บทที่ 3 เดียวดาย
ดวงตาคมเหม่อมองวิวผ่านหน้าต่างห้องพักฟื้น ริมฝีปากหนาเม้มแน่นด้วยความหม่นหมอง ในหัวสมองเขากำลังสับสนและไม่เข้าใจอะไรหลายอย่าง การหายไปของว่าที่เจ้าสาว เกือบเดือนเธอไม่เคยมาเยี่ยมเยือนอีกเลย จนกระทั่งสมภพคลิปของเธอมาให้ดู
“เธอกำลังนอกใจคุณครับ” ลูกน้องเขาบอกแบบนั้น แม้ไม่อยากเชื่อ ทว่าภาพมันฟ้องชัด
มาส่งกันที่รถ ตระกรองกอด จูบดูดดื่ม อยู่ในคลิปที่อัดไว้ เขาเคยไว้ใจวันฤดี ไม่คิดว่าเธอทำได้ลงคอ ในอกมันเจ็บร้าว หัวใจแทบแหลกสลาย ในยามลำบากเช่นนี้ ไม่มีแม้กำลังใจ มีเพียงความชอกช้ำมอบให้แทน
ประตูห้องพักเปิดออก ร่างเพรียวก้าวเข้ามา คนป่วยหันมองแววตาเรียบนิ่ง วันฤดีวางกระเป๋าสะพายแล้วหยุดยืนตรงขอบเตียง รอยยิ้มฉาบทั่วใบหน้า ภัควัตรเงียบไม่เอ่ยคำพูดใด
“โกรธเหรอคะ ที่วันไม่ได้มาเยี่ยม”
“เปล่าวัน ผมแค่แปลกใจว่าคุณหายไปไหน โทรหาก็ไม่รับสาย”
“วันแค่ต้องการเวลาค่ะ” เธอบอก
ชายหนุ่มสบตา “พอแล้วเหรอครับ สำหรับเวลาที่คุณต้องการ”
คนฟังชะงักครู่หนึ่ง “พอแล้ว” เธอตอบเสียงแผ่ว
มือหนาถูกรั้งมากุมไว้ ทว่าหัวใจชายหนุ่มกลับเย็นเฉียบ มันไม่อบอุ่นอีกแล้ว เขารู้ทุกอย่างแต่ไม่อาจโวยวาย หรือต่อว่าอีกฝ่ายได้เลย ในเมื่อตนนอนเป็นคนป่วยขยับไปไหนไม่ได้
“ฉะ...ฉัน” หญิงสาวอึกอัก
“พูดมาเถอะวัน”
“ฉันคงแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะวัตร ฉันขอโทษนะคะ” พูดจบ หญิงสาวสะอื้นออกมา
คนตัวใหญ่ดึงมือตนเองกลับแววตาเย็นชา มองใบหน้าคนที่ตนเคยรักสุดหัวใจ
“ทำไมถึงแต่งไม่ได้” เขาถามเสียงแข็งขึ้น
“หมอบอกว่าคุณ... จะเดินไม่ได้ตลอดชีวิต!” วันฤดีโพลงออกมา
ภัควัตรชะงัก คิดไว้แล้วเชียว เกือบเดือนร่างกายท่อนล่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย เพราะแบบนี้ถึงถูกทิ้งงั้นเหรอ ไม่ใช่... สมภพบอกเขาอีกอย่าง
“เธอนอกใจคุณมานานแล้วครับ ตั้งแต่หนึ่งปีก่อน ผมสอบถามคนที่นั้น บอกว่าเห็นคุณวันฤดีมาที่คอนโดนี่ทุกอาทิตย์นานเป็นปีแล้ว”
เขาหัวเราะราวกับคนบ้า วันฤดีชะงักรีบถอยห่าง
“คุณวัตร คุณเป็นอะไร!” เธอร้องถามสีหน้าตื่นตระหนก
“ทำไมคุณไม่เลิกกับผมไปคบกับไอ้หมอนั่นตั้งแต่แรก ทำไมคุณต้องหลอกผมด้วยวัน!”
มองคนรักแววตาปวดร้าว วันฤดีน้ำตานอง ร่างกายสั่นเทา
“ฉะ...ฉัน ฉันขอโทษค่ะวัตร ฉันท้อง ฉันท้องกับเขาไปแล้ว!”
ภัควัตรนิ่งงันกับสิ่งที่ได้รับรู้ ในอกแทบระเบิด มือสองข้างยกขึ้นทุบขาตัวเอง
“บัดซบเอ้ย!” เขาตะโกนลั่น
ตุบ ตุบ ตุบ
ลงมือทุบขาตนเองไม่หยุด วันฤดีรีบกดสัญญาณหัวเตียงเพื่อเรียกพยาบาล ทุกคนพากันเข้ามาที่ห้อง จับตัวภัควัตรไว้ หมอฉีดยาเพื่อให้เขาสงบลง วันฤดีมองคนรักอีกครั้ง แล้วหยิบกระเป๋าเดินหนีออกไปในทันที
อรรถวิทย์ยืนนอบน้อม แขกของบ้านถูกเข็นรถไปยังห้องรับแขก ภัควัตรกวาดตามองรอบ แต่ไม่พบคนที่ต้องการหา อรรถวิทย์ยิ้มเจือนๆ นั่งลงบนโซฟา เหลือบมองแขกเป็นระยะๆ
“ลูกสาวคุณไม่อยู่เหรอคุณอรรถ” ภัควัตรถามเสียงเข้ม
“เอ่อ... ลูกสาวคนไหนล่ะครับ”
“อย่าเล่นลิ้นกับผมดีกว่า”
“ยัยวันไม่อยู่ครับ” เขารีบตอบ
เขากระตุกยิ้มมุมปาก “ผมมาคุยเรื่องงานแต่ง ตกลงทางคุณจะเอายังไง!”
น้ำเสียงดุดันทำเอาอรรถวิทย์หน้าซีดเผือด ลูกสาวก็หายหน้าหายตาไปไหนไม่รู้ เขาทุกข์ใจมากจนแทบบ้า แล้ววันที่กลัวก็มาถึง
“คือผม...” เขาอึกอัก
ชายหนุ่มหัวเราะลั่น เจ็บจนไม่อยากอธิบาย เพียงแค่เขาพิการคนรักก็ทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งที่ตอนลำบาก เขาคนนี้เป็นคนช่วยเหลือมาตลอด
“ไม่ต้องคิดมากเลยคุณอรรถ ผมตัดสินใจให้ ผมจะยกเลิกงานแต่ง เงินกู้ที่คุณเอาไปลงทุน ผมต้องการมันคืนทั้งหมด!”
อรรถวิทย์ทรุดกายลงกับพื้น คุกเข่าต่อหน้า ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่น มันเป็นจริงอย่างที่คิด
“คุณวัตร ผมขอร้อง ผมยังหาเงินคืนให้คุณไม่ได้” อรรถวิทย์บอกเสียงเครียด
“แต่ในสัญญาจำนองบ้านคือหนึ่งปี นี่มันเลยมาแล้ว ผมมีสิทธิ์ยึดบ้านคุณใช่ไหม” น้ำเสียงเข้มรอดไรฟัน อรรถวิทย์น้ำตาคลอ
“ผมรู้คุณวัตร ผมรู้ว่าคุณโกรธยัยวัน ผมพยายามตามหาแล้ว แต่ยัยวันติดต่อไม่ได้เลย”
“เรื่องนี้ผมไม่รับรู้!” เขาตะโกนลั่น ความโกรธแล่นพล่าน