บทที่ 6
บทที่ 3
รอสส์ตกตะลึงตัวชา ครางเรียกชื่อของผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในความทรงจำของเขาตลอดเวลา ดวงตาคมกริบทอดมองหญิงสาวที่ยืนจ้องมองเขาเขม็งราวกับไม่เชื่อสายตาว่าจะมีโอกาสได้เจอหญิงสาวอีก และยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม เมื่อได้ยินราฟล์กับเรนนี่เรียกหญิงสาวว่าแม่!
“คุณแม่”
ร่างเล็กทั้งสองต่างก็โผเข้าไปสวมกอดผู้เป็นมารดาไว้แน่น
“นาขวัญ...ราฟล์กับเรนนี่เป็นลูกของผม”
รอสส์ยิงคำถามตรงเป้าอย่างไม่ต้องอ้อมค้อมหลังจากหายตกตะลึงแล้ว เขาหลุบสายตามองฝาแฝดที่น่ารักทั้งสอง ก่อนจะเงยหน้ามองสบตากับนาขวัญ พร้อมกับเค้นถามระคนตัดพ้อ
“ทำไมคุณไม่บอกว่ามีลูกกับผม”
นาขวัญไม่ตอบคำถามของเจ้าของนัยน์ตาคมกริบที่กำลังจ้องมองเธอเขม็ง หญิงสาวก้มลมโอบกอดลูกน้อยทั้งสองไว้อย่างหวงแหน กดจูบลงบนพวงแก้มของลูกน้อย พร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นระคนรักใคร่
“ราฟล์พาเรนนี่ไปนั่งทานเค้กรอมามี๊ก่อนนะคะ มามี๊ขอคุยธุระกับคุณลุงคนนี้สักครู่ก่อนค่ะ”
“ครับ มามี๊”
ราฟล์รับคำอย่างว่าง่าย แต่ก่อนจะทำตามคำสั่งของมารดา ก็ไม่ลืมหันมามองรอสส์ พร้อมกับกระซิบบอกมารดาด้วยความไม่ไว้วางใจ
“มามี๊อย่าคุยกับเขานานนะครับ เมื่อสักครู่เขาขอกอดราฟล์กับเรนนี่ด้วยครับ”
“ค่ะ มามี๊ไม่คุยกับเขานานหรอกค่ะ พาน้องไปกินเค้กก่อนนะลูก”
เอ่ยรับคำลูกน้อยแล้ว นาขวัญก็กดจูบลงบนกระหม่อมของฝาแฝดทั้งสองอีกครั้ง แล้วเอียงแก้มให้ราฟล์และเรนนี่ได้หอมแก้มของตนเองด้วย ทำเอารอสส์มองตาปรอยอยากกดจูบทั้งแม่และลูกที่อยู่ตรงหน้าเขา
นาขวัญมองตามร่างเล็กของลูกน้อยทั้งสองที่จูงมือกันเดินเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรมแล้ว ก็หันมาขึงตาใส่รอสส์ เอ่ยถามเสียงเย็น จ้องมองอีกฝ่ายเขม็งไม่มีหลบสายตา
“ใครเป็นลูกของคุณไม่ทราบคะ คุณรอสส์!”
รอสส์กัดฟันกรอดกับท่าทีอันแสนเย็นชาที่นาขวัญแสดงต่อเขา “ราฟล์กับเรนนี่เป็นลูกของผม”
“อย่ามาโมเมทึกทักเอาเองสิค่ะ ราฟล์กับเรนนี่ไม่ใช่ลูกของคุณ”
นาขวัญยังคงปฏิเสธเสียงเย็นเช่นเดิม หญิงสาวนึกดีใจที่ตนเองสามารถควบคุมสติได้ดีเป็นเลิศ ขณะอยู่ต่อหน้ารอสส์ในยามนี้
แต่...ภายใต้ใบหน้างามอันแสนเรียบเฉย ใครเลยจะรู้ว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังตกใจ อีกทั้งกำลังหวาดกลัวจับใจ ที่จู่ๆ ก็มาเจอรอสส์ที่นี่ เธอหวาดกลัวว่าเมื่อรอสส์รู้ความจริงแล้ว เขาจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่มีอยู่ล้นมือ ทำทุกอย่างเพื่อแย่งลูกน้อยฝาแฝดทั้งสองไปจากเธอ
“ต่อให้คุณปฏิเสธยังไง ผมก็ไม่มีทางเชื่อคุณ เห็นได้ชัดๆ ว่าราฟล์กับเรนนี่เหมือนผมยังกับแกะ”
รอสส์ยืนกรานตามที่ตนเองเห็น ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ดีเอ็นเอให้ยุ่งยาก เพราะเขาก็มั่นใจเกินร้อยว่าราฟล์กับเรนนี่เป็นลูกของเขา
“สายตาของคุณคงฝ้าฝางแน่ๆ ถึงมองเห็นว่าราฟล์กับเรนนี่เหมือนคุณ ลูกของฉันเหมือนฉันกับพ่อของเขา ไม่ใช่คุณ!” นาขวัญยังปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม
“พ่อของราฟล์และเรนนี่คือผม”
รอสส์กัดฟันดังกรอดๆ โมโหนาขวัญจนแทบจะจับหญิงสาวมาหักคอโทษฐานที่ปิดบังเรื่องลูกไม่ให้เขารู้ ซ้ำร้ายยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าเด็กน้อยฝาแฝดแสนน่ารักไม่ใช่ลูกของเขาอีก
“คุณมั่นใจได้ยังไงว่าราฟล์กับเรนนี่เป็นลูกของคุณ”
“ต้องให้ผมพูดด้วยหรือนาขวัญ คืนนั้นเราเมคเลิฟกัน ก่อนคุณจะหนีผมไปในตอนเช้า”
ต่อให้วันเวลาผันผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด รอสส์ก็ไม่เคยลืมค่ำคืนอันแสนสุขสม ที่เขามีนาขวัญอยู่ในอ้อมแขนเกือบตลอดทั้งคืน
นาขวัญยิ้มเยาะตรงมุมปาก เค้นเสียงตอกกลับให้รอสส์ต้องขบกรามแน่นกว่าเดิม
“แค่ครั้งเดียวในคืนนั้นไม่ได้ทำให้ฉันท้องหรอกค่ะ”
“คุณจะหลอกใครก็ได้ว่าราฟล์กับเรนนี่ไม่ใช่ลูกของผม แต่ผมมั่นใจเกินร้อยว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของผม และผมเชื่อว่าที่คุณตั้งชื่อลูกว่าราฟล์กับเรนนี่ ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อของผมด้วย”
“แหม! เรื่องมโนนี่คุณรอสส์ เนวิลล์ ขุนพลแห่งเดอะ คิง ออฟ โกลด์ กรุ๊ป ช่างถนัดซะเหลือเกิน”
นาขวัญเยาะหยันทั้งถ้อยคำและแววตา โดยไม่มีหวาดกลัวกับใบหน้าถมึงทึง และดวงตาที่ลุกวาวด้วยไฟโทสะของรอสส์
“ผมไม่ได้มโนไปเอง คืนนั้นผมไม่ได้ใช้ถุงยาง ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเอ่อ...มีอะไรกับผู้หญิงโดยไม่ได้คิดป้องกันตัว”
ในตอนท้ายรอสส์เอ่ยบอกไม่เต็มเสียงนัก ด้วยรู้ว่าจะต้องถูกนาขวัญเยาะเย้ยถากถางและเกลียดชังกับความเป็นคาสโนวาตัวพ่อของเขา
และก็เป็นดั่งที่คิดไม่มีผิด เมื่อถูกนาขวัญเหน็บแนมเสียงเย็นชา “แน่นอนว่าคาสโนวาอย่างรอสส์ ไม่มีทางพลาดท่ากับผู้หญิงคนไหนง่ายๆ เพราะเขาเห็นผู้หญิงเป็นแค่เพียงของเล่น เด็ดดมมาเชยชมจนสมใจ แล้วก็ใช้เงินฟาดหัวพวกเธอให้ไปไกลๆ จากชีวิตของเขา”
และเธอก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้หญิงที่ถูกรอสส์ เนวิลล์มองเป็นแค่เพียงของเล่น ที่มาบำเรอสวาทให้กับเขาเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
“นาขวัญ ผมรู้ว่าคุณโกรธ...”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้โกรธคุณ”
นาขวัญเอ่ยแทรกก่อนรอสส์จะทันพูดจบ หญิงสาวขยับกายเข้าไปใกล้ร่างใหญ่กำยำอีกก้าว ก่อนจะเน้นเสียงตอกย้ำเพิ่มความโกรธในตัวของรอสส์ให้เพิ่มทวีคูณ
“ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหมคะ คุณรอสส์ ว่าฉันเกลียดคุณเข้ากระดูกดำ”
“นาขวัญ!”
มือใหญ่ทำท่าจะคว้าร่างบางมาลงโทษขณะเค้นเสียงเรียกลอดไรฟัน แต่นาขวัญไวกว่า หญิงสาวก้าวเท้าถอยหนีไปหลายก้าว ไม่เปิดโอกาสให้รอสส์รังแกเธอได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
“ราฟล์และเรนนี่ไม่ใช่ลูกของคุณ อย่ามายุ่งกับเรา ถ้าคุณไม่เชื่อฟังและยังมาตามราวีพวกเราแม่ลูกอีก ฉันจะแจ้งตำรวจให้จับคุณ”
นาขวัญไม่อยู่ต่อกรกับรอสส์ต่อ เค้นเสียงขู่ฟ่อไปแล้วก็หมุนตัวเดินเร็วๆ เกือบเป็นวิ่งตรงไปหาฝาแฝดน้อยทั้งสอง ก่อนจะจูงมือลูกเดินหายเข้าไปในลิฟต์
“ฮึ! กลัวตายเลย”
รอสส์ทำเสียงเยาะอยู่ในลำคอ ต่อให้ถูกจับขังลืม เขาก็จะตามหาทวงสิทธิ์ในความเป็นสามีและพ่อของฝาแฝดแสนน่ารักทั้งสอง
รอสส์ไม่ได้เดินตามนาขวัญไป และไม่ได้เข้าไปถามประชาสัมพันธ์ว่าหญิงสาวและลูกน้อยทั้งสองของเขาพักอยู่ห้องไหน /เพราะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าประชาสัมพันธ์ไม่มีทางเผยข้อมูลของลูกค้าให้คนอื่นรู้แน่ แต่! เขามีวิธีในการสืบค้นหาที่อยู่ของนาขวัญ คราวนี้ต่อให้หญิงสาวมีปีกก็ไม่สามารถหนีเขาไปได้