รอยรักบนรอยแค้น บทที่1.....
“ฮ่าๆ หูหมี จมูกมดจริงๆ ขนาดเพิ่งเหยียบเมืองไทยไม่ถึง10ชั่วโมง... คุณยังรู้ความเคลื่อนไหวของผมเลย”
นิโคไลหัวเราะดังลั่น หัวไหล่สั่นระริกเพราะแรงกระเพื่อม เมื่อเพื่อนรักทายถูกเผง เหมือนเจ้าตัวมานั่งอยู่ข้างเตียงของเขาเมื่อค่ำคืน
“ข่าวมันดังขนาดนั้น ไม่รู้สิแปลก” คีริวเดินกลับมาพร้อมกับเบียร์กระป๋อง เขายื่นหนึ่งกระป๋องให้เพื่อน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่เดิม
“ขนาดแอบๆ แล้วนะ ขี้เกียจตอบคำถามว่ะ” นิโคไลรู้ตัวดี เขาเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง ขยับตัวเพียงน้อยนิด ก็มีภาพฉาวๆ เด่นหราบนหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ หรือไม่ก็ตามโลกออนไลน์
“ทำใจ” ชายหนุ่มเปรย เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นจ่อปาก กรอกน้ำสีเหลืองอ่อนลงไปในอุ้งปาก หลุบเปลือกตาลง เพราะอ่อนเพลียไม่แพ้กัน
“มาทำอะไรล่ะครั้งนี้ มาเที่ยวหรือทำงาน”
สองหนุ่มสนิทสนมกันเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถตายแทนกันได้เลย คีรีวเองก็เป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของวอลคอฟเช่นกัน ดังนั้นการที่เขาปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศไทย ไม่ใช่มอสโกบ้านเกิด มันจึงไม่น่าใช่เรื่องปกติ
“ตอนแรกก็ว่าจะมาพัก แต่พอมาจริงๆ ดันมีงาน”
คีริวบ่น เขาทำหน้าย่น การเป็นบุตรชายคนเดียวใครว่าดี เขาทำงานตัวเป็นเกลียวแทบไม่มีเวลาพัก เพราะมารดาสร้างสมบัติไว้มากมายจนดูแลไม่หวาดไม่ไหว
“อ่อ...เห็นอยู่ อย่างว่าล่ะ... ช่วงนี้มันหน้าท่องเที่ยว”
นิโคไลพยักหน้าหงึกหงัก กิจการของวอลคอฟคือโรงแรม5ดาวขนาดใหญ่ มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย
“ไอ้เราก็กะจะมานอนกกสาวสัก10วัน จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินกับปี้ แต่...เซ็งว่ะ!!” คีริวกรอกน้ำสีเหลืองอ่อนเข้าปากอีกอึกใหญ่ เขาบ่นพึม เมื่อความฝันพังทลายเพราะดันมีงานด่วนเข้ามา เป็นคำบัญชาของมารดาล้วนๆ ท่านเหมือนนกรู้ว่าบุตรชายกำลังจะทำตัวเหลวไหล
“ฮ่าๆ เข้าท่า คงต้องเคลียร์งานอย่างหนัก แล้วหาเวลาทำแบบคุณว่าสักที” นิโคไลหงายหน้าหัวเราะลั่น เป็นความคิดที่สุดติ่งและน่าเก็บเอามาทดลองทำ มันคงจะเมามันสุดขอบโลก หากกิจกรรมที่ว่านั้น มีสาวๆ ทรงโตนอนครางอยู่ใต้ร่างกาย
“พอเลยๆ อย่าพูดให้เครียด คืนนี้พาไปปล่อยอารมณ์หน่อย ผมต้องบินเช้า”
คีริวโบกไม้ โบกมือ หน้ายับยู่ยี่ เซ็งสุดขีด
“ไปกระบี่เหรอ?” สถานที่ตั้งโรงแรมวอลคอฟแกรนด์แอท
“อืม...ดันมีงานห่าอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ แม่มไม่ไปก็ไม่ได้มัมโทร.จิกตลอด” ซาเนีย วอลคอฟ เป็นหญิงหม้ายที่แกร่งที่สุดในความรู้สึกของนิโคไล แม่ที่เป็นได้ทั้งพ่อ และแม่ในเวลาเดียวกัน มารดาของเขาพูดให้ฟังตลอด เอมิเรียชื่นชมซาเนียเป็นอย่างมาก เพราะซาเนียเลี้ยงบุตรชายมาเพียงลำพัง ไม่สนใจความช่วยเหลือข้างฝ่ายสามี หลังแยกทางกันเมื่อเธอจับได้ว่าคีรันแอบมีผู้หญิงอีกคน
“เอาน่า...งานคุณ คุณไม่ทำแล้วใครจะทำ” นิโคไลจิบเบียร์เย็นๆ ในกระป๋อง เขาเอนตัวพิงพนักโซฟา
“ทุกปีผมไม่มาก็ยังจัดกันได้นี่”
เขาอาจจะมาผิดจังหวะก็ได้ ทุกทีที่มาเมืองไทย คีริวมักจะหลบหนาวมาหาไออุ่นที่ประเทศเขตร้อน ช่วงคริสต์มาสของทุกปีเขาต้องอยู่ฉลองกับมารดา เพียงแต่ปีนี้ท่านมีกิจกรรมทางธรรมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน มันจึงทำให้คนติดแม่อย่างคีรินเคว้ง เขานึกถึงนิโคไลเป็นคนแรก เมื่อไม่ได้สังสรรค์กันเกือบปี คีรินจึงบินตรงมาหานิโคไลทันที แต่คำสั่งด่วนของมารดา ก็ต้องทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนการ
“น่าสนนะ แป๊บ” นิโคไลยกนิ้วขึ้นเคาะข้างขมับ เขาดันตัวลุกขึ้นยืน เดินไปกดอินเตอร์คอมเรียกใครบางคนเข้ามาด้านใน
“เกย์...เข้ามานี่แป๊บสิ”
เกย์ เลขานุการกึ่งบอดี้การ์ดส่วนตัว เขามีหน้าที่ดูแลนิโคไล และเป็นผู้ช่วยของเขาด้วย
“ครับ” เสียงทุ้มสุภาพตอบกลับมา พร้อมกับเสียงดังกริ้ก!! เมื่อประตูห้องถูกดันให้เปิด
“ดูตารางนักช่วงคริสต์มาสให้หน่อยสิ ผมพอมีเวลาว่างมั้ย?”
นิโคไลวางกระป๋องเบียร์เปล่าไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าหาการ์ดคนสนิท สองมือล้วงกระเป๋าพร้อมกับการพูดเป็นงานเป็นการ
แล็ปท็อปขนาดเท่าสองฝ่ามือถูกยกขึ้นมาเปิดดูข้อมูล หลังสไลด์หน้าจออยู่ชั่วครู่ คำตอบที่ได้ยินทำให้นิโคไลพอยิ้มออก
“ว่างตั้งแต่วันที่20ถึงวันที่2 ของปีหน้าเลยครับ ผมเคลียร์วันว่างไว้ให้เจ้านายแล้ว”