่อยู่ทางตอนใต้ของทิศตะวันออก ใช้เวลาเดินทางถึงสามวันแถมยังต้องเดินข้ามผ่านภูเขาสามลูกหากเป็นคนธรรมดาอย่าว่าแต่จะไปถึงเลย คงได้ตกตายก่อนมันเป็นเขตอันตรายที่พวกสัตว์อสูรระดับสูงอาศัยอยู่ แล้วสิ่งที่หน้ากลัวกว่าสัตว์อสูรก็ต้องเป็นเจ้าสำนักธาราผู้มีอำนาจเหนือกว่าคนทั่วไปเพราะเขานั้นไม่ใช้มนุษย์หรือเซียนธรรมดาๆ แต่เขาผู้มีสายเลือดของราชาปีศาจกับแม่ทัพแดนสวรรค์เป็นบุคคลอันตรายที่สุดในโลกนี้ก็ว่าได้
“เจ้ายังเด็กเอาไว้โตอีกหน่อยก็จะรู้เอง”
“เจ้าค่ะ”โล่งอกไปทีที่เขายังไม่รู้ว่านางรู้โชคดีของความเป็นเด็กสินะ
“ถึงตาเจ้าบ้างแล้วเด็กน้อยเจ้ามีนามว่าอะไร”
“ลี่ชิงเจ้าคะ หรือจะเรียกลี่เอ่อร์ก็ได้เจ้าค่ะ”นางไม่ใช้คนในตระกูลต้าอีกแล้วการที่ไม่พูดชื่อตระกูลเดิมของท่านแม่ออกไปน่าจะดีกว่า เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ทำความรู้จักกันเสร็จแล้วก็ได้เวลากินอาหารสักที
“งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าแมวแสบดีไหม”
“เอ๋?”แมวแสบ คนแบบนี้ก็มีอยู่จริงๆด้วยไม่ชอบเรียกเหมือนใคร
“แมวแสบ น่ารักดี”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”ไม่ไหวๆสายตานั้นมันพิฆาตใจชัดๆ
“เสี่ยวเอ้อขอเมนูด้วย”
“มาแล้วขอรับนายท่าน”
นางจำได้ว่าเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนตั้งแต่เข้ามาในโรงเตี๊ยมไม่เห็นว่าเขาจะรีบร้อนสั่งอาหารแต่ทำเพียงรินน้ำชาจิบเล็กน้อยระหว่างที่พูดคุยกับนาง คนๆนี้ไม่ธรรมดาเลย
“แมวแสบเจ้าสามารถสั่งได้ตามสบายเลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“จะดีหรือเจ้าคะ”นางถามออกไปทั้งทีในใจกลับดีใจสุดๆ เดี๋ยวท่านจะได้รู้จักคำว่าพูดไม่ออกร้องไม่ได้มันเป็นยังไง
“ข้าบอกจะเลี้ยงย่อมเป็นเช่นนั้นแน่”
“งั้นข้าเอา…..”
เวลาผ่านไปสักพักคนทั้งสองก็กินอาหารจนเสร็จ แต่ใครบางคนกลับทำสีหน้ายากจะคาดเดานางก็ได้แต่มองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ ไหนว่าไม่ต้องเกรงใจไงนางก็แค่สั่ง ปลากะพงนึ่งมะนาวที่มีราคาแพงที่สุดของร้านไปหนึ่งจาน ตามด้วยหมูหั่นชนิดหายากเพราะมันคือสัตว์อสูรระดับสองที่มีราคาแพงมากในตลาดของแคว้นหงส์ และเมนูสุดท้ายก็คือของที่แพงแสนแพงน้ำผึ้งเหมันต์ น้ำผึ้งหายากที่สุดของโลกว่ากันว่าคนที่กินเข้าไปจะมีพลังปราณเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเลยก็ว่าได้
“รายการอาหารรวมเป็น 500,000 ตำลึงทองขอบรับ”อาหารอะไรเนี่ยโคตรแพงอ่ะ นางได้แต่คิดว่าต่อไปจะไม่มากินร้านนี้อีกอาหารแพงขนาดนี้ใครมันจะไปมีเงินจ่าย จนลืมไปว่าตัวเองนั้นยิ่งกว่ามหาเศรษฐีที่รวยจนไม่รู้ว่าจะรวยยังดีแล้ว
“ไม่ต้องทอน”
“ขอบคุณที่แวะมานะขอรับ”
“อืม”
“รวยจริงๆด้วย”นางพูดเบาๆแต่คนอย่างเขาหรือจะไม่ได้ยินก็เป็นถึงเจ้าสำนักธาราผู้ที่อยู่ในขั้นปรมาจารย์สืบทอดสายเลือดของสองชนเผ่ามีหรือที่นางพูดเบาแล้วเขาจะไม่ได้ยิน
“แมวแสบเจ้าคิดจะปล้นกันหรือไง”
“ไม่ได้คิดแต่ทำไปแล้วเจ้าค่ะ”นางเปล่าคิดนะทำลงไปแล้วต่างหากคนอะไรจ้องนานขนาดนี้คิดจะกินเด็กหรือไง
“ช่างเถอะเพราะข้ารวย!”พูดออกมาหน้าตาเฉยความกวนนั้นมันคืออะไรมีการกระตุกยิ้มใส่นางอีก
“ลี่เอ่อร์มีคำถามเจ้าคะ”
“ว่ามาสิ”
“ท่านมีอายุเท่าไหร่”
“10 ปี”
“โกหกน่า!”
“ที่เห็นข้าดูโตอาจจะเพราะยาขวดนี้”เขาหยิบยาขวดหนึ่งออกมายื่นส่งมาให้นางดู
“ยาอะไรหรือเจ้าคะ"
“ยาเสริมสร้างกายทิพย์คนที่กินเข้าไปจะมีร่างกายเหมือนผู้ใหญ่ยาคงสภาพอยู่ได้ 5 ชั่วยามหลังจากกินเข้าไป”มิน่าเล่าเขาถึงดูเป็นคนหนุ่มมีอายุนึกว่าจะได้พ่อใหม่ ที่ไหนได้เขาดันเป็นเด็ก 10 ขวบปีในร่างของผู้ใหญ่
“งั้น…ลี่เอ่อร์ควรเรียกท่านว่าอะไรดีเจ้าคะ”
“ชินอ้าย!”
“หา!”นางยังนั่งตกใจกับสิ่งที่ได้ยินอยู่
“ข้าไปละแมวแสบ”เขาวางขวดยาเสริมสร้างกายทิพย์เอาไว้ให้เด็กหญิงเพราะคิดว่านางน่าจะชอบ
“ดะ เดี๋ยว! เฮ้อ…ผู้ชายอะไรให้ยากับเด็กผู้หญิง?”แล้วนางก็ได้แต่หยิบขวดยาใส่เข้าไปในแหวนมิติก่อนจะเดินกลับไปหาท่านแม่ทั้งทีภายในหัวยังคงคิดถึงคำว่า ชินอ้าย อยู่ตลอดหากนางฟังไม่ผิดเขาพูดมันออกมาจริงๆ
[ระบบกำลังจะทำงานภายในหนึ่งนาที]
“ในที่สุดก็มาแล้ว”มาสักทีไอ้ระบบหายไปทั้งวันทั้งคืนแกจะปรับปรุงอะไรนักหนา หากไอเทมของนางหายไปละก็หน้าดูจะส่งจิตไปสังหารระบบแม่งทิ้ง! สงสัยการหาพ่อใหม่ของนางมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่คิดซะแล้วสิ ในโลกที่ใครๆก็สามารถโตได้แบบนี้มันก็…นางจะรู้ไหมว่ายาเสริมสร้างกายทิพย์มีแค่เขาเท่านั้นที่สามารถทำมันขึ้นมาได้เป็นสิ่งที่ไม่อาจหาซื้อได้ทั่วไป