5. ไม่ขายก็ไปจับตัวมา..
ด้านเดรโกที่กำลังคุยธุรกิจขายอาวุธปืนให้กับนักธุรกิจคนไทยเสร็จ เขาก็ร่วมทานอาหารกับคู่ขาทางธุรกิจของเขาไป จนกระทั่งอีกฝ่ายพูดออกมา
“เย็นนี้ผมมีสาวไทยสวยๆไปบริการให้กับคุณเดรโกที่ห้องด้วยนะครับ รับรองว่าคุณจะต้องชอบแน่ๆ” เดวินพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มแบบรู้กัน เพราะปกติเขาก็ต้องจัดสาวๆสวยๆไปให้กับคู่ค้าของเขาอยุ่แล้ว การคุยธุรกิจมันจะได้ดำเนินไปได้ด้วยดี
“ไม่เป็นไร ผมมีคนของผมคอยบริการอยู่แล้ว” เดรโกพูดบอกไปแบบมั่นใจว่ายังไงคืนนี้เขาก็ต้องได้สาวชุดแดงมานอนครางบนเตียงของเขาแน่ๆ
“อ่อ นายครับ คือว่า” เอียนเห็นเจ้านายดูมั่นใจแบบนั้นก็เข้าไปกระซิบบอกเขาเรื่องของสาวชุดแดงทันที เพราะเขาไม่รู้ว่าเจ้านายจะเอายังไงต่อ
เดรโกได้ยินแบบนั้น เขารู้สึกโมโหที่ผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธเขา เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันถึงกล้าปฎิเสธคนอย่างเขาน่ะ แล้วเธอจะรู้ว่าว่าคนอย่างเขาไม่มีอะไรที่ไม่ได้
“ส่งคนไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นไปไว้ที่โรงแรม เย็นนี้ฉันต้องได้เห็นผู้หญิงคนนั้นบนเตียง” เดรโกพูดเสียงเข้มๆอย่างเน้นย้ำด้วยสายตามาดมั่นแบบดุๆ จนเอียนพยักหน้าตอบแบบรวดเร็ว
“ได้ครับนาย ผมจะรีบส่งคนไปจับตัวเธอครับ” เอียนบอกไป ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับรอนลูกน้องคนสนิท แล้วรอนก็พยักหน้าตอบรับไปแล้วก็เดินออกไปแบบรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เพื่อให้ได้ตามที่เจ้านายของตัวเองต้องการ
“ถ้ามีอะไรผิดพลาดให้เด็กของผมไปดูแลแทนได้นะครับ เพราะผมคัดมาแต่ของดีๆสดๆทั้งนั้นเลย” เดวินพูดถามออกไป เมื่อเขาเข้าใจว่าผู้หญิงของเดรโกคงจะไม่พร้อมดูแลเขาในคืนนี้
“ไม่เป็นไร เพราะอะไรที่ผมอยากได้ผมก็ต้องได้” เดรโกหันมาตอบแบบห้วนๆ แล้วก็มองไปที่แก้วเหล้าด้วยสายตาจดจ้อง ก่อนจะดื่มมันรวดเดียวหมดแก้ว
ส่วนเดวินที่ได้ยินคำตอบจากเขาแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไรอีก เพราะทำธุรกิจกับเดรโกมานาน จึงรู้ว่าเขาไม่ควรไปขัดใจอะไรของเดรโกตอนนี้จึงได้แต่เงียบไป
ด้านวริสาพอดูตัวเสร็จก็ถึงเวลาที่ทั้งสองครอบครัวต้องแยกย้ายกันกลับ อาเหมาก็เลยเอ่ยถามครอบครัวของเธอออกไป
“ให้ผมไปส่งไหมครับ พอดีผมไม่ได้มีธุระอะไรต่อ” อาเหมาพูดบอกไปก็มองหน้าของวริสาแล้วยิ้มออกไปแบบอยากสานสัมพันธ์กับเธอต่อ
“ได้สิๆ ให้อาเหมาไปส่งก็ดีเหมือนกันนะ จริงไหมอามีมี่” เฮงพูดไปอย่างเห็นดีเห็นงาม ทั้งที่เขาก็เรียกคนขับรถให้มารับแล้ว แต่เขาอยากเปิดทางให้อาเหมาจึงรีบตอบรับไป
“อ่อดีสิคะ ป๊าอยากให้เฮียเหมาไปส่งก็ดีค่ะ มีมี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงมีมี่ฝากเฮียเหมาด้วยนะคะ” วริสาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เพราะเธอจะไม่ยอมกลับบ้านไปโดยมีเฮียเหมาไปส่งหรอกนะ
“แล้วมีมี่ล่ะ จะไม่กลับไปพร้อมกับป๊ากับม๊าเหรอ” อาเหมาถามออกไปด้วยเสียงเบา แล้วสีหน้าผิดหวังก็ออกมาแบบชัดเจน
“พอดีมีมี่นัดกับเพื่อนไว้น่ะค่ะว่าจะไปซื้อของกันนิดหน่อย ป๊าม๊า มีมี่ไปหายัยฟางก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับค่ะ ไปแล้วนะคะเฮีย สวัสดีค่ะ” วริสาพูดบอกไปแบบรวดเร็วก่อนจะรีบวิ่งลงมาชั้นล่าง เพื่อมาหาเพื่อนสาวที่อยู่ที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะรียลากเพื่อนสาวเข้าไปหลบให้ห้องทำงานของพ่อเพื่อนสาวแบบรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรนะ ค่อยๆเข้าหาลูกสาวลุงก็แล้วกัน มีมี่คงจะยังเขินๆน่ะ เราไม่ต้องไปส่งก็ได้ ลุงให้คนขับรถมารับแล้วล่ะ” เฮงเอ่ยพูดบอกไป เมื่อลุกสาวตัวดีรีบชิ่งหนีลงไปด้านล่างไวอย่างกับลิงแบบนั้น ก็อดสงสารอาเหมาไม่ได้ที่ต้องเจอฤทธิ์ลูกสาวของเขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะพยายามให้มากกว่านี้ งั้นผมกลับก่อนนะครับคุณลุง สวัสดีครับ” อาเหมาพูดบอกไปก็เดินลงไปด้านล่าง ก่อนจะมองหาวริสาที่ลงมาหาเพื่อนสนิทของเธอด้านล่าง แต่ก็ไม่เจอเธอ เขาก็เลยเดินออกไปหาพ่อแม่ของเขาที่เดินลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านวริสาและฟาติมาที่กำลังแอบมองอาเหมาอยู่ก็มองจนอาเหมาเดินออกไป แล้วฟาติมาก็เอ่ยพูดออกไปทันที เพราะจากที่เธอได้เห็นอาเหมาแล้ว เธอคิดว่าเขาก็ใช้ได้เลยทีเดียว
“มีมี่ แกจะหนีเฮียเหมาเขาทำไมเนี่ย เขาก็หน้าตาดีนิแก ไม่ได้หน้าแปะยิ้มแบบเมื่อก่อนสักหน่อย” ฟาติมาถามเพื่อนสาวออกไปแบบสงสัยว่าหล่อขนาดนี้แล้วทำไมเพื่อนสาวของเธอถึงทำแบบนี้
“เฮียเหมาเขาก็ดูดีนะแก แต่เขารุกเกินไปอ่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้พร้อมกับอะไรกับเฮียเหมาตอนนี้ ฉันก็ต้องหนีมาตั้งหลักก่อนไหมล่ะแก” วริสาพูดบอกไปก่อนจะออกมายืนคุยกับเพื่อนสาวที่เคาน์เตอร์ด้านนอก เมื่ออาเหมาเดินออกไปจากร้านแล้ว
“เฮ้อ แกนี่มันจริงๆเลยนะ มีคนรักคนชอบแบบนี้แล้วไม่เอา แกจะไปเอาคนแบบไหนยะ” ฟาติมาพูดประชดไปอย่างอดไม่ได้
“ก็เอาคนที่ฉันพอใจแล้วฉันก็ชอบ ก็รักเขาไงแก คนเราจะแต่งงานกันได้มันก็ต้องรักกันป่ะล่ะ ไม่ใช่มาคุมถุงชนจับคู่ให้กันแบบนี้อ่ะ ฉันไม่ชอบ ฉันยอมมาดูตัวก็เพราะให้ป๊ากับม๊าฉันเขาสบายใจแค่นั้นแหละแก ฉันไม่ยอมโดนจับคู่หรอก แกคอยดูสิ” วริสาพูดไป จนฟาติมาที่เห็นพ่อแม่ของวริสาเดินมายืนอยู่ด้านหลังถึงกับทำหน้ายิ้มแห้งๆออกไปแบบกลัวๆเลยทันที ก่อนจะทำสายตาให้เพื่อนสาวรู้ตัว
วริสาก็มองหน้าเพื่อนสาวแล้วขมวดคิ้วแบบไม่เข้าใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ เธอก็รู้เลยว่าเธอต้องโดนด่าเละแน่ๆ
“มีมี่ นี่เราคิดแบบนี้งั้นเหรอ ป๊าอุตส่าห์หาคนดีๆที่เขารักแกและจริงจังกับแกมาให้ ทำไมแกถึงทำแบบนี้ห้ะ ถ้าอาเหมาเขามาได้ยิน เขาจะเสียใจแค่ไหนแกรู้ไหมมีมี่” เฮงพูดออกไปแบบไม่พอใจกับคำพูดของลูกสาว
“ก็ช่างเฮียเหมาสิคะ เขามาชอบมีมี่เองนิ มีมี่ไม่ได้ไปบังคับเขาสักหน่อย แล้วป๊าก็ไม่ต้องมานัดเหยียดมีมี่ให้เขานะคะ เพราะมีมี่ไม่มีวันให้ป๊าจับมีมี่แต่งงานกับเฮียเหมาเด็ดขาด” วริสาพูดบอกไปแบบไม่ยอม ชีวิตเธอทั้งชีวิตจะให้แต่งงานกับคนที่ไม่รักได้ยังไง เธอไม่มีวันยอมหรอก วริสาพูดจบเธอก็รีบวิ่งหนีออกไปแบบไม่อยากจะทะเลาะกับพ่อของเธอตอนนี้
“มีมี่ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ มีมี่” เฮงเรียกเสียงดังจนลุกค้าในร้านที่กำลังนั่งทานอาหารด้านล่างหันมามองกันใหญ่
“คุณคะ ใจเย็นๆก่อนสิคะ อายคนอื่นเขาบ้าง” หทัยรัตน์รีบเอามือกอดแขนของสามีเอาไว้ แล้วเอ่ยห้ามเขาไม่ให้ตามลูกสาวไป เพราะตอนนี้ทั้งสองก็ใช้อารมณ์คุยกันทั้งคู่ มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก ยิ่งจะแย่ลงด้วยซ้ำ
“ใช่ค่ะคุณลุง ลูกค้าเขาตกใจกันใหญ่แล้วนะคะ ฟางว่าปล่อยมีมี่ไปก่อนเถอะค่ะ คุณลุงก็รู้นิคะว่ามีมี่ไม่ชอบถูกบังคับ” ฟาติมาพูดเสริมออกไปอย่างออกความคิดเห็น เพราะเธอรู้จักเพื่อนสาวดี
“ลูกสาวลุงมันดื้อจนลุงอดไม่ได้น่ะสิ ลุงก็แค่อยากให้มีมี่เขาได้คนดีๆอย่างอาเหมาไปก็เท่านั้น เฮ้อ ยังไงลุงก็ขอโทษด้วยนะที่เสียมารยาทเสียงดังทำให้ลูกค้าตกใจน่ะ” เฮงพูดบ่นไป ก่อนจะขอโทษเด็กสาวที่เขาเสียงดังจนลูกค้าหลายๆคนตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง งั้นฟางขอตัวไปดูมีมี่ก่อนนะคะ ไม่รู้เตลิดออกไปไหนแล้ว” ฟาติมาพูดจบก็เดินออกไปนอกร้าน แล้วมองหาตัวเพื่อนสาวแต่ก็ไม่เจอ
ด้านวริสาที่เดินออกมาด้านนอกร้าน เธอก็รีบมาหลบพ่อแม่ของเธอที่ตรอกซอยข้างๆร้านอาหารของเพื่อนสาว
“จับตัวไปให้นาย” เสียงสำเนียงภาษาอิตาเลี่ยนพูดขึ้นมา จนวริสาหันไปมองอย่างอดไม่ได้ แล้วอยู่ๆคนพวกนั้นก็เข้ามาหาเธอแบบรวดเร็ว
“อื้อ อื้อ” วริสาร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมีคนเข้ามาจับตัวเธอไว้แล้วก็เอาผ้ามาปิดที่จมูกของเธอจนเธอสติดับวูบไปอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ถูกหามขึ้นไปบนรถตู้แล้วมันก็ขับออกไปจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว จนคนแถวนั้นมองนึกว่ามีคนเป็นลมเลยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เลยไม่ได้สนใจอะไร
ส่วนฟาติมาที่ออกมาหาเพื่อนสาวก็ไม่เจอ เธอก็หันไปบอกพ่อแม่ของวริสาที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารของเธอพอดี
“มีมี่คงกลับไปแล้วล่ะค่ะคุณลุงคุณป้า ยังไงก็คุยกันดีๆนะคะ กับมีมี่ต้องใช้ไม้อ่อนค่ะ” ฟาติมาพูดบอกไป เพราะไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสาวแล้ว
“อืม เดี๋ยวลุงจะพยายาม ไปก่อนนะหนูฟาง” เฮงพูดไปก็เดินไปขึ้นรถที่มารอรับที่หน้าร้านพร้อมกับภรรยาของเจาที่เดินจับแขนของเขา พอทั้งสองนั่งรถออกไปแล้วฟาติมาก็กลับเข้าไปในร้านก่อนจะโทรหาเพื่อนสาว เพื่อถามว่าตอนนี้เธอไปไหน แต่กลับไร้การตอบกลับจากเพื่อนสาว
“ไปไหนของแกเนี่ยยัยมีมี่” ติดมาพูดไปแบบเป็นห่วงก่อนจะหยุดโทรหาเพื่อนสาว เพราะคิดว่าวริสาคงต้องการใช้เวลากับตัวเองมากกว่า เธอจึงกลับเข้าไปในร้านเพื่อช่วยงานที่ร้านต่อทันที