ตอนที่ 1
“ได้สิคะแม่ เดี๋ยวปิ่นจับคุณชัชอยู่หมัดเมื่อไหร่ แม่จะไปเที่ยวรอบโลกเลยก็ยังได้ค่ะ”
เดือนเต็มยิ้มแก้มแทบฉีก ดวงตาเคลิบเคลิ้มตามคำบอกเล่าของลูกสาว
“ทำให้สำเร็จนะลูกปิ่น”
“แน่นอนค่ะแม่ ปิ่นจะไม่ให้พลาดแน่นอน”
สองแม่ลูกกำลังคุยกันอย่างถูกคอ ธงชัยก็เดินเข้ามาพอดี
“นั่นจะไปไหนล่ะแม่ปิ่น”
“ลูกจะไปต่างประเทศค่ะ คุณอยากได้ของฝากอะไรไหมคะ” เดือนเต็มชิงพูดขึ้นเสียเอง
ธงชัยส่ายหน้า “ผมไม่อยากได้อะไรหรอก ขอแค่ให้แม่ปิ่นกลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ”
“คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงปิ่นนะคะ ปิ่นไปกับคุณชัช ไม่มีอันตรายอะไรหรอกค่ะ”
ธงชัยจ้องหน้าลูกสาวคนโต ถึงเขาจะเป็นแค่ข้าราชการที่เกษียณอยู่ที่บ้านแล้ว แต่เขาก็พอได้ยินกิติศัพท์ความเจ้าชู้ของชัชชัย ลูกชายนายตำรวจยศใหญ่โตคนนี้มาบ้าง
“นายชัชชัยนั่นแหละที่แกควรจะระวัง”
“แหม คุณพ่อคะ นี่คุณพ่อคิดว่าปิ่นโง่เหมือนยายมุกเหรอคะ”
“คนเราจะโง่หรือฉลาดไม่ได้ดูเกรดที่จบมาจากโรงเรียน แต่ดูที่พฤติกรรม และการกระทำต่างหาก ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน ระวังจะป่อง” แล้วธงชัยก็เดินหนีไป
ปิ่นแก้วกำมือแน่น มองตามหลังบิดาไปอย่างโมโห “คุณแม่ดูสิคะ คุณพ่อลำเอียง”
“นั่นสิ รักลูกไม่เท่ากัน เป็นพ่อคนประสาอะไร” เดือนเต็มร่วมด่าทอสามีอีกคน “ปิ่นไม่ต้องไปฟังพ่อเขานะลูก อยากทำอะไรทำเลย จับคุณชัชให้อยู่หมัด พวกเราจะได้สบายไปทั้งชาติ”
“ค่ะ แม่”
แม้จะมีมารดาคอยให้ท้ายตลอด แต่ปิ่นแก้วก็ยังคงเต็มไปด้วยความริษยาที่มีต่อมุกดาไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อไม่เคยรักหล่อนมากกว่ามุกดาเลย และนี่คือเหตุผลที่หล่อนจ้องแต่จะทำลายน้องสาว
“งั้นปิ่นขอตัวก่อนนะคะแม่ แล้วปิ่นจะรีบกลับมาพร้อมกับของฝากราคาแพงๆ ค่ะ”
“จ้ะ ลูกปิ่น เดินทางปลอดภัยนะลูก”
“ขอบคุณค่ะแม่”
ปิ่นแก้วยกมือไหว้มารดา ก่อนจะลากกระเป๋าตรงไปยังรถของชัชชัยที่แล่นเข้ามาจอดพอดี ชายหนุ่มไม่เคยเข้ามาไหว้มารดาและบิดาของหล่อนเลยสักครั้งที่คบหากันมา แต่หล่อนก็ไม่เคยถือสา
“มาก่อนเวลาอีกนะคะดาร์ลิ่ง” หล่อนทักทายเสียงหวานฉ่ำ
ชัชชัยมองปิ่นแก้วด้วยสายตาหื่นกระหาย “ก็ผมคิดถึงปิ่นนี่ครับ เราไปเอากันในรถสักรอบ แล้วค่อยไปสนามบินนะครับ”
“อุ๊ย... แล้วถ้าตกเครื่องล่ะคะ”
“ผมมีเงินขนาดไหนคุณก็รู้นี่ แค่ค่าตั๋วไม่กี่แสน ผมไม่สนใจหรอกครับ คนที่ผมสนใจคือคุณต่างหาก”
ปิ่นแก้วยิ้มอย่างพึงพอใจ รู้สึกลำพองในอกว่าตัวเองสามารถเอาชนะใจของชัชชัยได้แล้ว
“งั้นก็ตามใจค่ะ จะเอากี่ครั้งก่อนขึ้นเครื่อง ปิ่นก็ไม่ขัดค่ะ คุณชัชขา”
ชัชชัยกระชากปิ่นแก้วเข้าไปบดปากจูบด้วยความหื่นกระหาย และรีบขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง มองหาข้างทางที่เปลี่ยวผู้คน และจัดการอัดกระหน่ำเข้าใส่ร่างของปิ่นแก้วจนสาแก่ใจ
มุกดาเดินออกมานอกบริษัทเพื่อที่จะขึ้นรถไปยังสถานที่ประชุมที่ชานเมือง รถคันหนึ่งจอดรออยู่ พร้อมกับคนขับที่ใส่แว่นดำเดินเข้ามาหา
“คุณมุกดา พรประเสริฐใช่ไหมครับ”
“เอ่อ ใช่ค่ะ”
หล่อนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร และเขาคนหนึ่งก็ยิ้มตอบ แต่มันเป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเหลือเกิน
“งั้นขึ้นรถเลยครับ”
“เอ่อ รถที่มารับมุกเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูรถให้ หล่อนยืนลังเลไม่กล้าก้าวขึ้นไป เพราะรู้สึกแปลกๆ
“ขึ้นรถสิครับ เดี๋ยวไปกันไม่ทันพอดี”
หล่อนก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง เมื่อเห็นมันจวนเวลาที่จะต้องเข้าประชุมแล้ว จึงตัดสินใจก้าวขึ้นไป ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะปิดประตูรถให้
“ขอบคุณค่ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ชายคนนั้นอีก นอกจากรอยยิ้มเลือดเย็น
หล่อนภาวนาให้ตัวเองคิดกลัวไปเอง
คงไม่มีอะไรหรอก...
มุกดาปลอบใจตัวเอง และนั่งเงียบๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด
คนตัวโตที่ขับรถอยู่ถอดแว่นดำออก และระบายยิ้มเลือดเย็นเต็มใบหน้า
“ฉันกำลังจะพาเธอไปลงนรก มุกดา พรประเสริฐ”
พัชรพลหัวเราะเหี้ยมเกรียมปิดดึงขวดยานอนหลับออกมาจากช่องแอร์ และโยนมันทิ้งออกนอกหน้าต่าง โชคดีที่เขาเอาผ้าปิดจมูกเอาไว้ จึงไม่ได้หลับไปพร้อมกับเจ้าหล่อน
“พล... พี่กำลังจะทำแก้แค้นให้นาย... นายจะได้หมดห่วงเสียที”
รถกะบะยกสูงพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว มุ่งหน้าออกไปจากตัวกรุงเทพฯ ลงใต้เพื่อไปยังเกาะส่วนตัวที่เตรียมเอาไว้ฆ่าศัตรูให้ตายทั้งเป็น