บทที่ 3 กุนซือยอดรัก
บทที่ 3 กุนซือยอดรัก
[ในเมื่อโฮสไม่ต้องการความสามารถใดจากระบบ เช่นนั้นระบบจะแอบมอบความสามารถทางร่างกายให้โฮสเอง เอ...เอาอะไรดีล่ะ อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้และกัน การแสดงออกสมบูรณ์แบบ เสน่หารัญจวนใจ ร่างกายชวนหลงใหล ผิวกายเนียนนุ่มก็ดี กลิ่นกายหอมกรุ่นดุจวัยเยาว์ ร่างกายที่ไวต่อสัมผัสชวนให้ลุ่มหลงอันนี้ยิ่งดี ] ความคิดชั่วร้ายที่ดำมืดของระบบดังต่อเนื่อง หากเย่จื่ออิงได้เห็นทักษะที่ระบบเลือกให้ตนแล้ว คงได้จับระบบมาหวดฟาดแรงๆ สักหลายทีเป็นแน่
[หึๆ เรียบร้อย! เท่านี้เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ จุ๊ๆ อย่าบอกโฮสน้า....] ヾ (@~▽~@) ノ
ระบบร่าเริงและมีความสุขมากใช้เวลาวุ่นวายกับการคัดเลือกความสามารถให้โฮสของตนอยู่ครึ่งค่อนวัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงวิญญาณของโฮสได้เข้ามาอยู่ในร่างของตัวประกอบตามเนื้อเรื่องเรียบร้อยแล้ว และยังเป็นช่วงที่เนื้อเรื่องดำเนินอยู่ช่วงกลางเรื่องอีกด้วย
ซึ่งที่ถูกต้องแล้วระบบควรส่งเย่จื่ออิงไปยังต้นเรื่องเพื่อให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้มากขึ้น ทำให้โอกาสที่จะทำภารกิจสำเร็จก็จะสูงตามไปด้วย
.
.
.
เย่จื่ออิงลืมตาขึ้นพบว่าเขาถูกระบบส่งเข้ามาครอบครองร่างนี้โดยตรง เขากำลังนั่งคุกเข่าอยู่ภายในห้องทรงอักษรเสียแล้ว
“กุนซือเย่จื่ออิง นี่คือสิ่งที่เจ้าตัดสินใจแล้ว?” ฮ่องเต้โจวฉางจักรพรรดิองค์ปัจจุบันแห่งราชวงศ์โจว ผู้เป็นพระบิดาของฉู่อ๋องทรงประทับนั่งอยู่เบื้องหน้าเขา
เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับพระองค์เดินเข้าไปหากุนซือเย่ที่คุกเข่าอยู่ สองมือประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นเชยคางของอีกฝ่ายให้เงยขึ้นมา มองเห็นใบหน้าหมดจดในระยะประชิด
โจวฉางฮ่องเต้สบตากับเย่จื่ออิงชั่วขณะหนึ่ง พระองค์รู้สึกถึงแววตาของคนตรงหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
น่าแปลกที่คนคนเดิมกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง แววตาคู่นั้นช่างดึงดูดพระองค์ตัวตนที่แสดงออกมาต่อหน้าพระพักตร์หาใช่ความหยิ่งทระนงดังเช่นการก่อนไม่
เมื่อพระองค์สบตากับคนผู้นี้อีกครา ใจให้ยิ่งริษยาต่อบุตรชายของตนยิ่งทบเท่าทวี มองลึกลงไปอยู่เนิ่นนาน ดวงตาเรียวของอีกฝ่ายฉายแววสุขุมนุ่มลึก พระองค์คล้ายถูกดวงตาดำขลับคู่นั้นกลืนกิน สุดท้าย ทรงประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างห้ามใจไม่อยู่
“อื้มมม....”เย่จื่ออิงที่ตั้งตัวไม่ทันถึงกับตาตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง
ก่อนหน้านี้โจวฉางฮ่องเต้เพียงต้องการเชยชมคนผู้นี้ เพราะไม่ว่าจะพระองค์จะเพียรพยายามอย่างไรกลับใจแข็งดั่งหินผา ไม่อาจเปลี่ยนแปลงจิตใจของเย่จื่ออิงได้ จิตใจของคนผู้นี้รักมั่นบุตรชายของพระองค์ยิ่ง
เพียงแค่คิดถึงข้อเสนอนั่นยิ่งรู้สึกว่าคนชั่งหาญกล้า บังอาจยิ่ง ทั้งหนักแน่น ทั้งทระนง ทั้งยังให้ความรู้สึกอยากทำลายไปพร้อมกัน แขนแกร่งของฮ่องเต้รวบเอวคนเข้ามาในอ้อมกอด ประกบริมฝีปากกับร่างในอ้อมกอดอีกครั้ง ครานี้ปลายลิ้นกดลงเกี่ยวกระหวัดอย่างเร่าร้อนรุนแรง ไม่ให้คนได้ทันตั้งตัวสุดท้ายแม้ว่านี่ไม่ใช่จูบแรกของพระองค์ แต่พระองค์กับรู้สึกว่าจูบนี้เป็นสิ่งที่ทรงรอคอย
.
.
.